svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กกต.แย้ม 1-2 วันนี้มีข่าวใหญ่ อาจกระทบพรรค พร้อมเปิดศูนย์ป้องกันข่าวปลอม

02 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กกต.แย้ม 1-2 วันนี้มีข่าวใหญ่ อาจกระทบพรรค พร้อมเปิดศูนย์ป้องกันข่าวปลอม ขอให้มั่นใจ 4 ปีที่ผ่านมาไม่ทุจริต ระบุ รวบรวมหลักฐานข้อกล่าวหากกต.เปลี่ยนสูตรคำนวนในปี 62 แต่ยังไม่เคาะดำเนินคดี

2 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชษฐ์ นุชนาฎ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดศูนย์ปฏิบัติงานคณะกรรมการต่อต้านข่าวเท็จ โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ส่งผล กระทบต่อภาพลักษณ์ของกกต.และสำนักงานกกต. เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.และสำนักงานกกต.ให้ประชาชนรับทราบและเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา ในการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.

นายฐิติเชษฐ์ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ของกกต.มีความจำเป็น เพราะบางข่าวไม่จำเป็นจะต้องเอาเข้าเสนอ กกต. คณะกรรมการด้านการข่าว จากส่วนที่จัดตั้งขึ้นมีอำนาจเด็ดขาดที่จะแก้ไขข่าวที่เกิดขึ้นและรายงานให้กกต.ทราบภายหลัง เพราะถ้าข่าวสารที่มาเป็นข่าวเท็จไม่เป็นความจริง จะต้องมีการแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง ทันทีก่อนที่จะแพร่หลาย ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 จะพบเจอกับข่าวเท็จจำนวนมาก อะไรที่เป็นข่าวเท็จข่าวปลอมก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษและศาลก็มีคำพิพากษา กับผู้กระทำความผิดเหล่านั้น

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งปี 2566 ก็น่าจะมีข่าวเท็จเกิดขึ้นเช่นเดียวกับปี 2562 เพราะยังมีกลุ่มคนที่ไม่อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความราบรื่น ฉะนั้นปี 2566 ณ ขณะนี้มีข่าวที่ไม่เป็นความจริง เผยแพร่ในโซเชียลจำนวนมาก ซึ่งกกต.จะแจ้งไปที่ต้นทางให้มีการแก้ไข

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะมีข่าวปลอมเกิดขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากกกต. จะตั้งกำแพงไว้ว่า ข่าวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นก็จะเกิดขึ้นน้อยที่สุด หรือ เกิดขึ้นก็จะดำเนินคดีถ้าหากว่าผู้ให้ข่าวนั้น เป็นผู้ไม่ประสงค์ดีกับการทำงานของกกต. โดยกกต.จะดำเนินคดีกับข่าวที่เป็นต้นตอหรือเป็นข่าวสำคัญและส่งผลให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมเท่านั้น จะไม่ดำเนินคดีกับข่าวเล็กน้อย ซึ่งจะทำเพียงตักเตือน

ด้านนายปกรณ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เรื่องแรกคือการยุบพรรคติดเทอร์โบ คือกกต.ออกระเบียบตามที่กฎหมายให้ทำ แต่สื่อมวลชนได้มีการตั้งชื่อแบบนั้น จึงอยากทำความเข้าใจ ว่า อำนาจของเลขาธิการกกต. สามารถทำเรื่องให้รวดเร็วได้ แต่ไม่มีกำหนดเวลาการสืบสวนไต่สวน เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคที่ถูกกล่าวหา ยื่นพยานหลักฐานและให้ถ้อยคำกับกกต. และต่อสู้อย่างเต็มที่

ส่วนข่าวเรื่องการแบ่งเขต ขอยืนยันไม่มีการแบ่งเขตตามใจ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดตัดสินทั้ง 5 คดีว่า กกต.ออกระเบียบโดยชอบตามกฎหมายถูกต้องแล้ว กกต.จะต้องจัดทำ โดยภาพรวมเพื่อบรรลุหลักเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การทำงานของ กกต.ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย

