
28 มิถุนายน 2566 ที่พรรคก้าวไกล รศ.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการย่อยชุดแก้ปัญหาที่ดินทำกิน เปิดเผยถึงกรณีที่การเลื่อนเจรจาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ว่า วันนี้จุดยืนพรรคก้าวไกลชัดเจน ตนขอใช้คำแค่ 3 คำคือ "กูไม่กลัวมึง" "มีอะไรเปล่า" พร้อมระบุว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล แต่ตามปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น พรรคก้าวไกลกำลังจะบอกว่า "กูไม่กลัวมึง"
"เพราะฉะนั้นแล้ว การที่พรรคก้าวไกลประกาศตัวแคนดิเดตประธานสภาฯ หมายความว่าพรรคก้าวไกลกำลังจะโยนโจทย์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของคนแค่ 500 คน แต่เป็นเรื่องคนไทย 70 ล้านคน ว่าคนไทยจะเอาไหมว่าประธานสภาแบบนี้" รศ.ธนพร กล่าว
โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเรื่องการต่อรอง พรรคเพื่อไทยมีมติ 14 + 1 เป็นการยื่นข้อเสนอ ซึ่งพรรคก้าวไกลใช้วิธีตอบกลับโดยการขอเวลา ซึ่งภาพรวมอยู่ระหว่างการต่อรอง
เมื่อถามว่าตอนนี้บูมเมอแรงไปตกที่ฝั่งไหน รศ.ธนพร กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ที่พรรคเพื่อไทย ตนพูดตรง ๆ ว่า พรรคก้าวไกลมีความชอบธรรมโดยการเป็นพรรคอันดับหนึ่ง หากพรรคเพื่อไทย จะฉีกสัตยาบรรณที่ทำร่วมกัน ต้องประกาศให้ชัดว่าจะฉีก MOU
"พรรคก้าวไกลเขาบอกว่าเขาก็ทำหน้าที่ของเขา ตนไปประชุมมา ก็ทำหน้าที่กันตามปกติ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยจะฉีก MOU พรรคเพื่อไทยก็ประกาศ ภาระไม่ได้อยู่ที่พรรคก้าวไกล เพราะเกมนี้ถูกจุดโดยพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ พรรคเพื่อไทยต้องเลือกเอา ถ้าจะเดินไปให้สุดว่าจะฉีก MOU พรรคเพื่อไทยก็ประกาศ แต่ถ้าให้ดีพรรคเพื่อไทยก็ประกาศก่อนวันที่ 4 ก.ค. ชาวบ้านจะได้รับรู้" รศ.ธนพร กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีการปรับสูตรจาก 14+1 เป็น 13+1 มองว่าอย่างไร รศ.ธนพร กล่าวว่า ไม่มี ตนมองว่าหากพรรคเพื่อไทยปรับสูตร คงไม่เสนอ 14+1 เมื่อวานก็เสนออย่างเปิดเผย มีการแถลงเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนตัวในภาพรวมถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะก่อนหน้าปี 66 เราไม่เคยเห็นการเจรจาทางการเมืองแบบเปิดเผยมาก่อน ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน
รศ.ธนพร ระบุต่อว่า วันนี้พรรคก้าวไกลชัดเจน เพราะมีการเปิดตัวแคนดิเดตประธานสภาแล้วทำให้ชัดเจนว่าเขาไม่เปลี่ยนแปลงแน่ เพราะการเปิดตัวคือพันธสัญญาที่มีต่อสังคม จะมายกเลิกไม่ได้ ตนถึงบอกว่าพรรคเพื่อไทยตามหลังพรรคก้าวไกล
"เดิมผมเคยคิดว่าพรรคเพื่อไทยเดินตามหลังพรรคก้าวไกลสักก้าวหนึ่ง แต่ตอนนี้กำลังจะตามหลายช่วงตัว ถ้าเราดูฉาบฉวย เราจะเหมือนกับผู้ใหญ่กำลังไล่ตบกบาลเด็ก แต่ถ้ามองให้ลึก วันนี้ผมยังไม่เห็นรีแอคชันอะไรจากพรรคก้าวไกลเลย นอกจากบอกว่าขอเลื่อนการประชุมไปก่อน พอดีเลย์ มันก็จะกลับไปที่พรรคเพื่อไทย สะท้อนให้เห็นว่ากูไม่กลัวมึง และมึงมีอะไรจะออกของ ก็ออกมา พร้อมทุกเงื่อนไข" รศ.ธนพร กล่าว
เมื่อถามว่าจะเข้าทางที่ทำให้พรรคเพื่อไทย เสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี และทำให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ รศ.ธนพร กล่าวว่า เกมนี้เข้าเงื่อนไขหมด แต่จะไม่ใช่ปัญหาของพรรคก้าวไกล วันนี้พรรคก้าวไกลโยนโจทย์ไปให้เป็นปัญหาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นโจทย์ที่พรรคเพื่อไทยผูก พรรคเพื่อไทยก็ต้องไปแก้ เพราะก้าวไกลชัดเจนคือประกาศแคนดิเดตไปแล้ว และเขาไม่ได้ประกาศในที่ประชุมที่ไหน เขาประกาศให้คนประชาชนรู้ด้วย ถ้าไม่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะได้แสดงความคิดเห็น
