แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะให้พรรคเล็กบางพรรคฝ่าด่านกระแส-กระสุน “เนชั่นทีวี” รวบรวมพรรคเล็กสามารถคว้าเก้าอี้ผู้แทนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สำเร็จ อาทิ
พรรคเป็นธรรม ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมา 1 ที่นั่ง ด้วยคะแนน 181,699 คะแนน
นายกัณวีร์ สืบแสง บัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเป็นธรรม
พรรคพลังสังคมใหม่ ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมา 1 ที่นั่ง ด้วยคะแนน 174,897 คะแนน
นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ บัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคพลังสังคมใหม่
พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมา 1 ที่นั่ง ด้วยคะแนน 172,963 คะแนน
นายปรีดา บุญเพลิง บัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคครูไทยเพื่อประชาชน
พรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้ส.ส.เขต 2 ที่นั่ง คือ จ.อุบลราชธานี เขต 3 และเขต 10
โดยไปสอดรับกับข้อเสนอของ อ.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ที่บอกว่า “พรรคจิ๋ว” หรือ “พรรค 1 เสียง” จำนวน 6 พรรค นัดหารือกำหนดทิศทางการเมืองกันในวันนี้ โดยแกนนำคือ พรรคพลังสังคมใหม่ ซึ่งมี คุณเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ เป็นหัวหน้าพรรค
นายเชาวฤทธิ์ เป็นชาวจังหวัดน่าน บ้านเดียวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่งให้ข่าวว่าตอบรับคำเชิญเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลแล้ว เพราะมีระดับรองหัวหน้าพรรคโทรมาชวน แต่จำชื่อไม่ได้ ขณะเดียวกันก็พร้อมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นคนบ้านเดียวกับหัวหน้าพรรค หากได้ร่วมงานกันจะได้ทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวพรรคเล็กอีก 3 พรรคจับมือกันต่อรองตำแหน่ง โดยมีตัวเชื่อมเป็นพรรคที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว คาดว่าเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง และไม่ชัดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับ 6 พรรคที่นัดหารือกันวันนี้หรือไม่ แต่กลุ่มนี้ไม่ได้มีเจตนาช่วยนายพิธา เป็นนายกฯเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นต่อรองทางการเมือง ทั้งเรื่องตำแหน่งและโอกาสในการทำงานในกรรมาธิการ โดยเฉพาะกรรมาธิการงบประมาณด้วย