svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ถอยดีกว่า! "ชูวิทย์" ชี้ทาง"พิธา-ก้าวไกล" อย่ายึดติดม.112-มวลชนบางส่วน

14 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ถอยดีกว่า! "ชูวิทย์" ชี้ทาง"พิธา-ก้าวไกล" ระบุ อยากเป็นรัฐบาลอย่ายึดติดกับสถาบัน-คะแนนเสียงมวลชนบางส่วน เชื่อ ม.112 เรื่องเดียวจะทำให้ไม่ได้ทำเรื่องใหญ่อื่นๆเลย

14 กรกฎาคม 2566 ภายหลังจากผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ปรากฏว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พ่ายไปในยกแรก ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ถอยดีกว่า”

วันนี้การโหวตเลือกนายกฯ ได้เห็นแล้วว่าไม่ผิดจากที่ผมพูดไว้ แผนสกัดพิธา “มีก้าวไกล ไม่มี ส.ว.” ไม่มีอะไรแปลกใจ แม้ว่าพิธายังยืนยันหลังผลการโหวตแพ้ว่า การต่อสู้ยังไม่จบ “ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้”

โหวตครั้งที่ 2 หากมีโอกาส ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม ก้าวไกลจึงต้องถึงทางเลือกว่า “ยอมถอย เรื่อง ม.112 ดีกว่า” เพราะเป็นการสร้างความแตกแยก และเป็นเงื่อนไขให้พิธาไม่ได้เป็นนายกฯ

"ชูวิทย์" แนะ "พิธา-เพื่อไกล" ถอยดีกว่า

การขึ้นเป็นรัฐบาล ไม่จำเป็นที่ต้องยึดเรื่องปฏิรูปสถาบันเป็นหลัก มีเรื่องสารพันให้ทำอีกมากมาย ผมมั่นใจว่าใน 14 ล้านเสียง ไม่ได้ต้องการเรื่องปฏิรูปสถาบันมาเป็นเรื่องแรกๆ เสียด้วยซ้ำ ก้าวไกล ได้คะแนนเสียงจาก “มีลุง ไม่มีเรา” ปฏิรูปกองทัพ ยุบ กอ.รมน. กฎอัยการศึก ล้มเผด็จการ รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้ประเทศไทยติดหล่มมาถึง 9 ปี

นี่ต่างหากที่ก้าวไกลต้องปฏิรูป วันนี้ยังมีโอกาสที่ก้าวไกลจะถอย หากไม่ดื้อ และยึดติดกับคะแนนเสียงมวลชนบางส่วน ทุกอย่างมีขึ้นและมีลง คะแนนเสียงไม่ได้อยู่กับก้าวไกลตลอดไป มันไม่ใช่ “การถ่มน้ำลายรดฟ้า” แต่เป็นการถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ทั้งที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่แค่ 14 ล้านเสียง แต่ต้องทำให้คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเลือกก้าวไกลหรือไม่ต่างหาก

บทพิสูจน์ของก้าวไกลก่อนจะสายเกินไป เรียนรู้การลำดับว่า อะไรที่สำคัญกับชาติบ้านเมืองก่อน ไม่มีใครทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยังไม่ถึงเวลาต้องทำ ม.112 ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ก้าวไกลสัญญาไว้กับประชาชน ประเทศไทยยังมีอีกสารพัดเรื่องให้ทำหากเป็นรัฐบาล ผมรับประกัน ม.112 เรื่องเดียวจะทำให้พิธา ไม่ได้ทำเรื่องใหญ่เรื่องอื่นเลย

พิธาย้ำเสมอว่า “เป็นผู้นำต้องมีสติ ไม่มุทะลุ รู้จักว่าเวลาไหนควรรุก เวลาไหนควรถอย” การดึงดันแก้ไข ม.112 แม้รู้ว่าปลายทางไม่มีทางผ่าน นอกจากตอบสนองความต้องการของมวลชนกลุ่มหนึ่ง แล้วจะดันทุรังทำไปทำไม ทั้งที่สามารถบอกประชาชนได้ว่า

“ก้าวไกลเป็นรัฐบาลผสม ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียว ไม่มีพรรคร่วมใดเห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112 เลยแม้แต่พรรคเดียว” หากต้องการเอา ม.112 มาเป็นเรื่องหลัก ขอให้ครั้งหน้าประชาชนเลือกพรรคก้าวไกลเกินครึ่งไปเลย

ผมพูดจากประสบการณ์การเมือง และหาทางประนีประนอม เพื่อให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเอง หรือฐานมวลชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ข้อแนะนำของผม คือ “ยอมถอยดีกว่า”

logoline