1 มิถุนายน 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกศาลวินิจฉัยว่าพ้นสภาพการเป็นหัวหน้าพรรค จะส่งผลกระทบต่อการรับรองส.ส.ของพรรคก้าวไกล และอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะว่า
ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย สิ่งที่นายวิษณุพูด ตนเข้าใจว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ก็ให้ความเห็นว่า ถ้าคำร้องเป็นแบบนี้ การวินิจฉัยก็จะกระทบแบบนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย ซึ่งตนคงไม่ไปก้าวล่วง เพราะกลไกต่างๆก็เดินหน้าไปแล้ว วันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ก็ต้องพิจารณาไต่สวน หลังจากนั้นก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญว่าคำวินิจฉัยออกมาเช่นไร ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องยึดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าสมมติว่า หากคำคาดการณ์ของนายวิษณุ เป็นความจริง ระหว่างเลือกตั้งโมฆะทั้งหมดหรือโฆษะในส่วนคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกล 151 เสียง ผลจะออกมาแตกต่างกันอย่างไร นายธนกร มองว่า ตรงนี้เป็นเรื่องของอนาคต ไม่ได้ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่นายวิษณุก็ถือว่าเป็นกูรูด้านกฎหมาย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ แม้จะเป็นความเห็นของท่านก็ต้องรับฟังไว้
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีการวิเคราะห์กันภายในหรือไม่ว่า รัฐบาลก้าวไกลจะเกิดขึ้นก่อนและโดนสอยทีหลัง หรือจะไม่ได้เป็นรัฐบาลเลย จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการจับขั้วรัฐบาล นายธนกร กล่าวว่า เราไม่วิเคราะห์ แต่เราเอาใจช่วย เพราะในระบอบประชาธิปไตย ผู้ที่ได้ลำดับหนึ่งจะต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เวลาที่เหลืออยู่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ให้เราทำงานเต็มที่จนนาทีสุดท้าย
จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ค่อยพูดถึงประเด็นทางการเมือง เพราะไม่อยากไปก้าวล่วง หรือพูดแล้วจะเป็นประเด็น ฉะนั้นต้องปล่อยให้พรรคก้าวไกลเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตนดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาจจะเจออุปสรรคหลายๆอย่างแต่ก็เอาใจช่วย