รศ.ธนพร ระบุว่า พรรคก้าวไกลยกระดับเรื่องนี้ตั้งแต่เรื่องตัวแทนตามแบบการเมืองเก่า ให้กลายเป็นเรื่องประชาธิปไตยเป็นของทุกคน ซึ่งจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ตนก็ไม่ทราบ แต่อธิบายในฐานะการวิเคราะห์ทางการเมือง โจทย์โมเมนตัมจะไปพรรคเพื่อไทยก็ต้องตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหน
เมื่อถามว่ามองว่าพรรคเพื่อไทยจะยอมถอยหรือไม่ รศ.ธนพร กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าหากพรรคเพื่อไทยฟันธงไปแล้วถ้านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับบ้าน พรรคเพื่อไทยต้องเดินแบบนี้ เพราะความต้องการของนายทักษิณเหนือกว่าความต้องการของคนเลือกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ เป็นเจ้าของพรรค ตนยืนยันคำนี้มาโดยตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ผิดที่จะต้องดูแลเจ้าของพรรค
ส่วนพรรคก้าวไกลจะใช้มวลชนกดดันหรือไม่ รศ.ธนพร กล่าวว่า ก็เล่นเกมทั้งนั้น ระบบการเมืองก็แบบนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เล่นเกมหรือไม่ ทุกพรรคก็เล่นเกมหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็เล่น พล.อ.ประวิตร ก็เล่น พรรคประชาธิปัตย์ก็เล่น ไม่เห็นมีใครไม่เล่น
ส่วนจะทำให้ดีลล่มหรือไม่ รศ.ธนพร กล่าวว่า ถ้าถึงวันนี้ คาดว่าคงพยายามเจรจากันอยู่ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยเปิดเกมนี้ ก็คงจะถอยลำบาก เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะได้เห็นพรรคเพื่อไทยฉีกสัตยาบัน ฉีก MOU สูง เพราะพรรคก้าวไกลไม่ได้ทำอะไร เพราะเขาว่าตาม MOU ตามแบบแผน ตามวิธีปฏิบัติที่ควรจะเป็น และประกาศชื่อประธานสภาต่อสาธารณชน เพราะฉะนั้น เกมต่อไปนี้ถ้าจะเปลี่ยนก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทย มองว่าควรประกาศวันนี้ไปเลยก็ได้ ว่าจะฉีก MOU ชาวบ้านก็จะได้รู้
รศ.ธนพร ย้ำว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะต้องอธิบายหลังจากนี้ เพราะอย่าลืมว่าสังคมจับตามอง พรรคเพื่อไทยตัดสินใจแบบนี้ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย แต่ส่วนตัววิเคราะห์ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจแบบนี้ภาระในการอธิบายก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่ต้องอธิบายกับสังคม
เมื่อถามว่าเป็นไปได้ที่หากนายทักษิณกลับประเทศไทย โดยการเล่นเกมสั้นและจะทิ้งพรรคเพื่อไทยหรือไม่ รศ.ธนพร กล่าวว่า ถ้านายทักษิณกลับ สิ่งที่นายทักษิณต้องทำคือต้องเลิกเล่นการเมือง คำว่าเลิกเล่นการเมืองไม่ใช่นายทักษิณคนเดียว แต่หมายถึงตระกูลชินวัตรทั้งหมดด้วย
"หมายถึงว่าพรรคเพื่อไทยก็ต้องได้รับผลกระทบ เพราะก็ถือว่าเป็นเครือข่ายครอบครัว ในเมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ตัดสินใจแบบนั้น ฉะนั้นผลกระทบของพรรคก็ต้องมีการเตรียมการรองรับซึ่งพรรคเพื่อไทยก็น่าจะมีแผนรองรับ" รศ.ธนพร กล่าว
รศ.ธนพร กล่าวทิ้งท้ายว่า บรรยากาศการคุยคณะทำงานชุดย่อยไม่ได้มีผลอะไร จากที่คุยกับพรรคเพื่อไทยก็เห็นตรงกันหลายเรื่อง เวทีที่ตนอยู่เป็นการแก้ไขปัญหา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเวทีเจรจา