"อุปกิต" ลุ้นอัยการนัดฟังคำสั่งคดีสมคบฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ 18พ.ค.

20 เมษายน 2566 ที่ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ผู้ต้องหาคดีเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกัน ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนัท แสงอรุณ ทนายความและที่ปรึกษาทางกฎหมาย เดินทางเข้าพบคณะทำงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มอบหมายให้ทนายความ ยื่นหนังสือแจ้งขอเลื่อนในวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• เลื่อนสั่งคดี “อุปกิต” ฟอกเงิน หลังเจ้าตัวร้องถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง
• "ส.ว.อุปกิต" ลั่นจบแล้วปม "รทสช." เช่าตึก ชี้ถ้าถูกยึดพรรคก็เสียด้วย
• "ส.ว.อุปกิต" หวัง "อสส." สอบนิติบุคคล 86 บริษัท เที่ยงธรรมไม่เลือกปฏิบัติ

นายอุปกิต กล่าวว่า วันนี้มารายงานตัว กับพนักงานสอบสวน ทั้งฝ่ายตำรวจ และพนักงานอัยการ หลังจากขอเลื่อนจากวันที่ 18 เม.ย. เนื่องจากติดภารกิจ โดยวันนี้ได้นำข้อมูลให้การเพิ่มเติม จากเดิมเคยยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กับอัยการสูงสุด เป็นรายชื่อบริษัทกว่า 86 แห่ง แต่ตอนนี้พบว่า มีอีก 26 บริษัทรวมเป็น 112 บริษัท

ตนต้องขอขอบคุณ อสส. ที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งบริษัทเหล่านี้ ได้ทำธุรกิจอยู่ในประเทศเมียนมา เช่นเดียวกับ บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป โดยเป็นการโอนเงินผ่านเอ็มซี และไม่ทราบได้ว่า เอ็มซีใช้บัญชีใด โอนไป ซึ่งต่างจาก บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป ที่เอ็มซีจะโอนไปที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามใบเสร็จ แต่บริษัท 112 แห่งนี้ โอนเงินจากบัญชียาเสพติด ตรงเข้าบริษัท ตรงนี้เราคิดว่า เพื่อความเสมอภาค เพื่อความเป็นธรรม จะต้องไม่ใช่การดำเนินคดีแค่ บริษัท อัลลัวร์ แต่ต้องไปสอบสวนทั้ง 112 บริษัท 

ทั้งนี้ ตนขอฝากไปถึงผู้อภิปราย ที่ทำให้ตนเสียหายเป็นอย่างมาก ที่กล่าวพาดพิงว่า ตนไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตนไม่เกี่ยวข้องเลย จะเห็นได้ว่าที่เขาเอามาอภิปราย เป็นการคุยกันระหว่างตนกับ ทุนมินลัตที่ผ่านมานานกว่า 10 ปี และเป็นการคุยธุรกิจ ไม่มีคุยเกี่ยวกับยาเสพติด 

 

นายอุปกิต กล่าวอีกว่า บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป (พีแอนด์อี) โอนเงินเข้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไม่เกี่ยวกับยาเสพติด และตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ ไม่ได้เป็นกรรมการ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไร กับทางบริษัททั้งสิ้น ดังนั้นการที่มีคนมาปรักปรำตน เรื่องยาเสพติด ตนจะขอดำเนินคดีถึงที่สุด โดยเฉพาะพวกเด็กเลี้ยงแกะ อีกทั้งที่สำนักงานการสอบสวนที่นี่ จากครั้งสุดท้ายได้กล่าวหาตนเพียง 2 ข้อหา แต่ไม่มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย และในวันนี้ ตนเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม จากนั้นทางอัยการจะนัดหมาย เพื่อฟังคำสั่งคดีอีกครั้ง

เมื่อถามว่า การยื่นรายชื่อบริษัททั้ง 112 แห่ง เป็นการประวิงเวลาคดีหรือไม่ นายอุปกิต ขี้แจงว่า ตนไม่ต้องการประวิงเวลาอะไร เพราะไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ทางพนักงานสอบสวน จะต้องรวบรวมความผิด และความบริสุทธิ์ ซึ่งการยื่นรายชื่อบริษัทเหล่านี้ ถือเป็นสิทธิ์ ส่วนบริษัททั้งหมดนี้ ล้วนเป็นบริษัทใหญ่ ประกอบการค้านานาชนิด และล้วนโอนเงินจากบัญชียาเสพติดทั้งสิ้น รวมถึงตนไม่หวาดหวั่น กับการยื่นรายชื่อบริษัท เพราะเป็นรายชื่อที่ตน ได้ไปคัดเอกสารมาจากศาล คัดมาอย่างถูกต้อง

นายอุปกิต ระบุทิ้งท้ายว่า กรณีที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สว.สส.สน.พญาไท มีการเซ็นรับทราบทุกหน้า และยังมีการแปลผิด โดยตั้งใจที่จะทำให้ตนเสียหาย จนศาลออกหมายจับได้ในคราวนั้น ทั้งที่จริง ๆ ต้องขอออกหมายเรียกก่อน และตามกระบวนการก็ผิดมาตลอด เพราะผู้บังคับบัญชาไม่รับทราบ และทางศาลก็ไม่ได้แจ้งผู้พิพากษาว่า ผู้ถูกออกหมายจับเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการที่มีกฎระเบียบเหล่านี้ ก็เพื่อไม่ให้เป็นการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า จะฟ้องคนอื่นเพิ่มเติมแน่นอน ในส่วนของคนที่ใส่ร้ายปรักปรำตน ในเรื่องยาเสพติด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

อัยการเร่งสอบคำร้อง ส.ว.อุปกิต นัดฟังคำสั่ง 18 พ.ค. 

ภายหลัง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการร่วมสอบสวน ที่อัยการสูงสุดได้ตั้งขึ้น ในการดำเนินคดีสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ทาง ส.ว.อุปกิต ได้ขอเลื่อนนัด จากวันที่ 18 เม.ย.2566 มาเป็นวันนี้  เพื่อมารายงานตัว และนำเอกสารมายื่นร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติม

โดยขอให้คณะทำงาน ตรวจสอบเส้นทางจากบัญชีโอนเงิน ที่ใช้ดำเนินคดี บริษัทอัลลัวร์ พีแอนด์อี  อีก 26 บริษัท รวมเป็น 112 บริษัท โดยคณะพนักงานสอบสวน ได้รับไว้พิจารณา และในเบื้องต้น มีการตรวจสอบไปแล้ว 10 บริษัท

หลังจากนี้  คณะทำงานได้นัดหมายทาง ส.ว.อุปกิต ให้มารับฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ค. นี้ โดยจะเร่งทำสำนวนแล้วเสร็จ ภายในเดือนนี้ เพื่อนำเสนออัยการสูงสุดพิจารณาว่า จะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

สำหรับคดี รองอธิบดีวัชรินทร์ กล่าวว่า ไม่ติดระยะเวลาเรื่องการฝากขัง แต่ในส่วนประเด็นร้องขอความเป็นธรรม เรื่องการสอบสวนเพิ่มเติม ทางคณะทำงานร่วมอัยการ-ตำรวจ จะเร่งทำให้เสร็จสิ้นในเดือน เม.ย.นี้ และจะนำเสนออัยการสูงสุด พิจารณาสำนวนให้แล้วเสร็จ ก่อนนัด ส.ว.อุปกิต มาฟังคำสั่งในวันที่ 18 พ.ค. 66 ต่อไป