ส่วนกรณีข่าวเรื่องบัตรเลือกตั้ง กกต. ไม่ได้เป็นผู้กำหนดแต่อยู่ในข้อกฎหมายทุกอย่าง พร้อมยกคำพูดของนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ "ถ้าพรรคการเมืองไม่สามารถทำให้ ประชาชนจำหมายเลขของพรรคท่านได้แล้ว จะเอาปัญญาที่ไหนมาบริหารประเทศ"

ส่วนการพิมพ์บัตรเกินในข่าวบอกว่าเกินไป 7 ล้านใบ แต่ความจริงเราพิมพ์เกินเพียง 4-5 ล้านใบ เพราะการพิมพ์บัตรต้องพิมพ์เป็นเล่มๆละ 20 ใบ ซึ่งแต่ละหน่วยต้องสำรองไว้หน่วยละ 1 เล่ม ซึ่งเป็นการสำรองเผื่อไว้สำหรับ กปน.และผู้รักษาความสงบอาจจะใช้สิทธิ์ที่หน่วยนั้น 

นอกจากนี้ ยังมีการสำรองไว้เผื่อเกิดความผิดพลาดในการพิมพ์ เช่น บางเล่มมี 18 ใบ ปัญหาสำคัญที่น่าจะคิดมากกว่าคือ เราจะไม่มีการทุจริต ทันทีที่นับคะแนนเสร็จ จะรู้ทันทีว่าบัตรใช้ไปเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ ป้องกันการผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการทุจริต ขอให้มั่นในว่า กกต.ไม่มีการทุจริต ตนขอให้สัญญาและคำมั่นเรื่องใดที่ไม่ถูกต้องจะแจ้งให้ทราบทันที พร้อมย้ำ ตลอด 4 ปีที่ทำงานไม่เคยมีประวัติที่ไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม การแถลงข่าวของคณะกรรมการด้านข่าวจึงมีความจำเป็น

"ต้องยอมรับว่าบางเรื่องมีความอ่อนไหวมาก แต่เราก็อดทนและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เป็นคดี บางเรื่องด่าเราว่าเราด้วยคำหยาบ แต่เราก็มีมติไม่ดำเนินคดี เราจะอดทนและขอใช้ช่องทางการสื่อสารขององค์กรชี้แจง" นายปกรณ์กล่าว

พร้อมยกตัวอย่างคำพูด ในการดีเบตของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่มีลักษณะคล้ายกันว่า " ในการเลือกตั้งปี 62 กกต.เปลี่ยนแปลงสูตรการคำนวณบัญชีรายชื่อ" เรื่องนี้ ศาลก็ได้ พิพากษาแล้วว่ากกต.ทำงาน โดยชอบด้วยกฎหมาย กกต.ได้รวบรวมไว้หมดแต่ยังไม่ได้มีการนำมาพิจารณา เพราะไม่อยากให้มีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับการเลือกตั้งของพรรคการเมืองได้ จึงจะนำมาพิจารณาภายหลังจากการเลือกตั้ง แล้วจึงจะมีมติออกมา

นอกจากนี้ นายปกรณ์ ยังกล่าวว่า ในอีก 1-2 วันนี้ กกต. จะเปิดเผย มติบางอย่างออกมา ซึ่ง ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่า มติดังกล่าวจะมีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับพรรคการเมืองหรือไม่ นายปกรณ์ ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถามกับสื่อมวลชน ทำให้เข้าใจได้ว่า มติของกกต. ที่จะมีขึ้นอาจส่งผลกับพรรคการเมืองบางพรรคแน่นอน

ส่วนเรื่องดูงานต่างประเทศนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ถ้ากกต.ไม่ไป จะเกิดปัญหาหลายเท่า เราไม่ได้ไปดูงาน เราไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก็พบปัญหาหลายที่และได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว

logoline