จนแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเงื่อนไขใดๆ ขอเพียงให้ยึดหลักการพรรคอันดับ 1 ได้เก้าอี้ประธานสภาเท่านั้น
โดยไทม์ไลน์ที่ทางฝั่งก้าวไกลวางเอาไว้ เพื่อแสดงให้สังคมเห็นว่า สองพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยังคุยกันได้ และคุยกันจบแน่ ก็คือ
แต่ล่าสุดมีข่าวจากสื่อบางแขนง อ้างรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยว่า ข่าวที่ออกจากพรรคก้าวไกลว่า "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" จะไปขึ้นรถแห่กับ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ที่ จ.ขอนแก่น นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะ"อุ๊งอิ๊งค์" ติดภารกิจในวันดังกล่าว แถมยังเพิ่งคลอดบุตร จึงไม่สะดวกเดินทาง
สำหรับเรื่องประธานสภา มีการหารือกันหลวมๆ ว่าจะต้องได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกหลังเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีรายงานข่าวจากพรรคก้าวไกลผ่านสื่อเป็นระยะในช่วงนี้อย่างผิดปกติ
"เนชั่นทีวี" ตรวจสอบกับแกนนำพรรคก้าวไกล ได้ความว่า ข้อเสนอไทม์ไลน์การทำงานร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ตามที่ "สื่อเครือเนชั่น" เสนอข่าวไปนั้น เป็นความจริงทั้งหมด
แต่ล่าสุดพรรคเพื่อไทย "เท" ทุกนัดหมาย คือ ยกเลิกนัดหมายทุกอย่าง ทั้งการหารือกัน 2 พรรค ในวันที่ 30 มิ.ย. การขึ้นรถแห่ร่วมกันของ 2 แคนดิเดตแกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการประชุมหัวหน้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็อาจจะยกเลิกด้วย
จากท่าทีทั้งหมดนี้ ทำให้แหล่งข่าวซึ่งเป็นแกนนำระดับสูงของพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยคงไม่ยอมรับเงื่อนไขของพรรคก้าวไกลเรื่องตำแหน่งประธานสภา และคงปล่อยให้ไปโหวตแข่งกันในที่ประชุมสภา ซึ่งมีโอกาสสูงที่แคนดิเดตของพรรคก้าวไกลจะพ่ายแพ้