svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กลลวง แผนดันหลัง“พรรคก้าวไกล”เปิดศึกกับ“พรรคเพื่อไทย”ใครได้ประโยชน์ ?

26 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คะแนนของ“ก้าวไกล”กับ“เพื่อไทย”มีความสัมพันธ์กัน เพราะมีฐานเสียงเดียวกันยิ่ง“ก้าวไกล”ได้ ส.ส. มากเท่าไหร่“เพื่อไทย”ยิ่งได้ ส.ส. น้อยลงไปเท่านั้น หากทั้ง 2 พรรคหันมาฟาดฟันกันเองล่ะ ใครได้ประโยชน์เกมนี้ ?

การแข่งกันเองระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคก้าวไกล” ไม่ได้ส่งผลเฉพาะพรรค 2 พรรคนี้เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงบรรดาแฟนคลับสาย “ไม่เอาลุง” ที่อยู่ในอาการลังเลว่า จะเลือกใครดี

ผลสำรวจของ“เนชั่นโพล”เปิดแถลงไปเมื่อ 18 เมษายน 2566 ปรากฏว่า จากการสุ่มตัวอย่างกว่า 4 หมื่นตัวอย่างทั่วประเทศ มีคนไทยถึง 32% ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือก ส.ส.เขต และปาร์ตี้ลิสต์จากพรรคใด

“ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น” ผอ.เนชั่นโพล และผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้ข้อมูลเชิงลึกว่า “กลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจ”มีบางส่วนเป็นฝ่ายเสรีนิยม กำลังลังเลว่าจะเลือกใครดี ระหว่าง “ก้าวไกล” กับ “เพื่อไทย” แต่กลุ่มนี้จะไม่เลือกข้ามฝั่ง

จากข้อมูลเชิงลึกของ “เนชั่นโพล” ตามคำอธิบายของ “อ.เชษฐา” ทำให้ประเมินได้ว่า การแข่งกันเองของ “ก้าวไกล” กับ “เพื่อไทย” จะทำให้ 2 พรรคนี้ “ตัดคะแนนกันเอง”

ฉะนั้นถ้ามองในมุม “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” หาก 2 พรรคนี้ตัดคะแนนกันเอง ยิ่ง “ก้าวไกล” ได้ ส.ส. มาก “เพื่อไทย” จะได้ ส.ส. น้อยลง และถ้าเชื่อว่าอย่างไรเสีย “เพื่อไทย” ก็ยากที่จะจับมือกับ "ก้าวไกล" ตั้งรัฐบาล ฉะนั้นการลุ้นให้ “ก้าวไกล” ได้ ส.ส.มากๆ จะส่งผลให้ “เพื่อไทย” ไม่แลนด์สไลด์

กลลวง แผนดันหลัง “ก้าวไกล” เปิดศึกกับ “เพื่อไทย” ใครได้ประโยชน์ ?

ผลสำรวจ “ซูเปอร์โพล” ก้าวไกลแซงเพื่อไทย

และมีผลสำรวจที่น่าสนใจของ “ซูเปอร์โพล” โดย “ดร.นพดล กรรณิกา” ผลสำรวจออกมาว่า คะแนนนิยมของ “ก้าวไกล” แซงหน้า “เพื่อไทย”

กลลวง แผนดันหลัง“พรรคก้าวไกล”เปิดศึกกับ“พรรคเพื่อไทย”ใครได้ประโยชน์ ?

จะเห็นว่า จากผลสำรวจที่ออกมาคะแนน “ก้าวไกล”พุ่งจริงๆ และวันต่อมาก็มีหนังสือพิมพ์นำไปพาดหัวข่าวใหญ่โต

เช่น หัวข่าว “ก้าวไกล” แซง “เพื่อไทย” และบรรยายในโปรยอ้างผลโพลว่า คะแนนนิยม “ก้าวไกล” พุ่งแรง แซง “พรรคเพื่อไทย” แถมยังระบุว่า “ประชาธิปัตย์” กับ “ภูมิใจไทย” อาจเป็น “ตาอยู่” ต้ังรัฐบาล

อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ นำผลโพล ไปพาดหัวข่าว

นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อไปโยงกับภาพการปราศรัยใหญ่ของ “ก้าวไกล” ที่ “สามย่านมิตรทาวน์” ซึ่งปรากฏว่ามีคนแห่ไปฟังกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน ยิ่งทำให้กระแส “ก้าวไกล” มาแรง ดูจริงมากขึ้นไปอีก

บรรยากาศ พรรคก้าวไกล ปราศรัยที่บริเวณลาน สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

กลลวง แผนดันหลัง “ก้าวไกล” เปิดศึกกับ “เพื่อไทย” ใครได้ประโยชน์ ?

