24 กรกฎาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 50 ได้ไปยื่นเอกสารข้อกล่าวหาที่ ปปช. เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีกับ สส.และ สว. ที่ออกเสียงเห็นชอบ ให้งดการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมรัฐสภาเป็นญัตติ ซึ่งเป็นการขัดข้อบังคับประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 โดยทั้งหมด 395 คน รวมถึง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่รู้เห็นเป็นใจให้กระทำการดังกล่าว โดยมีนายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับเอกสาร
นายเศวต กล่าวต่อ การประชุมรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่กลับบิดเบือนโดยทุจริตต่อหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ เห็นชอบว่าเป็นญัตติซ้ำ ขัดต่อข้อบังคับมาตรา 41 ดังนั้นการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องทำตามกฎหมายอย่างละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่ รัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในมาตรา 159 ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 272 และ ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาหมวด 9 ที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ สส.และสว.มีเจตนาจงใจไม่ทำตามกฎหมาย ก็มีความผิดตามกฎหมายป.ป.ช. มาตรา 4 เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุจริตต่อหน้าที่มีบทลงโทษจำคุก
"หัวหงอกทั้งหลาย ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายไม่รอบคอบ ในการดำเนินการเจตนาจงใจที่จะกระทำการทุจริต ท่านต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้น" นายเศวต กล่าว