17 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดินทางมาที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ เพื่อพบปะประชาชน และหน่วยงานราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง "PM 2.5"
ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงบริเวณงานได้เดินทักทายประชาชน ชาวเขา ชาวกะเหรี่ยงคอยาว รวมถึงกลุ่มแฟนคลับที่มาถือป้ายให้กำลังใจ อาทิ "เรารักลุงตู่" "ลุงตู่ สู้ๆ" "ผลงานลุงตู่ เฮารู้ เฮาหัน ใครบ่หัน ไปตัดแว่นไปเต๊อะ" เป็นต้น
โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินเข้ามาภายในอาคารพร้อมสักการะ"หุ่นขี้ผึ้ง ครูบาศรีวิชัย" ก่อนที่จะพบปะกับหน่วยงานราชการบางส่วน โดยภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนที่มารออยู่บริเวณด้านหน้า สื่อมวลชนได้ทักว่านายกรัฐมนตรี รองเท้าสวย ใส่สบายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สบาย เดินเหินก็สบาย
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ต่อนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ปริมาณฝุ่นละอองกว่าร้อยละ 50 มาจากนอกพื้นที่ และที่ผ่านมาเกิดไฟป่า แต่กลุ่มจังหวัดมีความร่วมมือ พร้อมตั้งเป้าต้องสามารถดับไฟป่าให้ได้ภายใน 1 วันหากเกิดเหตุ ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว อยากให้ลดพื้นที่เพาะปลูกเชิงเดี่ยว มาปลูกไม้ยืนต้น และไม้ที่มีสีสันสวยงาม เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงใหม่ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ปรับค่าตอบแทนให้กับผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศไทย โดยกล่าวว่า ทราบดีว่าได้รับผลกระทบจากงบประมาณของรัฐบาล แต่เราได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ก็ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่เห็นถึงความสำคัญในตรงนี้ เพราะท่านก็คงทราบดีว่าท่านทำอะไรอยู่
แต่ที่ผ่านมาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือถึงท่านหลายครั้ง แต่ก็รู้ว่ามันส่งผลกระทบต่องบประมาณแต่เราก็รอ และเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีมาโดยตลอดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเพิ่มค่าตอบแทนอีก ตนขอฝากนายกรัฐมนตรีช่วยพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบกัน ตนต้องขอขอบคุณในน้ำใจและไมตรี ที่ได้มอบให้ในวันนี้ นี่คือคนไทยจำคำตนไว้ที่ต้องรักชาติ รักแผ่นดิน รักสถาบันของเราไว้ยิ่งชีวิต ที่ทุกคนเกิดที่นี่หากินที่นี่ และอาจจะอยู่ที่นี่ เมื่อหมดอายุขัย ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตนก็มีกำลังใจที่จะทำหน้าที่ วันนี้ถือเป็นวันมงคลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวันนี้มีการเห็นชอบร่วมกันว่าจะนำเสนอครูบาศรีวิชัยเป็นบุคตลคลสำคัญของโลก ซึ่งจะใช้เวลาอีก 2 ปีข้างหน้า เมื่อถึงวันนั้นคงมีคนมาทำต่อในวันหน้า วันนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อวันหน้าจะได้เป็นเรื่องน่ายินดีให้คนมาทำต่อไป
โดยเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น จ.เชียงใหม่ เป็นเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวเดินทางมา ต้องทำให้ปลอดภัย ทุกอย่างอยู่ที่คนไทยทั่วประเทศ เราจะสร้างบ้านแปลงเมืองต้องเริ่มจากพวกเรา ตนเป็นนายกรัฐมนตรีหัวหน้ารัฐบาล พยายามใช้การบริหารราชการแผ่นดินให้ทุกคนทำงานร่วมกันให้ได้ เพราะเราเป็นรัฐบาลผสม ทุกพรรคการเมือง เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า พยายามบริหารราชการแผ่นดินให้ได้ พยายามจะทำให้ได้มากที่สุดในช่วงที่เป็นนายกฯ ทุกคนทราบดีอยู่ในช่วงใกล้การเลือกตั้งเป็นอนาคตของท่าน ขึ้นอยู่กับทุกท่านจะตัดสินใจอย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จะให้จะได้ต้องหาเงิน ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะทำเต็มที่เพื่อดูแลให้ดีที่สุด ส่วนแผนยุทธศาสตร์ชาติมีไว้เพื่อดำเนินการไม่ใช่รักษาอำนาจนายกฯ อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างไรต้องเข้าใจในการบริหารราชการแผ่นดิน โปร่งใส ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีจะพยายามดูแลติดตามให้หลายอย่างอยู่ในขั้นตอนอนุมัติ แต่หลายอย่างอยู่ในขั้นตอนนายกรักษาการไม่สามารถอนุมัติได้ เป็นไปตามกกต.กำหนด ส่วนการเลือกตั้งใครจะเป็นรัฐบาลก็ว่ากันไป ขอให้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองต่างๆ
พร้อมกับยัง ระบุอีกว่า รักคนเชียงใหม่ ชอบบรรยากาศภาคเหนือ ชอบความอ่อนหวาน สวยงาม ตนไม่ได้ปากหวานนะ เคยมาอยู่ เคยตามเสด็จฯมาหลายปี เคยชินกับสภาพแวดล้อม วันนี้หลายอย่างเป็นเหมือนเดิมดีกว่าเดิม เพราะพวกเรา รักษาความสะอาดบ้านเมืองให้ดีขึ้น สำคัญที่สุดต้อง เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว แม้หมอกขวันมากจากประเทศเพื่อนบ้าน หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเพื่อให้สามารถไปกดดันเขาได้บ้าง
ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า คงไม่มีใครอยากพูดให้พวกเราไม่สบายใจ แต่ตนต้องพูด เพราะเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าจะพูดจาดี ๆ ปากหวานมันไปไม่ได้หรอกประเทศ ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้มงวดกับพวกท่านอยู่แล้ว ถ้าต้องการให้ประเทศไทยเป็นอย่างไรอยู่ที่พวกเรา ฉะนั้นสิ่งนี้ต้องสอนกันเอง เพราะตนไปบังคับใครไม่ได้ พร้อมขอให้พวกเรารักกันและทำประโยชน์ให้สังคม
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า ตนฝากให้ติดตามข่าวสารที่เป็นประโยชน์ที่เป็นสาระ เพราะข่าวมีแต่ข่าวที่ทะเลาะกันตั้งแต่เช้ายันเย็น แล้วคุยกันว่าจะช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าได้อย่างไร ฝากไว้ เพราะตนสั่งอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
"ถ้าจะพูดให้รักผมง่ายจะตาย เพราะผมเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว ผมเป็นทหารมาก่อน บางทีก็แกล้งโมโหบ้างอะไรบ้างเป็นคนใจดีขี้โมโห เราก็รักกันอยู่แล้ว ดูแลกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ได้หวังให้คุณมารักผม แต่ผมเห็นว่าท่านทำงานหนัก มาวันนี้ไม่ใช่มาการเมือง เพราะวันนี้ผมยังเป็นนายกรัฐมนตรีไปไหนก็ได้ใช่ไหม ก่อนที่จะหัวเราะ เมื่อเช้าเดินสะดุดหลายที ดีมีคุณพระคุ้มครอง ซึ่งพระให้พรขอให้หายเร็ว ๆ เดี๋ยวก็หายไกลหัวใจตั้งเยอะ" พล.อ.ประยทุธ์ กล่าว