10 พรรคโชว์วิชั่นเวทีดีเบตสงขลาชูนโยบายขับเคลื่อนภาคใต้

ดันอาหารฮาลาลฟื้นเศรษฐกิจใต้

 

โดย "น.อ.ศิธา ทิวารี" ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนา และเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคเชื่อว่าพัฒนาท้องถิ่นไม่ว่าภูมิภาคไหน ด้วยส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นซึ่งเป็นจุดแข็ง ส่วนตัวเคยรับราชการ กองบิน 56 เมื่อปี 2533 แต่ธุรกิจพื้นที่เปลี่ยน โดยเฉพาะหาดใหญ่ในตลาดกิมหยง เวลานี้เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง เพราะมีการสั่งสินค้าผ่านออนไลน์ แต่สงขลามีจุดอื่นอีกมาก

 

ทั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวภาคใต้ เพราะมีทั้งทรัพยากรธรรมชาติ อย่าง ทะเล ภูเขา แม่น้ำ รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือ ซอฟต์พาวเวอร์ ต้องนำเอาวัฒนธรรมมาร่วมและช่วยพัฒนา ถือเป็นจุดขายจุดแข็งประเทศ ส่วนการท่องปัจจุบันเป็นธุรกิจหลักประเทศ ต้องพัฒนาเป็นเวิร์ดคลาส เพื่อดึงคนต่างชาติเข้ามาใช้เวลาในภาคใต้เยอะๆ

 

นอกจากนี้ การประมงรวมถึงสินค้าเกษตร ตกต่ำ ถ้ามีการตลาดเป็นธรรม ตรงไป ตรงมา ชาวนาควรได้รับค่าตอบแทนเป็นธรรม สำหรับประมงพื้นบ้าน ประมงชายฝั่ง ประมงพาณิชย์ เมื่อเจอกฎหมายอุทยาน ทำประมงไม่ได้ ดังนั้น จำเป็นต้องดูแล

 

ขณะเดียวกัน เรื่องการกระจายอำนาจ ไม่ว่า 3 จังหวัดชายแดนรวมถึงจังหวัดอื่น ต้องทำให้ท้องถิ่นพัฒนา เพื่อเศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจสอดคล้อง เช่น อาหารฮาลาล ที่ส่งไปทั่วโลก ทำประเทศให้สอดคล้องเพื่อนำสินค้าเข้าไปได้ ซึ่งพรรคมีนโยบาย บำนาญ 3,000 บาท กองทุนเครดิตประชาชน ทำให้คนจน คนไทยทุกคนเข้าถึงแหล่งเงินทุน

"เพื่อไทย"มายาบ้าต้องหมดจากแผ่นดินไทย

 

"นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ" ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมการนโยบายเกษตร พรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า โดยเฉพาะ 8 ปีก่อน ประชาชนมีแต่ความลำบาก มีแต่หนี้สินเพิ่ม แต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นแก้เศรษฐกิจได้ 

 

ทั้งนี้ พรรคสมัยเป็นรัฐบาลทำให้ราคายางอยู่ที่ 80 บาท ดังนั้น ในอดีตเคยทำได้ วันนี้ (25 มี.ค.) มาภาคใต้ พรรคจะทำให้ราคายางกลับมามีราคา เพราะมีความสามารถ รู้วิธี และทำให้ดีกว่าเดิม ส่วนเรื่องประมงหากเป็นรัฐบาลอะไร คือ อุปสรรค จะยกเลิกหมด และทำให้เป็นประมงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

ส่วนปัญหายาเสพติด แปลกรัฐบาลทำให้ยาบ้าจากเม็ดละ 300 บาท เหลือ 20 บาท แต่ปุ๋ยแพง ถือเป็นคามเดือดร้อน ดังนั้น เพื่อไทยมายาต้องหมดจากแผ่นดินไทย จับได้ยึดทรัพย์ เพื่อนำเอาเงินมาพัฒนาประเทศ และทันทีที่เป็นรัฐบาลจะดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้ประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงจะยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดิน เพราะไทยถือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว

"คาร์บอนเครดิต"เติมเงินในกระเป๋าเกษตรกร

 

