ชี้ช่องรอดคดี"พิธาถือหุ้นสื่อ" ปิติพงศ์ หน.พรรคเป็นธรรม เผยแนวทางสู้คดี
"หัวหน้าพรรคเป็นธรรม" หนึ่งในพันธมิตรร่วมจัดตั้งรัฐบาล เผยแนวทางต่อสู้คดี "พิธาถือหุ้นสื่อ" ไม่ยากมีโอกาสรอด เชื่อเส้นทางคดีจบที่ศาลรธน.
3 มิถุนายน 2566 "นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ" หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ซึ่งร่วม 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลใหม่ สนับสนุน"นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เปิดเผย"เนชั่นทีวี" กรณีมีผู้ร้อง"กกต."ตรวจสอบ"นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ถือครองหุ้นสื่อเข้าข่ายขัดคุณสมบัติรับสมัครเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ ว่า สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ "นายพิธา"เป็นเจ้าของหุ้นจริงหรือไม่ 2. " ไอทีวี " ยังถือเป็นบริษัทสื่ออีกไหม ประเด็นหลักๆที่จะพิจารณามีไม่เกิน 4- 5 ประเด็นนี้
1. ไอทีวียังถือเป็นบริษัทที่เป็นสื่อประชาสัมพันธ์อยู่หรือไม่ที่ต้องห้ามในการถูกซื้อ หรือเป็นผู้ถือหุ้น
2. "นายพิธา"ยังถือว่าเป็นผู้เป็นเจ้าของหุ้นนั้นหรือไม่
"มีเพียง 2 เรื่องใหญ่นี้เท่านั้นเอง ถ้าสองเรื่องนี้ได้รับการแก้ไข สามารถชี้แจงโดยละเอียดให้เข้าใจ ก็ไม่น่ามีปัญหา ไม่เข้ากฎต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. "
"หัวหน้าพรรคเป็นธรรม" ประเมินว่า ด้วยความสุจริตใจ ทุกอย่างจบที่"ศาลรัฐธรรมนูญ" ไม่ใช่ที่"ก.ก.ต."เพราะถ้า"ก.ก.ต."คิดจะส่งคำร้อง ทั้งนี้ "ก.ก.ต."จะไม่ใช่ผู้ตัดสินที่เด็ดขาด ถ้าก.ก.ต.จะตัดสินข้างใดข้างหนึ่งก็ต้องมีผู้ร้องอยู่ดี ฝ่ายก้าวไกลก็ต้องร้องอยู่ดี ถึงอย่างไรต้องไปจบที่"ศาลรัฐธรรมนูญ"
"นายปิติพงศ์" กล่าวว่า "ศาลรัฐธรรมนูญ" มีบรรทัดฐานอยู่แล้ว โดยเฉพาะ คำว่าบริษัทที่ถือว่าเป็นบริษัทสื่อ เป็นอย่างไร ไม่ใช่แค่มีเพียงวัตถุประสงค์
อย่างเช่น บริษัทก.ไก่ เพราะวัตถุประสงค์เป็นวัตถุประสงค์รวม บริษัททุกบริษัทส่วนใหญ่แล้วจะมีเรื่องการทำกิจการทางด้านสื่อสารมวลชนอยู่แล้ว แต่จริงๆ ในหลักจริงๆบริษัทเหล่านั้น ไม่ใช่บริษัทประกอบการธุรกิจทางด้านการสื่อสารศาลก็ยกให้ เพราะเขาไม่ได้ทำ
"ซึ่งก็มีส.ส.หลายท่านที่ได้รับอานิสงส์จากสิ่งนี้ เพราะตัวบริษัทถือหุ้นบริษัทจริง แต่บริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทที่ทำธุรกิจทางด้านการสื่อสารมวลชน จึงไม่ใช่บริษัทที่เข้าตามเงื่อนไขของกฎหมายที่ต้องห้ามที่ไม่ให้พวกส.ส.ถือ มีประเด็นอีกเยอะ" หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าว
"โดยภาพรวมแล้วผมเชื่อว่าการจะแก้ไขชี้แจงไม่ยาก แต่ขอความเป็นธรรม"
"หัวหน้าพรรคเป็นธรรม" กล่าวว่า ถ้า"ก.ก.ต."ตัดสินด้านใดด้านหนึ่ง คนที่ไม่เห็นด้วยฟ้อง"ศาลรัฐธรรมนูญ"อยู่ดีเพราะเป็นสิทธิ์ เช่นกรณี"นายเรืองไกร" มีสิทธิ์ร้องศาลรัฐธรรมนูญได้ และถ้าตัดสินข้าง"นายพิธา"ก็มีสิทธิ์ร้องได้อีก เพราะเป็นกติกา