
31 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุมตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อตั้งคณะกรรมการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร 35 คณะ โดยมีสัดส่วน ของพรรคการเมืองที่ได้รับตำแหน่งประธานกรรมาธิการดังนี้
สำหรับจำนวนสัดส่วนกรรมาธิการ ดังนี้
จากนั้นนายพิเชษฐ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมพรรคก้าวไกล ได้ขอให้การเลือกตั้งสส.ที่จังหวัดระยองเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงค่อยจัดสรรเพราะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของพรรคก้าวไกล หากพรรคก้าวไกลชนะ แต่ทางตัวแทนพรรคการเมืองของทุกพรรคระบุว่า เราควรที่จะอยู่กับปัจจุบัน ที่มีสมาชิก 499 คน จึงตกลงกันว่าให้เดินตามหลักปัจจุบัน หากรอเลือกตั้งเสร็จกว่ากกต.จะรับรองไม่ใช่ 5 วัน 10 วันอาจจะเป็นเดือนหรือ 2 เดือนก็ได้ จึงขอเอาจำนวนปัจจุบันก่อน เพื่อให้ได้ทำงาน ในฐานะกรรมาธิการ ได้ไปพบประชาชนและแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
ดังนั้น ทุกพรรคก็ได้สัดส่วนที่ระบุไว้ ซึ่งช่วงนี้แต่ละพรรคก็จะต้องไปเจรจานอกรอบว่า พรรคไหน จะได้ประธานกรรมาธิการคณะไหน ส่วนวันที่ 4 กันยายน ให้ทุกพรรคมาประชุมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อติดตามความคืบหน้าว่า สมาชิก 499 คน ใครสังกัดอยู่ที่กรรมาธิการไหนบ้าง และในวันที่ 13 กันยายนก็จะสรุปอีกครั้งว่า ใครสังกัดอยู่คณะกรรมาธิการชุดไหน และในวันที่ 14 กันยายน จะเป็นการประชุมนัดแรกของกรรมาธิการแต่ละคณะ
สำหรับการเลือกประธานกรรมาธิการนั้น เอาความต้องการของแต่ละพรรคว่า อยากเป็นประธานคณะกรรมาธิการพรรคไหนเป็นหลัก ถ้าไม่ซ้ำกันพรรคนั้นก็ได้ไปเลยแต่ถ้าซ้ำกันก็ต้องมาคุยกันรอบ 2 ซึ่งจากที่ได้มีการพูดคุยกันคาดว่า น่าจะมีซ้ำกันไม่มาก และเชื่อว่าจะจัดสรรได้ลงตัว ส่วนกรรมาธิการที่มีความต้องการตรงกัน เช่น กรรมาธิการแรงงาน กรรมาธิการเกษตรกรรมาธิการปกครองท้องถิ่น แต่ก็เชื่อว่าจะตกลงกันได้ ซึ่งไม่เกี่ยวว่าพรรคตนเองได้รัฐมนตรีกระทรวงไหน ก็จะต้องเป็นประธานกรรมาธิการคณะนั้น อยู่ที่ความต้องการของแต่ละพรรคว่า ถนัดตรวจสอบดำเนินการด้านไหนใน 35 คณะ
ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลากกต.รับรองสส.ระยอง ที่ไม่มีเวลาที่แน่นอน อาจจะถึง 60 วันก็ให้ดำเนินการจัดสรรคณะกรรมการเช่นนี้ไปก่อน หากพรรคก้าวไกลชนะและกกต.รับรอง เวลานั้นเรามีวิปของแต่ละพรรค รวมถึงวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ซึ่งสามารถมาประชุมกันและเปลี่ยนแปลงสัดส่วนคณะกรรมาธิการอีกครั้งได้