
จากกรณีเพจ CSI LA โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุก ระบุว่า คนในกองทัพเรือรู้สึกไม่สบายใจที่มี นายพล ช. เรียกเงินจากบริษัท ชัยเสรีของมาดามรถถัง 15% และเรียกให้บริษัท Rv Connex ดูแลตอนไปเบอร์ลิน รวมทั้งบังคับให้แก้สัญญาอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ โครงการใหญ่ในกองทัพเรือ เพื่อเอื้อผลประโชน์ให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างของพวกพ้องตัวเอง
สุดท้ายประชาชนผู้จ่ายภาษีต้องมาแบกรับ ค่ายุทโธปกรณ์ที่ถูกบังคับลดสเปคและแพงกว่าความเป็นจริง
ตอบข้อสงสัยที่ว่า ทำไมกองทัพถึงเน้นซื้อรถถังจากต่างประเทศ ทั้งๆที่ในประเทศมีสเปคดีกว่าและคาถูกกว่าหลายเท่า #ส่วนต่างนั้นหอมหวาน
ล่าสุด "นางนพรัตน์ กุลหิรัญ" หรือ "มาดามรถถัง" นักธุรกิจหญิงชาวไทย ผู้ก่อตั้งบริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด รับผลิตชิ้นส่วนและรถหุ้มเกราะ ให้แก่กองทัพไทยและกองทัพต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการพักฟื้น หลังเข้ารับการผ่าตัด ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่อง เพราะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าบริษัทชัยเสรี ทำงานให้กับกองทัพมาตั้งแต่ พ.ศ. 2511 ทำเรื่องยุทโธปกรณ์อย่างเดียวของ 3 เหล่าทัพมาโดยตลอด จนถึงทุกวันนี้ (21มิ.ย.) โดยรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ มาจากการส่งขายต่างประเทศมากกว่าในประเทศ หรือถ้ามีก็น้อยมาก ซึ่งงานของบริษัทส่วนใหญ่เป็นงานซ่อม
"ชัยเสรี ขายให้กองทัพไทยมา 50 ปีแล้ว บริษัทเราก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพราะของไทยเป็นของที่มีคุณภาพ เราก็อยากจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศไทยเยอะๆ ในส่วนของกองทัพเรือ ทางชัยเสรี ก็เคยรับซ่อมรถให้ ซึ่งกองทัพเรือซื้อรถใหม่ๆ ไทยเสรีไม่ได้เป็นเอเย่น ไทยเราเป็นโรงงานที่ผลิตเอง ก็ไม่ได้ผลิตอะไรเยอะแยะ แต่ของที่ผลิตในประเทศและขายในประเทศ ก็ขายในราคาที่ถูกมาก รถแต่ละคันเราขาย 10 กว่าล้านเอง อย่างรถหุ้มเกราะเราทำของใหม่ขายในราคา 15 ล้าน เราพยายามทำของที่ดีที่สุดขายให้กับประเทศไทย เราก็อยากให้สนับสนุนซื้อ เพราะทุกวันนี้ก็ขายได้น้อยมาก" นางนพรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ขณะนี้โรงงานกำลังผลิตรถหุ้มเกราะ 8×8 แต่ไม่แน่ใจว่าให้กองทัพเรือหรือกระทรวงกลาโหม แต่เห็นในโรงงานกำลังทำอยู่ เพียงแต่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ก็เลยไม่ได้เข้าไปดูและติดตาม
ด้าน "พล.ร.ต.ปกครอง มนธาตุผลิน" โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ยังไม่ทราบประเด็นดังกล่าว ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน