svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เทียบจุดยืนชัดๆ แต่ละพรรค-ก่อนจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล

19 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“พรรคก้าวไกล” ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยประชาชน จำนวน 313 เสียง โดยรวมกับ 7 พรรคการเมือง ซึ่งเตรียมลงนาม MOU ร่วมกัน ในวันที่ 22 พ.ค.นี้

แต่ประเด็นหลักในการหารือก่อนจะถึงวันนั้นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือ การแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นเรื่องล่อแหลม โดยเฉพาะทำให้หลายพรรคยังคงกระอักกระอ่วน ว่าจะ “แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง” ในเรื่องนี้ได้อย่างไร เพราะถูกจับจ้องจากทั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยมรวมถึงเสรีนิยม ด้วยกัน

แม้ปฏิเสธไม่ได้ว่า “พรรคก้าวไกล” ได้นำมาตรา 112 ชูธงในการหาเสียง โดยนโยบายใน 9 เสาหลัก ด้านประธาธิปไตยเต็มใบ ซึ่งระบุเรื่องการแก้ไขเรื่องนี้

นโยบายใน 9 เสาหลัก ด้านประธาธิปไตยเต็มใบ ซึ่งระบุเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ว่า

  • ลดโทษของกฎหมายหมิ่นประมาทให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยเหลือเพียง จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
  • จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
  • โทษหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาจะถูกลดลง จากโทษจำคุก 0-2 ปี เหลือแค่โทษปรับ
  • ย้ายกฎหมายหมิ่นประมาทออกจากหมวดความมั่นคง ให้เป็นความผิดที่ยอมความได้ หรือให้ตัวแทนเป็นผู้มีสิทธิแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพียงผู้เดียว
  • บัญญัติให้ชัดเจนในกฎหมาย เพื่อคุ้มครองกรณีการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตหรือการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธาณะ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับเหตุยกเว้นความผิดและเหตุยกเว้นโทษสำหรับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา

โดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ย้ำท่าทีในการแถลงข่าววันนี้ ว่า ทุกพรรคขอประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกัน ด้วยความเคารพประชาชน ดังนี้

     1. ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้งของประชาชน

     2. ทุกพรรคจะร่วมกันจัดทำข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแสดงถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรค และจะแถลงต่อสาธารณะในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ

     3. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้แบบไร้รอยต่อ

เทียบจุดยืนชัดๆ แต่ละพรรค-ก่อนจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล

ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เน้นย้ำถึง มาตรา 112 ใน MOU ว่า “ประเด็นที่อ่อนไหวมีความเห็นต่างมากยังไม่มีข้อตกลงร่วม จะแถลงว่าจะมีกลไกทำเรื่องนั้นได้อย่างไร เช่น มาตรา 112 ที่ต่างฝ่ายต่างมีความเห็นต่างกันเยอะ อะไรเห็นร่วมกัน ไปได้เลย อะไรที่เห็นต่างกัน แต่ตกลงร่วมกันได้ก็อยู่ในเอ็มโอยู แต่อะไรที่เห็นต่างกันเยอะมาก จะยกประเด็นนั้นมาในข้อตกลงว่าจะหาทางออกตรงนั้นได้อย่างไร เพื่อร่วมมือกันทำงานในฐานะรัฐบาลของประชาชน จึงอยากให้ประชาชนติดตาม โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นข้อห่วงใย เพื่อไทยจะมีคำตอบ”

นโยบายพรรคเพื่อไทย 

  • แก้รัฐธรรมนูญผลักดันให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย ขจัดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ สร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน
  • จัดทำ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดยคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และผ่านขั้นตอนการออกเสียงลงประชามติโดยประชาชน
  • “ปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ” ให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และมีความโปร่งใส
  • ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อความโปร่งใส คำนึงถึงหลักนิติธรรม “สร้างกระบวนการยุติธรรมที่ซื้อไม่ได้”
  • ปรับปรุงยกเลิกกฎหมายทั้งหมดตามความจำเป็น ลดกฎหมาย ลดขั้นตอน ลดการใช้ดุลยพินิจ
  • กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับองค์กรอิสระต้องมีความเป็นอิสระ มีการคานอำนาจและมีความโปร่งใส
  • ปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ ป้องกันการก้าวก่ายแทรกแซงทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ให้มีความเป็นทหารอาชีพ และแก้ไขกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้เข้ารับราชการทหารโดยสมัครใจ
  • เสนอกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร
  • กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดนำร่อง

สำทับด้วย “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ต่อประเด็น มาตรา 112 ซึ่งย้ำว่าพรรคชัดเจน เพราะมีจุดยืนว่า หน้าที่ของทุกพรรคการเมือง ต้องรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ การทำอะไรกระทบ ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย หน้าที่พรรคการเมืองต้องปกป้อง แต่เรื่องที่ผู้มีอำนาจใช้มาตรา 112 กลั่นแกล้งทำร้าย ต้องพิจารณา การทำให้มาตรา 112 ปกป้องสถาบันได้อย่างดี ไม่เป็นเครื่องมือให้ใครนำไปทำร้ายคนอื่นเป็นหลักการ ยืนยันปกป้องสถาบัน ไม่ต้องการให้ใช้มาตรา 112 ไปทำร้ายใคร แต่จุดยืนของแต่ละพรรคอาจต่างกัน คงต้องคุยกันในเรื่องของมาตรานี้รวมถึงทุกนโยบาย

