svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นักวิชาการ ชวนปชช.ร่วมโหวต "ให้ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมากของ ส.ส."

11 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักวิชาการ ชวนร่วมโหวต "เห็นด้วยหรือไม่ ที่จะให้ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากของ ส.ส." เริ่มเที่ยงวัน 15 พ.ค. นี้ หวังส่งเสียงถึงผู้มีอำนาจ อย่าฝืนมติประชาชน แนะ "ส.ว.-กกต." เป็นผู้สร้างสันติ ไม่ใช่สร้างสงคราม

11 พฤษภาคม 2566 ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีนักวิชาการ ประกอบด้วย นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว มหาวิทยาลัยบูรพา นายวันวิชิต บุญโปร่ง มหาวิทยาลัยรังสิต และเครือข่ายสื่อ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดโหวตเสียงประชาชน "ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะให้สมาชิกวุฒิสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร"

 

นักวิชาการ ชวนปชช.ร่วมโหวต \"ให้ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมากของ ส.ส.\"

โดยนายปริญญา บอกว่า ขอเชิญชวนประชาชนให้โหวตออนไลน์ โดยใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดโหวตหลังการเลือกตั้งหนึ่งวันคือ วันที่ 15 พฤษภาคม ตั้งแต่ 12.00 น. จนถึง 12:00 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม เป็นเวลา 3 วัน แล้วจะแถลงผลโหวตในเวลา 13:30 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม ที่คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

ขณะที่นายพิชาย ระบุว่า ใกล้ถึงเวลาที่จะได้แสดงสิทธิของประชาชนผ่านการลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อกำหนดชะตากรรมของประเทศ โดยปราศจากการแทรกแซง จึงจัดเวทีนี้มาเพื่อสอบถามประชาชนอีกครั้งว่า ต้องการจะแสดงเจตนารมณ์ของตนเองอย่างหนักแน่นเช่นเดิมหรือไม่ โดยไม่ให้มีองค์กรที่ไม่ได้มาจากประชาชน บิดเบือนหรือแบ่งปันอำนาจได้อีกต่อไป

นายพิชาย ระบุอีกว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจบิดเบือนเสียงของประชาชนได้ คือ การทำงานของ กกต. ซึ่งผ่านการคัดเลือก โดย ส.ว.ชุดปัจจุบัน ที่มาจากการเลือกของคณะรัฐประหารด้วย และเมื่อคณะรัฐประหารมาตั้งพรรคการเมืองเอง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า จะมีอิทธิพลเหนือ กกต.หรือไม่ การเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา ก็มีเหตุหลายอย่าง ยืนยันว่า อาจมีแนวโน้มว่าการทำงานของ กกต. อาจถูกเบี่ยงเบนไป

"ในเวลาที่เหลืออยู่ อยากเห็น กกต. เปลี่ยนวิธีคิดและแนวปฏิบัติ สลัดตนเองให้หลุดจากบ่วงของผู้ที่แต่งตั้งมา บุญคุณอะไรต่างๆ ให้มันจบไป ถ้าจะมี ปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากพันธนาการของระบบบุญคุณที่ไร้ความชอบธรรม และกลับมาสู่หลักการที่ถูกต้องในหลักประชาธิปไตย" นายพิชาย ระบุ

ด้านนายโอฬาร ชี้ว่า เป้าหมายของการโหวตครั้งนี้ คือต้องการส่งเสียงถึงทั้งประชาชน และ ส.ว. ให้เคารพเสียงของประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้ มีความตื่นตัวมากสุดครั้งหนึ่งประวัติศาสตร์ มีความหมายและจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ แต่ก็ยังมีความกังวลกับท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อการเลือกตั้งและต่อพรรคการเมือง อาจเป็นการทำลายความฝันของคนทั้งสังคม

