21 มีนาคม 2566 ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช วิเคราะห์ถึงการตัดสินใจเลือกการยุบสภาของรัฐบาล ในวันที่ 20 มี.ค. ก่อนหมดวาระปกติเพียง 2 วัน โดยจะเกิดประโยชน์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยกัน 3 ประการ ได้แก่
1.ทำให้เงื่อนไขถูกปลดล็อก คือ ส.ส. และอดีต ส.ส. สามารถย้ายเข้า พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยไม่ติดเงื่อนไข 90 วัน เพราะรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ถ้ากรณียุบสภา ผู้มีสิทธิ์สมัครส.ส. ต้องมีสมาชิกภาพ 30 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ส่งผลให้ นายกฯ ได้ขุมกำลังที่เป็นส.ส. เข้าเพิ่ม เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งรอบนี้
2. ทำให้ยืดเวลาลงคะแนนออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพราะวันเลือกตั้ง น่าจะเป็นวันที่ 14 พ.ค. ทำให้นายกฯ และพรรค มีเวลาหาเสียงมากขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าการทำให้ชื่อพรรค และตัวพล.อ.ประยุทธ์ ถึงประชาชนวงกว้าง ต้องใช้เวลาเพื่อกันคนสับสน
3. การประชุมครม. ปกติ ที่เกิดทุกวันอังคาร ซึ่งวันที่ 21 มี.ค. การประชุม ครม. ถ้ามี ก็จะอยู่ในรูปแบบรักษาการ โดยตามกฎระเบียบ กกต. ต้องคำนึงรัดกุม คือ ไม่อนุมัติโครงการใหม่ ที่มีงบแบบเมกะโปรเจกต์ แล้วผูกพันไปยังภาระงบประมาณในรัฐบาลหน้า
“ที่เคยกังวลกันว่ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เคยถอนออกเมื่ออังคารที่แล้ว และกังวลว่าจะเข้าอังคารนี้ได้หรือไม่ ถ้ายังไม่ยุบ ดังนั้น เมื่อยุบแล้ว ก็เข้าไม่ได้ เพราะเป็นเมกะโปรเจกต์ สร้างผลผูกพันภาระงบประมาณหน้า เมื่อไม่เข้าถือเป็นการลดเงื่อนไข โดยสายสีส้มจะไม่ถูกนำมาพิจารณาหลังจากนี้ เป็นการพักรบชั่วคราว จึงเป็นประโยชน์ 3 ประการ ที่นายกฯได้จากการยุบสภา” ดร.เชษฐา ระบุ