นโยบายพรรคไทยสร้างไทย

  • “People must win” สร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ขจัดระบบอำนาจ นิยมและรัฐราชการ 
  • ดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ สวัสดิการเด็กเดือนละ 3,000 บาท ตั้งแต่ในครรภ์ถึงอายุ 6 ปี เรียนฟรีจนจบปริญญาตรีอย่างแท้จริง สร้างเศรษฐกิจบนจุดแข็งด้านอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพ และเป็นศูนย์กลาง การคมนาคมโลจิสติกส์ 
  • ตั้งกองทุน SMEs สตาร์ทอัพ วิสาหกิจชุมชน กองทุนเครดิตประชาชน พักใบอนุญาต 1,400 ฉบับให้ประชาช ทำมาหากินได้ทันที 
  • ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคพลัส หมอบนมือถือ 24 ชั่วโมง และบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท

เทียบจุดยืนชัดๆ แต่ละพรรค-ก่อนจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล

ด้าน “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า พรรคเคารพระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะเสียงประชาชนที่ต้องการผู้นำรัฐบาลที่มาจากพรรคก้าวไกล จึงขอสนับสนุนนายพิธา ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และยินดีร่วมมือทุกประการในการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนให้สำเร็จ และอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน ถ้าไม่ ก็จะติดปัญหาเดิม ๆ ที่ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างามได้ ยืนยันสิ่งที่นายพิธาพูด เป็นสิ่งที่เห็นร่วมกัน วันนี้อาจยังไม่เห็นรายละเอียด แต่วันที่ 22 พ.ค.จะเห็นเส้นทางที่จะก้าวไป

นโยบายพรรคประชาชาติ

  • ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย นิติธรรม ส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม กระจายงบประมาณ อำนาจ ความผาสุกสู่ชุมชนท้องถิ่น
  • สร้างรัฐสวัสดิการตั้งแต่ครรภ์มารดาเกิดถึงเสียชีวิต อาทิ เริ่มตั้งครรภ์ถึง 7 ปี เงินอุดหนุน 4,500 บ./ด. 8–15 ปี อุดหนุนถ้วนหน้า 3,000 บาทต่อเดือน 
  • สวัสดิการผู้สูงอายุถ้วนหน้า 3,000 บาทต่อเดือน ปฏิรูปที่ดินป่าไม้ กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์และสิทธิในที่ดินทำกิน 20 ไร่ 
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ พลังงานถูกลง 
  • เรียนฟรีมีคุณภาพถึงป.ตรี ขจัดโกงและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน แก้ปัญหายาเสพติด ปัญหาภาคใต้ ความเหลื่อมล้ำ/หนี้สิน/ความยากจนและปัญหาเร่งด่วนของชาติ

“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันพรรคสนับสนุนก้าวไกลให้นายพิธา เป็นนายกฯ วันนี้มาประกาศร่วมกันสนับสนุนนายพิธาเท่านั้น ประเด็นอื่นยังไม่ถึงเวลาตอบคำถาม เมื่อตั้งรัฐบาลแล้ว ก็ต้องทำงานร่วมกัน อะไรไปกันได้ก็สนับสนุนกันเต็มที่ แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ต้องทบทวนกัน 

นโยบายพรรคเสรีรวมไทย

  • จัดที่ดินอยู่อาศัยทำกินให้ประชาชน
  • บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วไทย
  • เรียนฟรีจนจบปริญญาตรีและยกเลิกหนี้ กยศ.
  • บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน
  • เบี้ยผู้พิการ 3,000 บาทต่อเดือน
  • ยาเสพติดเป็นศูนย์เป็นวาระแห่งชาติ
  • ปราบทุจริต พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี คืนงบประมาณให้ประชาชน
  • ปฏิรูปตำรวจเพื่อประชาชน
  • ปฏิรูปกองทัพยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ย้ายกองทัพออกจากกรุงเทพ
  • เก็บอาวุธหยุดความตายนำปืนในมือประชาชนคืนรัฐ
  • สร้างเขื่อนเพื่อการเกษตร ป้องกันน้ำท่วม
  • น้ำมันไฟฟ้าราคาถูก ทวงคืน ปตท.กลับมาเป็นของประชาชน
  • เสริมสร้างประสิทธิภาพกองทุนหมู่บ้าน
  • แก้ไขปัญหาประมงไทยอย่างยั่งยืน

ขณะที่ “ปิติพงศ์ เต็มเจริญ” หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวระหว่างแถลง แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เน้นทำการเมืองสร้างสรรค์ จะสนับสนุนมติมหาชนที่มอบให้พรรคก้าวไกล เสียงของพรรคเป็นธรรม จะไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีข้อต่อรองทางการเมืองไม่ว่าเป็นรัฐบาลหรือไม่ ส่วนเรื่องคุณสมบัติของคุณพิธา เชื่อว่าจะผ่านวิกฤตได้ถ้ามีความเป็นธรรมให้กับเขา 

