svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พิธา"ย้ำไม่คุ้มที่จะแกล้งหรือสกัดกั้นเพราะราคาที่ต้องจ่ายสูง

12 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พิธา"ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ หลัง กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหุ้นสื่อ ย้ำไร้โอกาสชี้แจงและดำเนินการเร็วสุดในประวัติศาสตร์แค่ 32 วัน ต่างจากอดีตรมต.สมัย คสช. ลั่นไม่คุ้มถ้าจะสกัดกั้นหรือรังแกผมคนเดียว เพราะมีราคาที่ต้องจ่ายสูง

12 กรกฎาคม 2566 "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้กำลังใจภายหลัง กกต. มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคุณสมบัติ กรณีการถือครองหุ้น ITV นั้น ส่วนตัวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ หลังจากทราบว่า ตนถูก กกต.ส่งคำร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง น.ส.แพทองธาร และ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย รวมถึงประชาชน ทั้งที่เป็นข่าวและส่งข้อความมา

ทั้งนี้ ส่วนตัวยืนยันว่า ยังสติมี กำลังใจมี และพร้อมเดินหน้าตามปกติไม่มีปัญหาอะไร และไม่ได้กังวลว่าจะถูกนำไปเป็นข้ออ้างในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ส. และ ส.ว.ในวันพรุ่งนี้ (13ก.ค.) เพราะ ส.ว. หลายคน ได้ออกมาบอกแล้วว่าไม่น่าเป็นเรื่องที่จะต้องมาพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับเรื่องคดีหรือนโยบาย เพราะมีหน้าที่ตามหลักการ และเป็นนักการเมืองของประชาชน ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอยู่แล้ว รวมถึงสื่อมวลชนและประชาชนด้วย จึงคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

"ปัญหาคือว่า ไม่รู้จะตั้งรับหรือตอบอย่างไร เพราะผมไม่ได้มีโอกาสที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องเลย และใช้เวลาพิจารณาเรื่องของผม 32 วัน น่าจะใช้เวลาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อเทียบกับรัฐมนตรี 4-5 ท่าน สมัยก่อนตอน คสช. ก็ใช้เวลาอยู่กว่า 300 วัน แต่ของผมใช้เวลา 32 วัน แล้วยื่นศาลรัฐธรรมนูญ 1 วัน ก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผมไม่มีโอกาสชี้แจง" นายพิธา กล่าว 

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ทราบว่า กกต. สงสัยในประเด็นไหนเกี่ยวกับเรื่อง ITV และมากกว่านั้นคือเรื่องที่ประชาชนสงสัย และการทำงานของสื่อมวลชน โดยเฉพาะที่ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับรายงานการประชุมไม่ตรงกัน ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ถามและชี้แจง หากเรียกเข้าไปชี้แจงตามกระบวนการ กกต. ก็คงจะสิ้นความสงสัย ไม่เป็นปัญหาให้เกิดเดตล็อกอย่างนี้ เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

เมื่อถามว่า หากศาลเปิดให้ชี้แจงไต่สวน พร้อมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า "แน่นอน พร้อมทุกกระบวนการ"

ส่วนจะเป็นการกลั่งแกล้งทางการเมืองอย่างชัดเจนหรือไม่นั้น และขณะนี้มีการนัดหมายการชุมนุมกันแล้ว นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวหวังจะไม่เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง จนทำให้สู่การชุมนุมในขณะนี้ 

"เพราะการกลั่นแกล้งผมเพียงคนเดียว มีราคาที่ต้องจ่ายสูง กับระบบกลไกในการบริหารราชการ และบริหารประเทศ และหลักเกณฑ์ที่เป็นบรรทัดฐานของนักการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย หากจะสกัดกั้นผมเพียงคนเดียวหรือพรรคก้าวไกล โดยที่ไม่ให้เข้า แต่เป็นเรื่องเสียงของประชาชนที่ออกไปเลือกตั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เป็นความหวังของเขา" นายพิธา ระบุ

ส่วนการชุมนุมที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา ไม่มีสถานการณ์อะไร และเข้าใจว่าส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย คือ การรวมตัวกันอย่างสันติ เพื่อควบคุมวาระทางสังคม ซึ่งตนย้ำว่า ไม่ได้เสียขวัญกำลังใจอะไร เข้าใจว่ามวลชนมีอารมณ์ เพราะเลือกคนของเขามาแล้ว หากมุทะลุมากเกินไป จะไม่เป็นผลดีกับสิ่งที่จะทำ อะไรที่สำคัญ อะไรที่ยิ่งใหญ่ ต้องใช้เวลา และมีความยากเสมอ ตนเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆได้

สำหรับวันพรุ่งนี้ (13ก.ค.) จะเดินทางเข้ารัฐสภาเป็นปกติ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ และตอนนี้ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ กกต. ยื่นคำร้อง 

เมื่อถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่สถานการณ์จะวนลูปเดิมหรือจะแย่กว่าเดิม เมื่อสถานการณ์ต้องถึงจุดที่ต้องเลือกตามที่เลขาธิการพรรคก้าวไกลได้บอกไว้นั้น ตนมองว่า มีความเป็นไปได้ เพราะความท้าทายของประเทศไทยตอนนี้หนักกว่าช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เจอสถานการณ์โควิด-19 และสงครามต่างๆ ถึงต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและมีความชอบธรรมในการบริหาร สามารถขอความร่วมมือจากประชาชนได้ ซึ่งนั่นหมายถึงต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยตอนนี้ยังไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์ ส.ว.ว่าจะมีการโหวตให้เท่าใด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายพิธา ได้เดินสายออกรายการตั้งแต่ช่วงเข้าจนช่วงเย็น ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตามปกติ และหลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นก็เดินทางกลับไปประชุมร่วมกับทีมงานพรรคก้าวไกลต่อทันที

logoline