สรรเพชญ ยินดี เศรษฐา นั่งนายกฯ ฝากเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ไม่หวั่นเป็นฝ่ายค้าน

28 สิงหาคม 2566 นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยกรณีได้นายกฯคนใหม่แล้ว โดยระบุว่า วันนี้ประเทศไทยของเราได้มีนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขอแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย และขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ปัญหาที่รุมเร้าประเทศของเราอยู่ในขณะนี้ ทั้งปัญหาปากท้องของประชาชน และสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ ปัญหาสังคม และต่าง ๆ อีกมากมาย

นอกจากการมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพแล้ว ประเทศของเราจำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ที่จะคอยตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล ไม่ให้รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ผิด เอื้อประโยชน์เพื่อพวกพ้อง อันนำมาซึ่งการทุจริตคอรัปชั่น จนกลายเป็นต้นเหตุทางการเมืองที่ผ่านมา และเชื่ออย่างยิ่งว่าหากฝ่ายค้านทำงานอย่างมีคุณภาพแล้วนั้น จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนเช่นกัน ดังที่เคยประกาศผ่านทางเฟสบุ๊คของตัวเอง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 ภายหลังการเลือกตั้ง และ ณ วินาทีนี้ ความเชื่อของก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

นายสรรเพชญ กล่าวต่อว่า ในฐานะ สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวไม่เห็นถึงความจำเป็นใด ๆ ที่ปชป. จะต้องไปเข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากจำนวน สส.พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน นั้นมีมากกว่า 314 เสียง ซึ่งถือเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมาก ๆ และถือว่ามีจำนวน สส. มากกว่าชุดรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยซ้ำ ดังนั้น จำนวนเสียง สส.ฝ่ายค้าน แทบจะไม่สามารถทำให้รัฐบาลสะดุดล้มได้เลย เว้นแต่รัฐบาลจะสะดุดขาตัวเอง

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานั้นจึงอยากให้พรรคฯ เดินหน้าทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง” เหมือนกับที่ประชาธิปัตย์เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้วในอดีต เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน สำคัญที่สุดคือการกอบกู้ศรัทธาของพรรคให้กลับคืนมา

แต่ถ้าหาก สส.ส่วนใหญ่ของพรรคฯ คิดว่าอุดมการณ์ของตนนั้น ขัดแย้งกับเสียงส่วนใหญ่ ที่ได้อ้างกันอยู่ในขณะนี้ และไม่สามารถร่วมอุดมการณ์เดียวกันได้แล้ว ตนยินดีที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ ขับออกจากพรรค โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เพราะตนไม่สามารถหักหลังพี่น้องชาวสงขลาที่ได้ให้โอกาสมา และยินดีที่จะตั้งใจทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างมีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ในฐานะผู้แทนของราษฎร ตามอุดมการณ์ที่ยึดถือมาตลอด

"สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมยึดถือและยึดมั่นเป็นสำคัญ ก็คือ คำขวัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวประชาธิปัตย์ ยึดมั่นมาตลอด 77 ปี คือ สจฺจํ เว อมตา วาจา "คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย" นายสรรเพชญ ระบุ

ด้าน นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.เขต 3 พัทลุง ปชป. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ยึดมั่นตามมติพรรค "โหวตงดออกเสียง" ที่ไม่สวนมติพรรค โดยร่วมกับ 1.นายชวน หลีกภัย 2.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 3.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ 4.นายสรรเพชญ บุญญามณี 5.นายประมวล พศ์ถาวราเดช 6.น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ 7.นายสมยศ พลายด้วง 

พร้อมระบุว่า "ผมสั่งไว้ตั้งแต่ต้นว่า จะทำอะไรลองไปคิดให้ดี การกระทำจะเกิดอะไรขึ้น ประชาชนชอบไหม สื่อชอบไหม ทำแล้วต้องหลบหน้าหรือไม่ ทำแล้วต้องแก้ตัวหรือไม่ ผมสั่งไว้ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเลือกตั้ง จึงลงมติงดออกเสียงตามมติพรรค"

ขณะที่ นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา เขต 3 ปชป. เป็นอีกคนที่โหวต "งดออกเสียง" ในการรับรอง "เศรษฐา วีสิน" เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมติพรรคเช่นกัน โดยกล่าวว่า กระผมสมยศ พลายด้วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ "งดออกเสียง" ผมยึดมั่นมติพรรคเป็นหลัก เชื่อมั่นและเครพในอุดมการณ์ของพรรคอย่างแน่วแน่ในการโหวตครั้งนี้ ไม่ว่าคนในพรรคจะโหวตอะไร แต่ตนเองยังยึดถือในการประชุมพรรคที่ผ่านมา

เพราะนี้เป็นการเมืองระดับประเทศ พี่น้องชาวเขต 3 และประชาชนทั่วประเทศเขาเห็นด้วย เมื่อเข้าไปตรวจเช็คการแสดงความคิดเห็นพบว่า มีคนชาวสงขลาเข้าไปแสดงความคิดเห็นเชิงชื่นชมอยู่ไม่น้อย #นายหัวไทร ก็ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า ไลน์ของสมยศ พลายด้วง ก็มีคนชาวสงขลาส่งข้อความไปชื่นชมเป็นจำนวนมาก แต่มีเพื่อน สส.บางคนโทรศัพท์ไปขอให้ลบข้อความ และรูปภาพออกได้หรือไม่ แต่ยันยืนยันในสิ่งที่ทำและเขียนไป

สำหรับ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติเห็นชอบสวนมติพรรคดโหวตให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี รวม 16 คน ประกอบด้วย

1.นายกาญจน์ ตั้งปอง

2.นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์

3.นายชัยชนะ เดชเดโช

4.นายชาตรี หล้าพรหม

5.นายเดชอิศม์ ขาวทอง

6.นายทรงศักดิ์ มุสิกอง

7.นายพิทักษ์เดช เดชเดโช 

8.ว่าที่ร้อยโทยุทธการ รัตนมาศ

9.นายนัยดี วาบา

10.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร

11.นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง

12.นายสมบัติ ยะสินธุ์

13.นางสุพัชรี ธรรมเพชร

14.น.ส.สุภาพร กำเนิดผล

15.พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่

16.นางอวยพรศรี เชาวลิต