5 มิถุนายน 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบส่วยสติ๊กเกอร์ร่วมกับสมาพันธ์การขนส่งทางบก ว่า หลังจากได้ประชุมร่วมกันในสัปดาห์ที่แล้ว ตนจะนำเบาะแสที่ได้จากสมาพันธ์ฯ รวมทั้งหลักฐานที่ได้จากพลเมืองดี ไปให้จเรตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.) โดยมองว่าหลักฐานนี้จะเป็นเบาะแสสำคัญ
ส่วนหลักฐานมัดแน่นหรือไม่ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีกำลังในการสืบสวนสอบสวน ในการไล่เรียงตรวจสอบอีกครั้ง หากเป็นหลักฐานมัดแน่นไปที่คนใด ก็เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้ได้นัดหมายเข้าพบจเรตำรวจแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดี ที่ 8 มิ.ย. นี้ เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนจะไปพร้อมกับสมาพันธ์ฯ โดยมีข้อมูล 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของสมาพันธ์การขนส่งทางบก อีกส่วนเป็นข้อมูลจากพลเมืองดีที่มอบให้ตน
เมื่อถามว่าเป็นการตรวจสอบตำรวจด้วยกันเอง มั่นใจหรือไม่ว่ากระบวนการจะมีความโปร่งใส นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังมีความมั่นใจ เพราะตำรวจที่เข้ามาทำเป็นจเรตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ชัดเจนในเรื่องการสอดส่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจด้วยกัน
“ท่านผู้การจรูญเกียรติ ประวัติท่านก็ตรงฉิน ยังมีความไว้วางใจ แต่ที่ผมบอกว่าการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจไป ณ จุดนี้ ทางเราเองก็ยังไม่มีอำนาจบริหาร หรืออำนาจหน้าที่เข้าไปสั่งการ คงต้องเชื่อใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่คงต้องทำหลังจากนี้ คงจะต้องดึงเอากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎกระทรวง ประกาศต่างๆ รวมถึงพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก เข้ามาพิจารณาในรายละเอียดว่ามีกฎหมายอะไรที่ไม่สอดคล้องกับหน้างานจริง และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรีดไถประชาชน นอกจากนี้ยังต้องดูไปถึงเรื่องโทษและวิธีบังคับใช้กฎหมายด้วย ว่าเป็นการให้ดุลยพินิจหรืออำนาจกับเจ้าหน้าที่ที่ล้นเกินไปหรือไม่
ส่วนที่พรุ่งนี้(6 มิ.ย.)จะมีการประชุมคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในคณะทำงาน แต่การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นก็อยู่ใน MOU มีความสำคัญ คงต้องพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย รวมถึงอีกหลายเรื่อง เช่น การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเรียกรับผลประโยชน์ในขั้นตอนการจดทะเบียนและต่อทะเบียน การขออนุญาตใช้รถบรรทุก คงต้องนำเข้าหารือในรายละเอียด