" ผมอาจมีชีวิตอยู่ไม่นาน จึงต้องออกมาแฉเพื่อชาติ "
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวไว้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566
"จอมแฉ" ฉายานี้ ไม่ใช่ได้มาโดยง่าย สำหรับชายชื่อ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ผู้เป็นทั้้งนักธุรกิจ และอดีตนักการเมือง เขาผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านมรสุมหลายลูกเข้ามากระแทกชีวิต ตั้งแต่ถึงจุดสูงสุดหรือแม้แต่ต่ำสุดเคยใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ
เพราะการได้รู้จักผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งจากแวดวงสีขาวบริสุทธ์จนไปถึงสีเทา ทำให้ "ชูวิทย์" กลายเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ ที่พร้อมเปิดข้อมูลทั้งบนดินและใต้ดินออกสู่สาธารณะ
โดยเฉพาะในยุคการเมืองที่กำลังเปลี่ยนผ่านหลังการเลือกตั้ง "ชูวิทย์" คือบุคคลหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลพฤติกรรมนักการเมือง ให้สาธารณชน รับรู้
ไม่ว่าใครจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ หรือ จะถูกตอบโต้กลับว่า เป็น"คนเพ้อเจ้อ" แต่"ชูวิทย์" ก็ยังเดินหน้าทำหน้าที่ตามที่ตนเองตั้งใจว่า
" ผมอาจมีชีวิตอยู่ไม่นาน จึงต้องออกมาแฉเพื่อชาติ "
ทั้งนี้ "รายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ" เปิดใจพูดคุยกับ"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" หลังจากที่เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าตัวบอกว่า "ผมอาจมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน" พร้อมอัปเดต อาการป่วยมะเร็งตับ ล่าสุด หลังมีรายงานว่าได้ไปทำคีโมที่โรงพยาบาล ก่อนจะมีการแถลงข่าวแฉเพื่อชาติ ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้
"ชูวิทย์" พูดถึงอาการป่วยของตัวเองว่า ป่วยเป็น"มะเร็งตับ" ระยะที่ 3 ย่างเข้า 4 แล้ว และมีการรักษาทำคีโมมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนประเด็นที่บอกว่า ผมอาจจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน ชีวิตเปรียบเสมือนเส้นด้าย ซึ่งอาจจะเป็นเส้นสุดท้ายนั้น "ชูวิทย์" บอกว่า อาการในระยะที่ 3 จะเข้าระยะ 4 ซึ่งหมายถึงเชื้อมะเร็งมีโอกาสจะกระจายไปยังจุดต่างๆได้ และเป็นที่ทราบกันดีว่า มะเร็ง ในระยะที่ 4 นั้นหมายถึงเป็นระยะสุดท้ายแล้ว
วิธีการที่ผมดำรงชีวิตอยูในขณะนี้ก็จะเป็นเหมือนเส้นด้ายที่ถูกดึงออกจากแกนในช่วงสุดท้าย และภารกิจนี้จึงเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดที่ชีวิตนี้ผมมีอยู่ เรื่องที่ผมพูดเมื่อวานนี้ สุขภาพมันก็เป็นเรื่องปกติ เกิดแก่เจ็บตาย ซึ่งหลังจากที่ผมไปก็อยากจะฝากอะไรไว้บ้าง
เมื่อถามว่าเอาเวลาไปรักษาตัวดี อย่าเครียดดีกว่าไหม?
"ผมไม่เครียด ผมกำลังสนุกกับมันนะ นี่เป็นสิ่งที่ผมทำแล้วมีแพสชั่น เป็นสิ่งที่ผมมุ่งมั่น และมีความสุข ความสุขของผมคือการที่ได้พูดแล้วให้คนอื่นๆได้รับรู้ความจริง ความจริงในสิ่งที่บางคนไม่กล้าพูด หรือไม่รู้ การพูดของผมคือการปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างในตัวผมออกมา"
ก่อนหน้านี้ "ชูวิทย์" พูดถึงประเด็นแฉเพื่อชาติ โดยระบุว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีความพยายามที่จะไม่ให้ผมพูดในทุกวิถีทาง มีการนำเสนอมีการใส่ร้ายต่างๆนาๆ ผมมีเวลาอยู่ไม่เยอะในโลกใบนี้ ชีวิตผมเป็นเส้นด้าย และอาจจะเป็นเส้นสุดท้าย ผมไม่จำเป็นต้องมาแก้ตัวแล้ว เพราะเวลาอันสั้นของผมนั้น ผมยินดีให้คุณดูหลักฐานดีกว่า ดังนั้น เสียงใครจะพูดนินทาพูดไปเลย ผมนั้นไม่มีต้นทุนอะไรต้องเสียอยู่แล้ว คนที่มีต้นทุนมากที่สุดคือ คนที่อยู่ในคำแถลงการณ์แฉของตน
cr : รายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