2 มิถุนายน 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึง นายจเด็ด อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) แสดงความเห็นว่าควรตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า ประเทศ ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องมี “รัฐบาลแห่งชาติ” และไม่สามารถยุติความขัดแย้งได้ และคาดว่าเป็นการเพิ่มความขัดแย้งเข้ามาอีก
เมื่อถามถึง ปมการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายชัยธวัช ชี้แจงว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยังไม่ได้เรียกนายพิธาและฝ่ายกฎหมายของพรรค เข้าไปให้ข้อมูลจากคำร้องถือหุ้นสื่อ ITV แต่คาดว่า น่าจะเรียกเข้าไปชี้แจงหลังจากที่ได้รับรอง ส.ส. ไปแล้ว แต่จำเป็นต้องติดต่อเป็นการภายใน เพื่อให้ทราบกำหนดเวลาที่ชัดเจน ทุกอย่างมีกระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ไม่มีความกังวลใดๆ พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง และมั่นใจจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นจากเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แนะนำ นายพิธา ให้ดู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแบบอย่างของนายกฯ ที่ดี ว่า ประเด็นดังกล่าวส่วนตัวเห็นว่า นายกรัฐมนตรีที่ดีต้องเป็นคนที่ฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก แต่ขอไม่พูดถึงพล.อ.ประยุทธ์
ส่วนกรณีที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ที่ออกมาระบุว่า หาก นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ นายชัยธวัช ชี้แจงว่า ไม่อยากให้มองไปถึงจุดนั้น แต่ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัว เพราะยังมีส.ว. อีกหลายคนที่เราเข้าไปพูดคุยก็เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล และตอนนี้ประชาชนก้าวข้ามความขัดแย้งมาแล้ว
“หลังการเลือกตั้ง ประชาชนได้แสดงออก ถึงความต้องการลดความขัดแย้ง มาตลอด 10 ถึง 20 ปี สมาชิกวุฒิสภา หลายคนก็เห็นด้วยกับนโยบายที่พรรคก้าวไกล เตรียมจะดำเนินการผลักดัน ที่ล้วนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้ง เรื่องการปฏิรูประบบข้าราชการ การกระจายอำนาจแต่ละท้องที่ และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ”
เมื่อถามถึง กลุ่มจงรักภักดีเตรียมเคลื่อนตัวเข้าสู่กรุงเทพฯ หากนายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและไม่ควรดึงเอาสถาบันเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง และความขัดแย้ง สังคมก็ไม่มีความต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก และไม่ได้มองว่าเป็นการชี้นำ แต่อาจเป็นความห่วงใย ที่ต้องระวังอาจทำให้มวลชนเกิดความสับสน และแตกแยก
เมื่อถามถึง ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ชี้แจงว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่คาดว่าช่วงกลางเดือนมิถุนายนจะชัดเจน ส่วนคนที่เคยปรากฏเป็นข่าวบุคคลในพรรคก้าวไกลจะมานั่ง ตำแหน่ง ประธานสภาฯ นั้นเป็นเพียงการคาดเดาของสื่อมวลชน หลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกันระหว่าง 2 พรรคอีกครั้ง และหากจะต้องมีการเสนอชื่อ ก็ต้องได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมจากทั้งหมด 8 พรรคร่วมด้วย
นายชัยธวัช กล่าวถึงกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวว่า พรรคก้าวไกล อย่าเพิ่งฝันหวาน เห็นว่า การทำใจ ยอมรับมติจากประชาชน เป็นทางออกที่ดีที่สุด จะทำให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างราบรื่น ส่วนตัวคิดว่านายเสกสกล คงยังทำใจไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรยังมีเวลา