27 เมษายน 2566 ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมายื่นหลักฐานเกี่ยวกับการซื้อเสียงเลือกตั้ง พร้อมแถลงข่าวในหัวข้อประเทศไทยราคาถูก และอธิบายกระบวนการทุจริตซื้อเสียงในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เกรดเอ มีการใช้เงินถึง 10 ล้านบาท ส่วนการจ่ายเงินมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ระบบการเมืองบ้านเรา ยิ่งเน่าขึ้นทุกวัน เพราะใช้ทั้งพลังดูด พลังบีบ และแจกกล้วย ขนาดในสภายังมีการแจกกัน พร้อมกับเปิดเเชตไลน์การโอนเงินของผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ที่โอนเงินไปให้ชาวบ้านชายรายหนึ่ง ชื่อย่อ "อ." จำนวน 3,000 บาท พร้อมพิมพ์ย้ำว่า "เอาไว้ใช้นะคะ กราบงาม ๆ ในน้ำใจของน้องสาว"
การกระทำแบบนี้เป็นเหมือนการเล่นไพ่ เอาไพ่มาวางไว้ก็ไม่ผิด แต่จะผิดเมื่อมีเงิน กรณีนี้ถือว่าคลาสสิคที่สุด ต้องเรียกร้องไปยังผู้ที่ดูแลพื้นที่สระแก้ว ผู้ติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แล้วอย่ามาหาว่าตนสร้างเรื่องหรือจัดฉาก เพราะหลักฐานมันชัดเจน
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้ยื่นให้ตรวจสอบกรณีหลักฐานเป็นบทสนทนาผ่านไลน์ ระหว่างผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน เขต 2 กับรองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ในวันที่ 25 เมษายน 2566 ซึ่งมีข้อความขอเพิ่มเงินสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งจากที่จัดสรรให้ 5 หมื่นบาทต่อเขต เป็น 3-5 ล้านบาทต่อเขต หากยังนิ่งและไร้คำตอบ จะยุติการหาเสียงพร้อมปลดป้ายหาเสียง
บทสนทนานี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีหรอกที่จะไม่ใช้เงิน กกต.กำหนดให้ผู้สมัครใช้เงินหาเสียงได้เขตละ 1.9 ล้านบาท แล้วจะขอทำไมสูงถึง 3-5 ล้านบาท หากไม่ใช่ว่าจะเอาไปเพื่อซื้อเสียง แล้วคนที่คุยด้วยคือรองหัวหน้าพรรค เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค ส่วนจะมีข้อความตอบกลับว่าโอนเงินให้หรือไม่นั้น ตนขอให้ข้อมูลกับ กกต.ดีกว่า แต่ก็ถึงยุบพรรคอีก กกต.ควรพิจารณาเรื่องนี้ให้รวดเร็ว เข้มงวด
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า วันนี้มีการใช้เงินซื้อเสียงเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย สูงถึง 4 พันบาทแล้วที่ฝั่งอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ราคาสูงมาก อยุธยาบอกว่าถ้าได้ยกจังหวัด เอาตำแหน่งรัฐมนตรีไปเลย ถือว่าเรื่องนี้เลวร้ายมาก เอาเป็นว่าประชาชนคนไหนได้เงินจากนักการเมือง หากได้ 3 พันบาท เอาข้อมูลมาให้ตนได้เลยจะให้เบิ้ล 10 เท่า ใครได้ 3 พันบาท ตนให้ 30,000 บาท ใครได้ 4 พันบาท ตนให้ 40,000 บาท
นักการเมืองซื้อเสียงเราแค่นี้ แต่เมื่อเข้าไปก็จะไปทำการถอนทุน ทำให้วันนี้อัตราค่าตัวจึงสูงถึง 60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับค่าตัวหมอนวดในโรงนวดที่ตนเคยทำนั้นยังมีศักดิ์ศรีมากกว่า เพราะเขาขายแค่ตัว ไม่ได้ขายประเทศ เหมือนคนที่เมื่อเข้าไปเป็น ส.ส.แล้ว คุณก็ต้องไปถอนทุนคืน ดังนั้นขอเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนการเลือกตั้ง
ชายสีเทาจะให้ท่าน 10 เท่า ถ้ามีหลักฐานมายืนยัน แต่อย่าอัดคลิปมา ถ้าเป็นสลิปส่งมาได้ เพราะมีหลักฐานชัดเจน นักการเมืองคนไหนให้เท่าไหร่ ชูวิทย์ เบิ้ลให้ 10 เท่า
นายชูวิทย์ ย้ำว่า ขออย่าเข้าใจผิด ตนไม่ได้ยื่นเเค่พรรคภูมิใจไทย เพราะส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีเท่านั้น และเข้าใจว่าทุกพรรคก็มีการจ่ายเงิน พร้อมกับควักแบงค์มาหนึ่งปึก แล้วบอกว่าถ้าจะให้ต้องให้แบบนี้ นายชูวิทย์ ยังบอกว่ากลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มที่อยู่ต่างจังหวัด เพราะเงินแค่ 3,000 บาท เป็นสิ่งมีค่า ทำให้มีชีวิตอยู่ได้หลายวัน เมื่อถามว่าจากหลักฐานที่มีจะสามารถยุบพรรคภูมิใจไทย ได้หรือไม่ โดยนายชูวิทย์ ได้แสดงท่าทางดีใจ พร้อมกับตกเสียงดัง 2 ครั้ง พร้อมบอกว่าเอาแค่นี้พอ
ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ กกต. บอกว่าจะไม่เชิญให้นายชูวิทย์ มาให้ข้อมูลเรื่องคลิป TikTok ที่มีเนื้อหาคล้ายกับการซื้อเสียง เพราะมองว่านายชูวิทย์ทำแค่คอนเทนต์ จะเป็นเหตุให้ กกต. มองว่าหลักฐานที่นำมายื่นวันนี้เป็นแค่คอนเทนต์ด้วยหรือไม่
นายชูวิทย์ อ่านเลขรับหนังสือทร้องเรียนที่นำมายื่นให้ กกต. พร้อมย้อนถามว่าเป็นคอนเทนต์หรือคอนทัวร์ พร้อมย้อนถามว่า คุณเข้าใจหรือไม่ว่าคลิปบางคลิปเป็นแค่อินโทร ถ้าไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงจริง จะมาจดชื่อทำไม เมื่อไปสอบอาจจะบอกว่าคุยเล่น ๆ กัน แต่เคสแบบนี้เคยขึ้นศาลมาแล้ว ถ้าเอาสเตรทเม้นท์มาเปิดก็รู้แล้วว่าจ่ายให้ใครบ้าง หนีไม่บอก ตนถึงบอกว่าใจถึงจริง ๆ