"วิษณุ"ย้ำต้องได้ประธานสภาใน 10 วันหลังรัฐพิธี

29 มิถุนายน 2566 "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหากไม่สามารถเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่นัดประชุม ว่า คนยังนึกไม่ออกว่าเหตุใดจึงจะเลือกไม่ได้ เว้นแต่เมื่อนัดแล้วจะเลื่อนออกไป ถ้าตัดสินใจให้มีการเลือก ก็ต้องเลือกได้ ซึ่งการเลือกประธานสภา ต้องเป็นไปตามกรอบเวลา 10 วัน หลังจากที่มีรัฐพิธีเปิดสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่มีที่จะเลือกไม่ได้

ทั้งนี้ ไม่เหมือนกับการเลือกนายกรัฐมนตรี อาจจะเลือกไม่ได้เนื่องจากต้องใช้เสียง  2 สภาฯ ขณะที่ประธานสภาใช้เพียงเสียงจากสภาเดียว และใช้เสียงข้างมาก สามารถทำได้ ส่วนเมื่อถึงวันนัดแล้วไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ก็แล้วแต่ประธานสภาจะนัดหมาย ซึ่งไม่มีกรอบเวลา

สำหรับการเสนอชื่อประธานสภา สามารถเสนอชื่อได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ส่วนพรรคลำดับ 1 และลำดับ 2  แข่งขัน พรรคร่วมรัฐบาลเดิมสามารถเสนอชื่อขึ้นแข่งได้ ถึงบอกว่าโอกาสที่จะเลือกไม่ได้มันไม่เกิดขึ้น  2 พรรค ใครคะแนนเสียงมากสุด พรรคนั้นก็ได้ตำแหน่งไป  

 

เมื่อถามว่า หากพรรคในลำดับที่ 3 ซึ่งเป็นขั้วรัฐบาลเดิมเสนอชื่อ และได้เสียงมากกว่ามีสิทธิ์ส้มหล่นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้ำคำเดิมว่า ยังไม่เห็นเหตุที่จะเกิดขึ้น เพราะตอนเสนอสามารถเสนอได้พร้อมกัน ใครได้คะแนนมากสุด พอได้ตำแหน่งประธานสภา ไปหาพรรคลำดับที่ 3 ต้องการเสนอแข่ง ก็เสนอไป

"ยังไม่เห็นเหตุที่จะเลือกไม่ได้ ยกเว้นว่า นอกจากต้องการฟังการแถลงวิสัยทัศน์ สมมติว่าถ้าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ ถ้าฟังแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ก็สามารถนัดมาต่อในวันพรุ่งนี้ได้ ซึ่งการแสดงวิสัยทัศน์นี้แล้วแต่มติที่ประชุม อะไรไม่ได้ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราวไม่สามารถกำหนดอะไรได้ ทำหน้าที่เพียงนั่งเป็นประธานการประชุมชี้ว่าให้ใครพูด" นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า อำนาจการทำหน้าที่ประธานสภา โดยเฉพาะควบคุมการเลือกนายกรัฐมนตรี หรือสุดท้ายจะเป็นมติของสมาชิก นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานมีอำนาจเพียงกำหนดวันให้เลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนถึงเวลาจะเลือกอย่างไรหรือมีกี่รายชื่อ เป็นเรื่องของสมาชิกสภา 

หากเลือกปัญหาเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ประธานสภาสามารถเปลี่ยนเกม ไปเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่นได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หลังการปฏิญาณตนสภา ถือว่ามีอำนาจเต็ม ใครเสนอชื่อมาและอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย ข้อเสนอชื่อมาประธานก็จะให้ไป โหวตเอาว่าจะเอาใคร 

เมื่อถามว่า อำนาจประธานสภาก็แค่กำหนดวันเลือกนายกฯ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่ได้แย่งกันเพื่อกำหนดวันเลือกนายกฯ แต่เป็นการทำหน้าที่ต่อไป ในเรื่องของกฎหมายและกระบวนการต่างๆ เมื่อจบวันเลือกนายกฯ และได้นายกฯแล้ว ประธานสภาก็ยังมีอำนาจ แต่ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่ "นายชวนหลีกภัย" อดีตประธานสภา พูดชี้เป็นชี้ตายอะไรไม่ได้ รอตำแหน่งประธานสภา บางอย่างตัดสินใจเองได้บางอย่างก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจเสียงข้างมาก อย่างน้อยประธานก็มีอำนาจในการสั่งปิดประชุมสภาฯ

