จับจังหวะ"ชูวิทย์ สกัด เศรษฐา" ปิดเส้นทาง"สร.1" หวังดีหรือซ่อนเร้น?

การขยับของ"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ในการดิสเครดิต "เศรษฐา ทวีสิน" เเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีผลไปถึงการตัดสินใจของสมาชิกรัฐสภาไปบ้างเเล้ว เเละยังส่งผลให้การลงมติเลือกสร.1 คนที่ 30 เลื่อนออกไป

เเน่นอนว่า สังคมให้ราคากับ"เสี่ยอ่าง"ในการเปิดข้อมูลหลายวาระ บางเรื่องก็เป็นคุณกับสังคม จนเกิดการล้างบาง เช่น ทุนจีนสีเทา เเต่บางเรื่องก็มีอะไรเเปลกๆเเละหายเข้ากลีบเมฆไปเเบบดื้อๆหลังจากรูดม่านเปิดฉาก

จนบางคนตั้งข้อสังเกตว่า"ชูวิทย์"เล่นอะไร ทำไปประสงค์ต่อผลเยี่ยงใด?

กรณีของ"เสี่ยนิด"ตามที่"ชูวิทย์"ออกมาขยับว่า"เสี่ยนิด"ทำนิติกรรมอำพราง การซื้อขายที่ดินของบริษัทเเสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในช่วงที่เศรษฐาบริหารบริษัทดังกล่าวว่ามีการเลี่ยงภาษี 521 ล้านบาทนั้น "เสี่ยอ่าง" เคยเปรยไว้ตั้งเเต่ช่วงหาเสียงว่าจะเปิดข้อมูล      "เสี่ยนิด" ในวาระดังกล่าว หากพรรคเพื่อไทยเสนอ"เสี่ยนิด"ให้สส.-สว.ลงมติ 375 เสียงขึ้นไปให้ทำหน้าที่สร.1

ง่ายๆ สั้นๆ "เสี่ยอ่าง"เปิดข้อมูลว่า"เสี่ยนิด"น่าจะขาดธรรมาภิบาลในช่วงทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

เเต่..อย่าลืมว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทยต้องรายงานผลประกอบการประจำปีเเละเผยเเพร่ข้อมูลให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุนรับทราบโดยสาธารณะเพราะความโปร่งใสนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจเเม้ว่าบางบริษัทในตลาดทุนจะมีเเผลกันบ้างเเต่ก็โดนลงโทษกันไปเเล้ว

ที่สำคัญ"พรรคเพื่อไทย"ต้องสกรีนบุคลากร นโยบายพรรคกันเข้มข้นก่อนที่จะเปิดตัวอาสาประชาชนมาทำงานเพราะพรรคทราบว่าสังคมจับตาทุกจังหวะ หากพลาดนิดเดียวก็อาจลุกลามได้ทันที

"เเสนสิริ" ได้ออกเอกสารชี้เเจงให้สังคมรับทราบไปเเล้วกับข้อมูลที่"เสี่ยอ่าง"ขยับจังหวะพาดพิง"เสี่ยนิด" เเละการที่เสี่ยอ่างขยับในช่วงที่พรรคเพื่อไทยรับไม้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศเเต่ต้องเจอกับจังหวะเยี่ยงนี้ในเวลานี้ก็น่าพินิจว่าการขยับของเสี่ยอ่างนั้นเจตนาเล็งเห็นผลประสงค์ต่อผลเช่นใด

สังเกตหรือไม่ว่าการขยับของ"เสี่ยอ่าง"ในการเเฉหลากวาระในหลายห้วงเวลานั้น "เสี่ยอ่าง"อ้างว่าจะจับตา"คนในข่าวเเละคนเเวด ล้อม" ที่น่าสนใจบางชีวิต เเต่หากมองลึกๆบางเรื่องที่"เสี่ยอ่าง"ขยับก็คล้ายมีวาระซ่อนเร้น 

เช่นสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว+พรรคภูมิใจไทย+บุคคลในป.ป.ช.ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา"ชูวิทย์"เปิดเรื่องนึ้ไว้น่ากลัวเเต่ท้ายสุด "เสี่ยอ่าง"หายเข้ากลีบเมฆไปดื้อๆ หลังสังคมทราบว่าป.ป.ช.ชี้มูลการต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าว จากนั้น"เสี่ยอ่าง"เบนประเด็นไปเรื่องต้านกัญชาเสรีของพรรคสีน้ำเงินเเละยามนี้ก็ยุติจังหวะไปเเล้ว

หรือเคส "สวนชูวิทย์จำนวนหกไร่" ที่เจ้าตัวประกาศยกให้กทม.ทำเป็นสวนสาธารณะที่ซอยสุขุมวิท 10 เพื่อขอลดโทษบนความผิดรื้อบาร์เบียร์ เเต่ไม่นานมานี้ ก็เเถไปว่า"ชูวิทย์"ไม่ได้ยกให้ฟรี ๆ เพราะ"เสี่ยอ่าง"ยังเสียภาษีที่ดินให้กทม.เเละตอนนี้ขอที่ดินคืนเพื่อไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เเต่สังคมรู้เเล้วว่า ข้อมูลที่สื่อมวลชนนำเสนอพบเเละตอกย้ำ "สวนชูวิทย์" เป็นสาธารณะสมบัติ เพราะเอกสารประกอบคำให้การต่อศาลทั้งแผนที่-ภาพถ่ายระบุชัด"เสี่ยอ่าง" ยกให้เป็นสวนสาธารณะหมดทั้งแปลง โดยไม่กำหนดระยะเวลา ไม่ใช่แค่บางส่วนตามที่ "ชูวิทย์" เฉไฉเเละขอคืนพื้นที่

ดังนั้น การขยับเเต่ละครั้งของ"เสี่ยอ่าง" สังคมควรมองรอบด้านว่าเเต่ละวาระนั้น"เสี่ยอ่าง"ประสงค์ต่อผลเช่นใดเเละมีอะไรเป็นเเรงจูงใจรวมทั้งมีใครเป็นกองหนุน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ทุกฝ่ายวิเคราะห์ชั้นต้นได้ว่า"ชูวิทย์"ขยับเเต่ละครั้งจริงใจหรือจิงโจ้มากกว่ากัน?