"มีสัญญาณนรก หรือสัญญาอำมหิต บางอย่างจากผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่ไม่สมควรทำ แต่สามารถทำได้ ยิ่งทำให้ประชาชนรู้สึกไม่มั่นใจ ในเมื่อกลไกของคณะรัฐประหารกลายเป็นตัวแสดงหนึ่งของการเมือง และต้องการจะสืบทอดอำนาจต่อในระบบประชาธิปไตย ทำให้คนจำนวนมากคาดหวังว่า จะมีผลต่อกลุ่มคนที่จะเลือกนายกฯ ได้ โดยไม่ต้องฟังเสียงประชาชน" นายโอฬาร ระบุ

นักวิชาการ ชวนปชช.ร่วมโหวต \"ให้ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมากของ ส.ส.\"

ส่วนที่ ส.ว.จะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เร็วๆนี้ นายโอฬาร เสนอว่า อาจจะเพิ่มเรื่องนี้เป็นวาระจร เพื่อกำหนดท่าทีที่ชัดเจนต่อสังคมว่า ส.ว.จะเคารพในเจตนารมณ์ของประชาชน เป็นสัญญาประชาคม เพื่อคลายความกังวล ช่วยยืนยันแสงสว่างในระบอบประชาธิปไตยเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของคนทั้งประเทศ

นายวันวิชิต กล่าวว่า ยินดีที่เสียงของนักวิชาการมีความเข้มแข็ง ยืนหยัดให้บรรยากาศการเมืองยังดำรงอยู่ได้ บทบาทของ กกต. ต้องเป็นผู้ยุติความขัดแย้ง ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง เช่นเดียวกับ ส.ว. ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้คนวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยอ้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาล่วงเกินเสียงของประชาชน ดังนั้นไม่ควรให้ประชาชนต้องมีอคติต่อ ส.ว. หรือ กกต. ว่าตกอยู่ในอาณัติของบางพรรคการเมือง และถูกตีตราว่า เป็นผู้สร้างความขัดแย้งในการเมืองไทย พร้อมย้ำว่า ท่านคือผู้สร้างสันติภาพในการเมืองไทย ไม่ใช่ผู้สร้างสงคราม

นายปริญญา กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับวิธีการโหวตว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภา กำหนดให้การลงคะแนนออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีโดยเปิดเผย เรียงตามลำดับพยัญชนะ คละกันทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งไม่ใช่ปัญหาว่า ส.ว. จะไม่รู้ว่า เสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. เป็นอย่างไร เพราะในข้อบังคับกำหนดไว้ว่า การลงคะแนนสามารถใช้วิธีอื่นได้

เช่น ให้ ส.ส. ทั้งหมดออกเสียงก่อน และจึงตามด้วย ส.ว.ทั้งหมด เพื่อที่ ส.ว.จะได้ทราบว่า เสียงข้างมากไปทางไหน ในการนี้ จึงเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะทำหน้าที่ประธานรัฐสภาในอนาคต ได้ปรึกษาหารือให้ใช้วิธีลงคะแนนแบบ ส.ส. ออกเสียงก่อน และจึงตามด้วย ส.ว. เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง

พร้อมกันนี้ ยังเป็นห่วงว่า ถ้า ส.ว. งดออกเสียง ก็จะเกิดสภาวะเลือกนายกฯ ไม่สำเร็จ จะเกิดการต่อรอง ซึ่ง ส.ว. ไม่ควรถูกต่อรองใดๆ แล้วอาจเกิดการใช้วรรคสอง ของ ม.272 คือ สรรหาคนนอกบัญชีรายชื่อเป็นนายกฯ ได้

"แต่ผมเชื่อว่า เราเห็นพัฒนาการการเมืองไทยแล้วว่า แม้ประชาชนจะเห็นต่าง แต่ก็เคารพผลการเลือกตั้ง ไม่เคยมีการประท้วงผลเลือกตั้ง จึงขอให้ช่วยรักษาหลักการประชาธิปไตยตรงนี้ นี่เป็นปีที่ 9 แล้ว การเมืองแบบสืบทอดอำนาจต้องหมดไป อีกทั้งยอมรับว่า มีความกังวลใจการเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่คนที่น่ากังวลควรเป็น กกต. มากกว่า ที่ควรทำหน้าที่ให้ดี" นายปริญญา กล่าว

logoline