ขณะที่ "นายนิกร จำนง" ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคมีนโยบายพัฒนา ภาคใต้และสงขลาชัดเจน โดยเน้นราคาพืชผล ประกันราคายาง ราคาปาล์ม เพราะมีความอ่อนไหว รวมถึงอื่นๆด้วย

 

นอกจากนี้ พรรคเตรียมเสนอรายได้ใหม่ จะทำให้ประเทศเป็นคาร์บอนเครดิตเซ็นเตอร์ ซึ่งภาคใต้ ปลูกยาง 10 ล้านไร่ ขายได้ 5.5 ล้านตัน มีรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท ส่วนปาล์ม 200 ล้านต่อปี ขายคาร์บอนตันละ 400 บาท ต่อไปขึ้นเป็นพันบาท ซึ่งส่งให้เจ้าของสวน

 

ส่วนการทำประมง เรือพื้นบ้าน 2 หมื่นลำ เรือพาณิชย์ 5 พันลำ แล้วเมื่อมี พ.ร.ก. 2558 อ้าง ไอยูยู เมื่อออกกฎหมายเร็วแรงไป ทำให้เรือเจ๋งหมด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาคใต้เท่านั้น ดังนั้น จำเป็นต้องใช้พรรคการเมืองมาจากประชาชนไปสู้กับไอยูยู 

 

นอกจากนี้ นโยบายการท่องเที่ยวใต้ ซึ่งมีอุทยาน 39 แห่ง ประเทศได้รายได้จากนักท่องเที่ยวช่วงเดือน ต.ค. 65-66 ได้ 3 แสนกว่าล้านเฉพาะภาคใต้ จำเป็นต้องพัฒนาส่วนนี้นำรายได้เข้ามา ส่วนเรื่องความรุนแรง ต้องสร้างความหวังบนพื้นฐานความเข้าใจ และความจริงใจ อย่าง เมืองปัตตานี โอไอซี

 

ขณะเดียวกัน "นโยบายสงขลา" เสนอ เป็นเมืองปิด เพื่อเป็นเมืองสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย ส่วนหาดใหญ่ ทำให้เป็นเมืองสีสันทางธุรกิจ

 

ยกท่องเที่ยวเข้าชุมชนสร้างรายได้ 

 

ด้าน "นายนิพนธ์ บุญญามณี" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีความชัดเจนโดยเฉพาะยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์นี้ จะมีโครงการ เช่น ธนาคารหมู่บ้าน เพื่อนำเงินไปอัดฉีดเศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งเงินที่ใช้ดูแลเอสเอ็มอี 3 แสนล้านบาท รวมถึงประกันรายได้ ยาง ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่ง 4 ปี พรรคดูแลเกษตร 8 ล้านครัวเรือน โดยไม่มีเงินรั่วไหล

 

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ พรรคจะออกโฉนดที่ดิน 4 ปี ให้ได้ 1 ล้านแปลง เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา ทำได้ 3 แสนกว่าแปลง อีกทั้ง จะปลดล็อกประมง โดยเฉพาะพาณิชยด้วยการแก้กฎหมายใหม่ ส่วนพื้นบ้านจะสนับสนุน 1 แสนบาททุกปี ได้ทั้งประเทศ รวมทั้งสร้างเงินให้ประเทศ เพราะกำลังเจรจาการค้าเสรี เซ็น เอฟทีเอ กับอียู ถ้าสำเร็จจะสร้างรายได้อีกมากมาย

 

อย่างไรก็ตาม การส่งออก 4 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศ เมื่อเจรากับ 28 ประเทศสำเร็จก็จะสร้างรวมได้ รวมถึงการท่องเที่ยว ก็จะเอาเข้าชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ผลประโยชน์

 

สำหรับเรื่องการเรียนฟรีจะทำให้ถึงป.ตรี พร้อมดื่มนมฟรีตลอดปี 365 วัน ส่วนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งพรรคกำลังทำอยู่ โดยทำเป็นความมั่นคงทางอาหาร หรือเมืองปศุสัตว์ และ จ.ยะลา ให้เป็นฮับทุเรียน เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดี แล้วสันติสุขจะเกิดขึ้น

 

รื้อโครงสร้างพลังงานไม่ให้กระทบปชช.

