6 พฤษภาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) ได้ทำหนังสือถึงตอบข้อสอบถามกรณี"พรรคก้าวไกล"ได้ขอสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือ ประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวม 4 ประเด็น ดังนี้
1. ในวันเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งสามารถจ้างแรงงานบุคคลให้สังเกตการณ์นับคะแนนเสียงเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้ง หลังปิดหีบเลือกตั้งหรือจ้างแรงงานผู้สังเกตการณ์ทุจริตในการออกเสียงลงคะแนนโดยประจำอยู่ที่บริเวณนอกหน่วยเลือกตั้งซึ่งมิใช่บุคคลที่พรรคการเมืองแจ้งเป็นผู้แทนพรรคการเืองเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่
2. กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง สามารถจ่ายค้าจ้างแรงงานในอัตรค่าตอบแทนตามความเหมาะสม เช่น ใน อัตรา 500 บาท ต่อวัน ได้หรือไม่
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อสอบถามที่ 1 และ 2 สามาถจ้างได้ โดยการจ่ายค่าจ้างแรงงานควรสอดคล้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละจังหวัด
3. ในกรณีที่บุคคลซึ่งพรรคการเมืองแจ้งเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง อันเป็นกรณีพรรคการเมืองได้ดำเนินการตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่ประสงค์รับค่าจ้างตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้ง และไม่รับค่าจ้างตอบแทนในการดำเนินการดังกล่าว เช่นนี้ พรรคการเมืองจะต้องคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงหรือไม่
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคการเมือง ต้องนำไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง
4. การดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ วันสุดท้ายที่พรรคการเมืองสามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัครดังกล่าวได้ คือ วันก่อนวันเริ่มรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ใช่หรือไม่
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณาแล้วเห็นว่า ต้องดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 47 ถึง มาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2566