นโยบายพรรคเป็นธรรม

  • ยุบการปกครองส่วนภูมิภาค
  • ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง
  • พัฒนาเศรษฐกิจชายแดน
  • สร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้
  • สร้างสันติภาพในปาตานี
  • ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับที่ใช้ในปาตานี
  • แก้ไขกฎหมายความมั่นคง
  • ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
  • ปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม
  • ปฎิรูปกองทัพ
  • ถอนทหารออกจากพื้นที่ปาตานี
  • ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
  • ยุบ ศอ.บต.และกอ.รมน.
  • สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
  • เบี้ยพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก
  • เรียนฟรีมีเงินอุดหนุน
  • ล้างหนี้ กยศ.
  • เพิ่มเบี้ยคนชราและพิการ
  • เก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า
  • ปฎิรูปที่ดิน
  • เก็บภาษีทรัพย์สินและมรดก
  • ขนส่งสาธารณะทั่วจังหวัดราคาถูก
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ ในครัวเรือน 300 บาทแรกฟรี

“เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ” หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ย้ำถึงประชามติที่ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล เป็นการแสดงให้เห็นว่าอยากให้ คุณพิธา เป็นนายกฯ อยากให้ระบบการเมืองเป็นไปตามระบบ ให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ 

เทียบจุดยืนชัดๆ แต่ละพรรค-ก่อนจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล

นโยบายพรรคพลังสังคมใหม่

  • รายได้พื้นฐานถ้วนหน้าจ่ายเงินให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยเดือนละ 3,000 บาททุกเดือน
  • กองทุนกู้วิกฤตธุรกิจ รายย่อย (แม่ค้ารายย่อย) ให้เข้าถึงแหล่งทุน วงเงินไม่เกิน 300,000 บาท
  • แก้ไขปัญหาหนี้สินให้สมาชิกกองุทนฟื้นฟูและกลุ่มเกษตรกร
  • ปุ๋ยคนละครึ่งที่พึ่งเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร
  • เปลี่ยนที่ดิน ภบท.5-6-11 สปก.4-01เป็นโฉนดที่ดินให้เกษตรกร
  • ระบบสาธารณสุขแนวคิดบริการแบบใหม่
  • บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทุกโรคได้ทั่วไทยทุกๆ โรงพยาบาลของรัฐ
  • แยกท้องถิ่นออกจากระทรวงมหาดไทย โดยยกฐานะเป็นกระทรวงส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น
  • นิรโทษกรรม ผู้ติดเครดิตบูโร (แบล็คลิส)

ส่วน “วสวรรธน์ พวงพรศรี” หัวพรรคเพื่อไทรวมพลัง กล่าวย้ำว่า พรรคมีอุดมการณ์ทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นพรรคการเมืองนาโนปาร์ตี้ วันนี้ตั้งใจมาแสดงจุดยืน ส.ส. 2 คน สนับสนุนคุณพิธา เป็นนายกฯ เพื่อตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และขอแสดงจุดยืนให้ตั้งรัฐบาลได้ สร้างความเชื่อมั่นของประเทศเพื่อดึงดูดนักลงทุน

นโยบายพรรคเพื่อไทรวมพลัง

  • -แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นหนี้เสีย โดยให้กองทุนฟื้นฟูฯ รับซื้อหนี้ทั้งหมดในสถาบันการเงินทุกประเภท รวมหนี้นอกระบบด้วย
  • เรียนฟรี ปริญญาตรี
  • มีงานทำ สร้างอาชีพในชุมชน ส่งเสริมธุรกิจ SME ธุรกิจออนไลน์
  • ลดความเหลื่อมล้ำปฏิรูปที่ทำกิน ยกเลิก สปก. กทบ.5 ที่ราชพัสดุที่หมดสภาพความเป็นป่าและมีประชาชนอาศัยอยู่โดยออกเป็นโฉนดทุกแปลง
  • สร้างนวัตกรรมเกษตรไทย ปฏิรูปภาคเกษตรโดยใช้นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มผลผลิต
  • ด้านสาธารณสุข ยกระดับ อสม. ให้เป็นผู้ช่วยแพทย์แผนไทยประจำหมู่บ้าน
  • แก้ไขเกณฑ์ทหาร ถ้าผู้ชายคนใดจับฉลากได้ใบแดง รัฐจะต้องจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวปีละ 15,000 บาท ทั้งนี้เพื่อทดแทนรายได้จากครอบครัวที่ขาดแรงงาน
  • มุ่งยกระดับราคาข้าวชาวนา ด้วยการตั้งราคากลาง โดยให้กลุ่มเกษตรกรแต่ละตำบล กู้เงินมาตั้งโรงสี 1 ตำบล 1 โรงสี แล้วสีข้าวส่งตลาดกลาง 1 จังหวัด 1 ตลาดกลาง
logoline