“ทฤษฎีดาวน์โหลดเพลง”

ยังจำเรื่องราวของ “ทฤษฎีดาวน์โหลดเพลง” ที่ “อาจารย์พันธ์ศักดิ์ อาภาขจร” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร นำมาบอกกล่าวให้แฟนๆ “เนชั่นทีวี” ได้ฟังหรือไม่

บทสรุปของทฤษฎีนี้ ก็คือ คนมีแนวโน้มจะดาวน์โหลดเพลงจากความนิยมหรือยอดดาวน์โหลดที่มีจำนวนมาก มากกว่าจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของเพลง

เคยมีการทดลองกับอาสาสมัครเป็นหมื่นคน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ให้กลุ่มแรกฟังเพลงที่ไม่มีใครรู้จัก เล่นโดยศิลปินโนเนม แล้วให้เลือกเพลงที่ชอบออกมาจัดอันดับ และดาวน์โหลดเพลง 

จากนั้นคณะผู้ทดลอง นำอันดับเพลงไปสลับใหม่ เอาเพลงที่กลุ่มแรกเลือกดาวน์โหลดเยอะๆ ไปไว้อันดับท้ายๆ เอาเพลงอันดับท้ายๆ ขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ แล้วส่งไปให้ผู้ทดลองกลุ่มที่ 2 ฟัง และดาวน์โหลด ปรากฏว่าผู้ทดลองกลุ่มที่ 2 ดาวน์โหลดเพลงตามอันดับที่ถูกจัดสลับใหม่ โดยไม่รู้ว่าเป็นอันดับที่จัดสลับกับกลุ่มแรก

การทดลองนี้นำมาสู่บทสรุปที่ว่า “คำพยากรณ์เกิดขึ้นจริง เพราะอิทธิพลของตัวคำพยากรณ์เอง”

ฉะนั้นผลโพล หรือตัวเลขคาดการณ์ ส.ส. จึงสามารถชี้นำสังคม ชี้นำผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ (กกต.จึงห้ามรายงานผลโพลช่วง 7 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง)

เราย้อนมาดูกรณีของคะแนน “ก้าวไกล” นำ “เพื่อไทย” ผลโพลที่ออกมา ถูกนำไปเสนอเป็นข่าวใหญ่ พาดหัวต้วโตในหนังสือพิมพ์ เมื่อไปสอดรับกับภาพเวทีปราศรัยของ “พรรคก้าวไกล” ที่มีแฟนคลับเนืองแน่น ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของ “คุณพิธา” ว่า ถ้าได้ 160 เสียง ก็จะต้ังรัฐบาลได้ ตัวเองพร้อมเป็นนายกฯ

ทั้งหมดนี้ทำให้กระแส “พรรคก้าวไกล” มาแรงขึ้นไปอีก และมีโอกาสที่จะชี้นำสังคม โดยเฉพาะคนที่กำลังลังเล ชอบ “ก้าวไกล” แต่อาจต้องตัดใจเลือก “เพื่อไทย” เพราะกลัว 2 ลุงกลับมา ก็อาจจะตัดสินใจเลือก “ก้าวไกล” ตามที่ชอบ เพราะตอนนี้กระแสกำลังมา “พิธา” ก็อาจจะเป็นนายกฯ ได้จริงตามที่ประกาศไว้

กลลวง แผนดันหลัง “ก้าวไกล” เปิดศึกกับ “เพื่อไทย” ใครได้ประโยชน์ ?

เพื่อไทย VS ก้าวไกล ใครได้ประโยชน์ ?

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เราไม่ได้สรุปว่า จงใจหรือไม่จงใจให้เกิดขึ้น แต่พรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้ประโยชน์แน่นอน เพราะ

1. เมื่อ 2 พรรคตัดคะแนนกันเองอย่างหนัก โดย “พรรคก้าวไกล” มีแนวโน้มได้ ส.ส.มากขึ้น โอกาสของ “พรรคเพื่อไทย” ที่จะแลนด์สไลด์ย่อมห่างไกลความจริง

2. ปรากฏการณ์แบบนี้ ดีกว่าการสร้างตัวเลขคาดการณ์ชี้นำสังคมว่า พรรคฝั่งอนุรักษ์นิยมจะได้ ส.ส.เยอะกว่า "เพื่อไทย" หรือฝ่ายเสรีนิยม เพราะถ้าสร้างตัวเลขแบบนั้นจะไม่มีคนเชื่อ ซึ่งหมายความว่า เวลาพรรคการเมืองประกาศตัวเลขคาดการณ์ ภูมิใจไทยบอก 120  , พรรคลุงตู่บอก 80-100 คนเชื่อน้อยกว่าบอกว่า “ก้าวไกล” จะได้ 160 หรือก้าวไกลกระแสแรง

3. เป้าหมายของฝ่ายอนุรักษ์นิยมคือ “เพื่อไทย” ไม่แลนด์สไลด์ก็พอแล้ว เพราะพรรคฝ่ายผู้มีอำนาจ มีเครื่องมืออื่นให้เล่น

นี่คือเกมยืมมือฝ่ายเดียวกันบั่นคอกันเอง เหมือนกลศึกของขงเบ้ง ที่ใช้อุบายจัดการ 3 เกลอร่วมสาบาน “โกเตง ยงคี จูโพ” ในวรรณกรรมเรื่อง “สามก๊ก” ที่ลวงให้สามเกลอร่วมสาบาน ฆ่ากันเอง

logoline