 

"นายกรณ์ จาติกวณิช" หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ยุทธศาสตร์พรรคทำให้โอกาสชาวใต้ร่ำรวย เหมือน "จูรี นุ่มแก้ว" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สงขลา ที่มีโอกาสทำงานดีๆ มีเงินในกะรเป๋า มีรายได้เพียงพอต่อราคาสินค้า พรรคจะมาเติมตรงนี้ และจะรื้อแก้ปัญหาน้ำมัน ค่าไฟ ที่แพง โดยเฉพาะค่าไฟครัวเรือนขึ้นสูง แต่ลดให้กับภาคอุตสาหกรรม

 

นอกจากนี้ ต้องมีโอกาสกู้เงินธนาคารในอัตราดอกเบี้ยเป็นธรรม สำหรับหาดใหญ่ มีคุณภาพถนนไม่ดีนัก โดยจะเพิ่มรายได้ท้องถิ่น ภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อพัฒนาท้องที่ มอเตอเวย์สายใต้ทั่วประเทศต้องมีแน่นอน 

 

ปฏิรูปกองทัพ-ตำรวจเตะพ้นการเมือง

 

"น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า พรรคมีเป้าหมาย 3 ข้อ คือ ปากท้องดี การเมืองดี มีอนาคต โดยจะเริ่มจากยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อมีสสร. มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร เอาระบบเอไอมาจับโกง ปฏิรูปให้ตำรวจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

 

ส่วนปากท้องดี ทำเอกสารสิทธิ์ที่ยังไม่ได้ ดว้ยกองทุนหนึ่งหมื่นล้าน เพื่อพิสูจน์ที่ดินของประชาชนให้เสร็จ 4 ปี หรือ 1.4 แสนครัวเรือน พร้อมปลดหนี้เกษตรกรผู้สูงวัย ด้วยการให้รัฐเช่าที่ดินปลูกไม้ยืนต้น และจะพัฒนาให้มีการแปรรูปยาง รวมถึงแก้ปาล์มด้วยเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซล พร้อมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และประมงพื้นบ้าน พาณิชย์ ต้องได้รับการฟื้นฟู

 

เดินหน้าต่อทุกนโยบายทำได้จริง

 

ขณะที่ "นายธนกร วังบุญคงชนะ" แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการมา คือ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ โดยเฉพาะนโยบาย อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เบี้ยผู้สูงอายุ กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงโรงสร้างพื้นฐาน อย่างรถไฟความเร็วสูง ทำต่อแน่นอน

 

"หลายคนบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ 8 ปี ไม่มีผลงาน ใช้ส่วนไหนคิด 8 ปี ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ดังนั้น ขอเลือกทั้งคน ทั้งพรรค กองทุนพยุงราคาสินค้า เช่น ยาง นโยบายทุกอย่างทำได้จริง อยากให้คนภาคใต้ ให้โอกาส ไม่มีนายกฯคนไหนมีผลงานชัดเจนเท่านี้" นายธนกร ระบุ

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศเห็น หลายโครงสร้าง ขณะที่ สามจังหวัดชายแดนใต้ จะเปิดพื้นที่ปลอดภัย สร้างการมีส่วนร่วมประชาชน ซึ่งสำเร็จมาแล้ว 

 

ล้มบ้านใหญ่เปลี่ยนแปลงภาคใต้

 

ด้าน "นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับภาคใต้ยากจน จีดีพีโตช้ากว่าภาคอื่น แต่อย่าโทษนักการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะความยากจนที่เกิดขึ้น 30 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นฝ่ายค้าน 20 ปี เป็นรัฐบาล 10 ปี ความโชคร้ายมีบางพรรคขู่ว่าไม่เลือก จะไม่พัฒนา จึงอยู่กับความยากจน ดังนั้น สิ่งที่บอก คือ อย่ามอบมรดกยากจนให้กับลูกหลานอีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม คิดว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เคยได้รับเดือน 200 บาท หลังเลือกตั้งจะให้ 700 บาท ต่อไปนี้ผู้สูงอายุทุกคน ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จ่ายเบี้ยเลี้ยงชีพ 3,000 บาทต่อเดือน 70 ปีขึ้นไปให้ 4,000 บาท เป็นสิ่งที่ประกาศแล้ว ไม่เคยเห็นพรรคไหนประกาศเหมือนพลังประชารัฐ

