svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เพื่อไทย" ชี้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.บางแบบ ขัดกฎหมาย ระบุ "พิลึกพิลั่น"

14 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เพื่อไทย" ชี้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.บางแบบ ขัดกฎหมาย ระบุ "พิลึกพิลั่น" ยันพร้อมสู่ทุกกติกา แม้ไม่สะดวกมาตลอด 15 ปี

14 มีนาคม 2566 นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา ร่วมแถลงการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต. ในเขตพื้นที่ กทม.

โดยนายวิชาญ กล่าวว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 33 เขต  เป็นที่จับจ้องของทุกพรรคการเมือง ดังนั้นพื้นที่การแบ่งเขตต้องคำนึงถึงกฎหมาย ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 มาตรา 29 ที่ต้องคำนึงถึงการยึดเขตปกครองเป็นหลัก ต้องยึดโยงในการเดินทางให้ความสะดวกกับประชาชนมากที่สุด รวมถึงต้องแบ่งเขต ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน  จะต้องไม่สร้างความสับสนให้กับประชาชน

นายวิชาญ มีนชัยนันท์

ครั้งที่แล้วเพื่อไทยได้ท้วงติง กกต.ไปแล้ว โดยยืนยันว่าแบบที่ 1 และ 2 จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่  เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้เป็นเขตเลือกตั้งร่วมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง  ไม่ได้คำนึงถึงประชากร ยกตัวอย่างกรณีเขตมีนบุรี เขตฝั่งธนบุรี ทำให้เกณฑ์ประชากรการเลือกตั้งมีความสับสนวุ่นวาย  เขตเดียวแต่มีการแบ่งแขวง  ส.ส. และประชาชนไม่ได้อะไร ซึ่งจะสร้างความสับสนให้กับผู้อำนวยการเขต ข้าราชการ ที่จะต้องไปดูแลในพื้นที่การเลือกตั้งด้วย

“การจัดแบบนี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้บัตรเสียเยอะที่สุด การแบ่งเขตแบบที่ 1-2 หากมีคนไปร้องเรียนแล้วประกาศผลการเลือกตั้งไม่ได้ การเลือกตั้งอาจจะกลายเป็นโมฆะ ถ้าเกิดเช่นนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะรับผิดชอบอย่างไร” นายวิชาญ กล่าว

ด้านนายจิรายุ กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ตีตนไปก่อนไข้ แต่เป็นการให้ข้อสังเกตต่อ กกต. ที่จะออกกฎระเบียบหลังจากนี้ ตนยกตัวอย่างเขตคลองสามวามี 5 แขวง วันนี้ 2 แขวงถูกผลักไปที่เขตหนองจอก  ทั้งนี้การคิดคำนวณหน่วยเลือกตั้ง และการนับคะแนนหน่วยเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องทำให้ชัดเจนว่า จะนับคะแนนที่ใด นอกจากนี้กรณีบัตรเสียจะเกิดปัญหาอย่างมาก จะเป็นการตัดสิทธิ์พี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยพร้อมลงในสนาม แม้เราเคยโดนความไม่สะดวกในกติการการเลือกตั้งมาตลอด 15 ปี

จิรายุ ห่วงทรัพย์

ที่ผ่านมาการเลือกผู้แทนราษฎร ไม่มีเหตุผลกลใดที่จะต้องเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้ ฝากไปถึง กกต. หากประกาศเป็นเช่นนั้นจริง ขอให้ได้ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน และเน้นย้ำข้าราชการ ตำรวจ หรือส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน

“พรรคเพื่อไทยพร้อม ไม่ว่าท่านจะมัดมือ มัดแขน ปิดหู ปิดตา ล่ามโซ่เอาไว้ เราจะไปยืนในที่สว่าง ให้กับพี่น้องประชาชนใน กทมเลือกทั้ง 33 เขต” นายจิรายุ กล่าว

ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า เป็นความกังวลใจของผู้ที่ทำงานทางการเมืองส่งไปถึง กกต. กทม. ที่มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งของกรุงเทพฯ 4 แบบ โดย กกต. เลือกแบบที่ 1  จาก 6 แบบ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้แสดงความคิดเห็นและพรรคการเมืองอื่นได้ส่งความคิดเห็นไปให้ กกต. เลือกแบบที่เหมาะสม และเป็นธรรมมากที่สุด  ล่าสุด กกต. ได้ออกแบบมาใหม่อีก 4 แบบ ถือเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบมาพากล  เป็นการแบ่งเขตแบบพิลึกพิลั่น 

หลักการแบ่งเขตควรจะเป็นไปตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 ตามมาตรา 29 ที่การแบ่งเขต จะต้องเป็นการรวมเขตที่เป็นเขตใหญ่ๆ เข้าด้วยกัน ยึดหลักการมีพื้นที่ติดต่อกัน เพื่อที่จะให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและในการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ใช่การรวมแขวงเข้าด้วยกัน มิเช่นนั้น ส.ส. จะกลายเป็น ส.ส.แขวงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อน ความลำบาก ความสับสนให้กับประชาชนที่จะต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นอย่างมาก  

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์

และขอตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นช่องทางให้ผู้ที่ไม่มีความโปร่งใส หรือตั้งใจทุจริตการเลือกตั้งจะเกิดช่องโหว่ในการกระทำการนั้นๆได้ อย่างล่าสุดที่มีข่าวบัตรประชาชนใบเดียว แต่มีหลายรายชื่อ ซึ่งน่าสงสัยว่สเหตุใดเกิดขึ้นในช่วงนี้  ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว

การแบ่งเขตของ กกต. เข้าทางกลุ่มผู้มีอำนาจเป็นหลักหรือไม่  ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น กกต. ยังกลับหลังทัน ที่จะทำประโยชน์ ให้คิดถึงส่วนรวมของประชาชนส่วนใหญ่ ให้มากกว่าคิดถึงประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง กกต.เป็นองค์กรอิสระที่จะต้องไม่อยู่ภายใต้อำนาจใดๆ วันนี้ศักดิ์ศรีของการกระทำของท่านจะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า พี่น้องประชาชนจะให้ความเคารพ และยอมรับ อยู่ที่ตัวท่านเอง การแบ่งเขตจะต้องเป็นไปโดยหลักของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด

“ขอให้ กกต. คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างสูงสุด สำหรับแบบที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่า มีความเห็นและเป็นไปได้คือแบบที่ 3 แบบที่ 4 เรายังหวังว่า กกต.จะรับฟังความคิดเห็นเหล่านี้ หาก กกต.ยังไม่เห็นความสำคัญของประชาชน เราพร้อมที่จะลงการเลือกตั้งในกฎกติกาที่ กกต. กำหนด” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและพรรคการเมืองทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากเผยแพร่ประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 5 รูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 4-13 มี.ค. 2566 รวมเป็นเวลา 10 วัน สำหรับรูปแบบที่กกต.เปิดรับฟังความคิดเห็น 5 รูปแบบประกอบด้วย

รูปแบบที่ 1

รูปแบบที่ 2

รูปแบบที่ 3

รูปแบบที่ 4

รูปแบบที่ 5

logoline