เมื่อถามว่า ประธานสภามีสิทธิ์ที่จะบรรจุวาระได้ทุกกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานสภาเป็นผู้ชี้ขาดตั้งแต่แรก ว่าจะรับหรือไม่รับ ที่ผ่านมาประธานชี้ว่าไม่รับ เพราะมองว่าการเสนอเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ไม่รับ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ก้าวไกลจึงอยากได้ตำแหน่งประธานสภาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ทราบว่าอยากได้เพราะเหตุผลอะไร แต่แน่นอนว่าใครได้มันก็ดี

ส่วนเรื่องขั้นตอนการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานสภา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน คือ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นผู้รับสนอง แต่หากได้นายกฯคนใหม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่จะเป็นผู้รับสนอง

ส่วนที่ผ่านมาที่ใช้เวลาเลือกนายกรัฐมนตรีนานที่สุด คือ การเลือกตั้งปี 2562 ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันเพิ่งมีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เมื่อก่อนไม่มี พร้อมกันนี้ยอมรับว่า หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้และรัฐบาลเดิมยังคงรักษาการเป็นเวลานาน แน่นอนว่าประชาชนจะโอดครวญ อยากให้จัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว รวมไปถึงมีความชัดเจน

"แม้รัฐบาลรักษาการ จะมีอำนาจหน้าที่ แต่อะไรบางอย่างก็ไม่สามารถทำได้ เช่น การใช้งบกลางมันมีข้อจำกัดมีเงื่อนไขอยู่เยอะ และที่สำคัญงบประมาณออกช้า ถ้าได้รัฐบาลเร็ว แถลงนโยบายได้เร็ว จะทำให้สามารถเสนอกฎหมายได้เร็ว" นายวิษณุ กล่าว

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีการเสนอชื่อไว้สามารถลาออกได้หรือไม่ นายวิษณุ ชี้แจงว่า ไม่ได้ ต้องใช้วิธีเลือกแล้วไม่รับ หรือทำให้ตนเองขาดคุณสมบัติ แต่ไม่สามารถลาออกได้ ซึ่งมีการระบุไว้ตั้งแต่ตอนสมัครแล้วว่า หากมีการเสนอชื่อไม่สามารถลาออกได้ยกเว้นเสียชีวิต หรือขาดคุณสมบัติ

เมื่อถามว่า หากในวันเวลาเดียวกันไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ สามารถเลือกต่อในวันเวลานั้นเลยได้หรือไม่ หรือต้องนัดวันใหม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ประธานสภา แต่ส่วนมากประธานสภาจะฟังเสียงสมาชิก 

เมื่อถามย้ำว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการนัดในวันใหม่เพื่อล็อบบี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "คุณเป็นคนพูดเพื่อให้ล็อบบี้" นัดใหม่อาจจะเป็นเพราะเหตุหลายอย่าง เหมือนกับที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่อภิปรายจบแล้ว ต้องนัดอีกวันเพื่อลงมติ ก็เพื่อไปทบทวน ซึ่งอาจจะมีข้อเสนอที่ดีกว่าเดิมก็ได้ เช่น การเปลี่ยนคน

ส่วนเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ และตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ จะเกษียณอายุราชการในเดือนต.ค.นี้ จะต้องรอรัฐบาลใหม่หรือรัฐบาลรักษาการ เป็นผู้แต่งตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ก็คงต้องดูตาม้าตาเรือ รัฐบาลใหม่ทำท่าจะเกิดขึ้นเร็วหรือไม่ ถ้าเกิดเร็วก็คงจะรอ แต่ถ้าดูแล้วจะไม่เร็ว มันก็จำเป็นจะต้องตั้งไปก่อน

เมื่อถามว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ดูแล้วจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ช้าหรือเร็ว นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