 

"แต่สิ่งที่จะขอตั้งแต่ ชุมพร ถึง สงขลา ขอประกาศล้มบ้านใหญ่ ล้มไม่ได้ ไม่มีทางประชาชนจะเติบโต เป็นได้เพียงหัวคะแนนเท่านั้น ดังนั้น ต้องล้มบ้านใหญ่เปลี่ยนภาคใต้" นายนิพิฏฐ์ ระบุ

 

มอบท้องถิ่นบริหารจัดการตัวเอง

 

"พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุว่า พรรคยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพรรคให้ความสำคัญกับประชาชน โดยเฉพาะด้านพหุวัฒนธรรม การปกครอง ต้องให้เกียรติความเป็นมนุษย์ การเกิดพรรคต้องการแก้ปัญหาประเทศ พรรคตระหนักว่าคำพูดไม่สำคัญเท่ากับการกระทำ การะทำไม่สำคัญเท่าความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าจังหวัดชายแดนใต้ เช่น ปัตตานี จนสุด เลือกของเก่าเพื่อยากจนต่อไปหรือ นราธิวาส อันดับสอง นี่เป็นการบริหารประเทศไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน พรรคมี 4 ชุดนโยบาย คือ สร้างประชาธิปไตยให้กับประชาชน วันนี้ได้แต่รัฐธรรมนูญ ไม่ได้ประชาธิปไตย ดังนั้น ต้องคืนสิทธิอำนาจให้ประชาชน ขณะเดียวกัน จำเป็นต้องโอนงบส่วนกลางให้องค์กรปกครองท้องถิ่นบริหารจัดการ เพราะรู้เกี่ยวกับประชาชน

 

ประการต่อมา เผด็จการแฝงในรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องแก้โดยให้ประชาชนร่าง พร้อมทั้งคืนสิทธิให้ประชาชนมีสิทธิในที่ดินทำกิน เพราะเป็นพื้นฐาน หากไม่ปฏิรูปที่ดิน เพราะวันนี้ไม่มีเพดานกำหนดถือครอง หรือภาษีที่ดิน มองเป็นสินทรัพย์ โดยตัวเลขวิจัยพบบางคนมีที่ดิน 6 แสนไร่ แต่บางคนไม่มี

 

นอกจากนี้ พรรคได้เสนอแก้ พรบ.อุทยาน แก้ป่าสงวน และมีสวัสดิการไปสร้างคน สังคม ชาติ และจากเกิดสู้เชิงตะกอน รวมถึงเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ

 

ดูดนักท่องเที่ยวเข้าสามจังหวัดชายแดนใต้

 

"นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ" รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขอเน้นนโยบายของพรรค 2 เรื่อง คือ การพักหนี้ พักดอก 3 ปี จะไม่เอาดอกไปเพาะเป็นต้น แต่จะนำมาฟื้นเศรษฐกิจในครอบครัว พร้อมทำเงินประกันผู้มีอายุ 60 ปี เนื่องจากประเทศเข้าสู่สังคมสูงอายุ ประกัน 1 แสน ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน และกู้ใช้ตอนมีชีวิต เพื่อลงทุน เสียชีวิตก็มารับส่วนที่เหลือ ไม่ให้เป็นภาระลูกหลาน

 

ส่วนการท่องเที่ยว จะแบ่งภาคใต้ 4 คลัสเตอร์ อาทิ ภูเก็ต ทำเป็นสมาร์ทซิตี้ ร่วมทั้งจะพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชน สำหรับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ จะเน้นพัฒนาเชิงพหุสังคม ศิลปะ เพราะมีความเชี่ยวชาญและคิด ในเรื่องเหล่านี้ และการท่องเที่ยวสู่สันติภาพเพื่อความยั่งยืน ต้องการแปรสภาพพื้นที่ไม่สงบเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนใต้ ให้หายไปในที่สุด