16 เมษายน 2566 เวลา 17.10 น. ที่โรงยิมสนามกีฬาติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ "มาดามเดียร์" ประธานคณะนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมปราศรัยขอเสียงสนับสนุนให้นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส. สงขลา เขต 1 หมายเลข 4 ซึ่งในเวทียังมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายการเมือง ร่วมปราศรัยด้วย ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมรับฟังอย่างคึกคัก
น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้รู้สึกอบอุ่นและดีใจมากที่ได้มาเจอคนสงขลา เมื่อช่วงเช้าได้ไปเดินลุยตลาดที่กทม. ซึ่งยอมรับว่าเหนื่อย แต่ไม่ได้เหนื่อยเพราะทำงานหนัก แต่กลับเหนื่อยใจและเสียใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาเห็นปัญหาของประชาชน แต่หลายครั้งไม่สามารถแก้ให้กับประชาชนได้ เนื่องจากการเมืองที่ไม่ดี เป็นการเมืองที่อยู่แต่ในวังวนของความขัดแย้ง เป็นการเมืองที่มัวแต่ทะเลาะกันเอง จนทำให้ขาดโอกาสพัฒนาประเทศ ทำให้สูญเสียโอกาสของประเทศ และเยาวชนยังขาดโอกาสดี ๆ อีกด้วย
"ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนการเมือง เพราะที่ผ่านมาเราอยู่บนการเมืองของขั้วความขัดแย้ง ที่ฝ่ายหนึ่งอ้างว่าตัวเองสวมเสื้อประชาธิปไตย อ้างว่าตัวเองมาจากประชาชน แต่เมื่อเข้าไปในสภากลับทุจริตเชิงนโยบาย โกงกินเงินงบประมาณ ส่วนอีกฝ่ายที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อจะมาจัดการกับความขัดแย้ง บอกว่าให้เลือกความสงบ แต่ปรากฎว่าก็จบลงที่เศรษฐกิจเงียบสงัด ความขัดแย้งก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม และท้ายที่สุดก็ทุจริตไม่ต่างกัน" น.ส.วทันยา ระบุ
โดยวันนี้สิ่งแรกที่เราต้องเปลี่ยนคือ เปลี่ยนพรรคการเมือง ต้องเลือกพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนมาคอยชี้นำ จะทำให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงคือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งยืนอยู่คู่พี่น้องคนใต้และคนไทยมาได้ 77 ปี โดยเป็นเครื่องยืนยันและการันตีให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเดียวที่มีจุดกำเนิดที่เกิดขึ้นมาจากประชาชน ทำเพื่อประชาขน และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
น.ส.วทันยา กล่าวด้วยว่า เรื่องที่ 2 ที่ต้องเปลี่ยนคือ เลือก ส.ส. ที่มีอุดมการณ์ ส.ส.ที่ไม่ไปเข้าพรรคการเมืองเพราะถูกประมูลตัว เพราะเมื่อถูกประมูลตัวไป เท่ากับว่าต้องเริ่มต้นนับ 1 ทั้งที่ยังไม่เข้าสภาด้วยเงิน ดังนั้นเมื่อเข้าไปสภาคิดว่าเขาจะเลือกประชาชนหรือเงิน และเมื่อเขาอยู่พรรคการเมืองที่มีเจ้าของ มีนายทุน และยังเริ่มต้นก่อนเข้าสภาด้วยการเลือกเงิน พี่น้องประชาชนคงจะรู้ว่านักการเมืองเหล่านั้น เมื่อเข้าไปในสภาจะมุ่งหาผลประโยชน์ มุ่งกอบโกยผลประโยชน์ทำเพื่อตัวเอง โดยไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 เหตุผลว่าทำไมต้องเลือก "สรรเพชญ" แม้ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ จะมีเลือดไหลออก แต่ก็มีเลือดใหม่อย่าง นายสรรเพชญ ที่เป็นเลือดใหม่ DNA ประชาธิปัตย์ไหลเข้ามาเช่นกัน และนายสรรเพชญ คือผู้ที่ควรได้รับโอกาส เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานให้พี่น้องชาวสงขลาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด อีกทั้งนายสรรเพชญ ยังถือว่าเป็นช้างเผือกของพรรคประชาธิปัตย์ที่พลาดไม่ได้อย่างที่มีผลโพลจากหลายสำนักได้ประเมินไว้