27 มิถุนายน 2566 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “บางเรื่องมีไว้ให้จำ บางเรื่องมีไว้ให้ลืม”
ผมไม่ค่อยมองประวัติศาสตร์ในแง่ลบ เพราะคิดว่า สถานการณ์ในอดีต ผู้นำก็อาจมีความจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนั้น เราจึงจะใช้เหตุผล ของคนในปัจจุบันไปตัดสินการกระทำของคนในอดีตไม่ได้
ยกเว้น ผมอาจไม่ชอบจอมพลป.พิบูลสงคราม บ้าง เพราะคิดว่า จอมพลป.ไม่ค่อยลงรอยกับในหลวงรัชกาลที่ 9 สักเท่าไหร่
แต่พ่อผม ก็ชอบจอมพลป. (แปลก พิบูลย์สงคราม) ในบางเรื่อง พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า พ่อเคยได้รับรางวัลจากจอมพลป.เพราะสมัยนั้นรัฐบาลมีการประกวดการทำยางแผ่น พ่อทำยางแผ่น(ยางพารา) ได้รางวัลชนะเลิศจากจอมพลป. ดูเหมือนพ่อจะภูมิใจในเรื่องนี้ และพูดถึงรางวัลเรื่องนี้บ่อย
แต่ครั้น จอมพลป.ถูกจอมพลสฤษดิ์ (ธนะรัชต์)ยึดอำนาจ จนต้องหนีออกนอกประเทศ และเสียชีวิตในต่างประเทศ ผมก็กลับเห็นใจจอมพลป. ขึ้นมาอีก
ผมน่าจะชอบ จอมพลสฤษดิ์ มากกว่าจอมพลป. เพราะจอมพลสฤษดิ์ จงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 สูงมาก
เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ถูกกล่าวหาว่าทุจริต และถูกจอมพลถนอมใช้ม.17 ยึดทรัพย์ ผมก็สงสารจอมพลสฤษดิ์ขึ้นมาอีก
ครั้นจอมพลถนอม (กิตติขจร) ถูกนักศึกษาไล่ออกนอกประเทศ และบวชเป็นสามเณรกลับมาในปี 2519 แม้ผมจะเป็นตัวเล็กๆ ที่เดินอยู่หลังแถวคัดค้านการกลับมาของจอมพลถนอม แต่วันนี้ ผมก็สงสารท่านขึ้นมาอีก เพราะคิดว่า ในสมัยสงครามเย็น ถ้าไม่มีจอมพลถนอม เราอาจเป็นคอมมิวนิสต์ไปแล้ว
นี่ถ้า เดือนกรกฎาคม 2566 คุณทักษิณ ชินวัตร บวชเป็นสามเณรกลับมา เหมือนจอมพลถนอม ผมจะทำอย่างไรดี
คิดไป-คิดมา ผมคงไม่ต้องทำไร เพราะตอนคุณทักษิณไป ท่านก็ไปของท่านเองไม่ได้บอกใคร และทราบว่า ตอนที่ท่านจะกลับ ก็มีคนจะไปรับท่านที่สนามบินแล้ว เพียงแต่คิดไม่ออกว่า ออกจากสนามบินแล้วท่านจะไปไหน อันนี้ยังคิดไม่ออกจริงๆ