13 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดิน เดินทางเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายรามัญ ณ วัดใหญ่นครชุมน์ ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
โดยนายกรัฐมนตรี และคณะใช้ผ้าขาวม้าพาดเป็นผ้าสไบ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวรามัญในการเข้าวัดทำบุญ ซึ่งบริเวณนี้มี คุณยายสุขวรรณ เที่ยงธรรม อายุ 91 ปี จากจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมลูกสาวเดินทางมารอต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่าตนเองเป็นผู้แต่งเพลง ฉันรักลุงตู่ ของมูลนิธิวิถีไทย ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับชาวบ้าน
ยกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้แต่งแบบมอญ ตนไทย ๆ จากอีสาน ก็คนไทยด้วยกันแหละเนาะ คนไทยต้องรักกัน ไม่ว่าจะเชื้อสายอะไรก็ตามแต่มีสัญชาติเดียวกัน คือสัญชาติไทย ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ในกระบวนการประชาธิปไตย ขอให้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำให้ดีขึ้น และต้องคิดต่อว่าจะทำต่ออะไรอย่างไร แต่วันนี้ได้เดินมาถึงครึ่งทางแล้ว ถึงแม้จะผ่านภูเขามาหลายลูก ก่อนย้อนถามว่าที่ผ่านมาสมัยใครเป็นนายกฯ ช่วงที่ผ่าน ๆ มาไม่ใช่ตนหรือ ตนทำมาเลือดตาแทบกระเด็น แต่อยากพูดให้ทุกคนสบายใจว่ามันเริ่มดีขึ้นแล้ว
จากสถานการณ์ทางการเงิน การจัดลำดับของประเทศต่าง ๆ ในโลก เราเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจลำดับต้น ๆ เราต้องมองเศรษฐกิจระดับประเทศ ระดับโลกระดับชาติ และเศรษฐกิจฐานรากของเรานายกฯเป็นห่วงตรงนี้ ตรงนั้นพอแก้ได้แต่ต้องแก้ด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกัน ว่าจะทำอย่างไรให้รายได้ของเรานั้นสูงขึ้น หากต่างคนต่างทำคนที่มีปัญญามีหนี้เยอะก็ไม่มีปัญหา แต่สำหรับคนที่ไม่มีรัฐบาลก็ต้องช่วยดูแล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกยากดีมีจนไม่ได้ แต่เลือกที่จะอยู่อย่างไรได้ ในทางที่ถูกต้อง ในทางที่น่าจะเป็น ควรจะเป็นรัฐบาลเองก็พยายามเตรียมโครงสร้างไว้ให้พวกเราซึ่งก็ต้องใช้เวลามากกว่าสมควร วันนี้ก็เดินหน้าไปได้เยอะแล้วพอสมควรทั้งระบบโครงสร้างดิจิทัล แล้วเราจะจัดระเบียบอย่างไรให้คนเข้าถึงในช่องทางต่าง ๆ นั่นคือตนสร้างระบบนิเวศไว้ให้ท่านแล้วขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลใดก็ตามต้องใช้ประโยชน์ จะไปเริ่มต้นอะไรใหม่ไม่ได้แล้ว เพราะจะช้าเกินไปโลกภายนอกก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินพบปะถ่ายรูปกับสื่อมวลชน พร้อมขอโทษประชาชนที่มารอว่าตนนั้นต้องเดินทางไปหลายงานจึงทำให้เกิดการล่าช้า ไม่มีใครเก่งทั้งหมด แต่ต้องปรับทุกอย่างให้เข้ากับคนของเราประเทศของเรา เจ็บมือเจ็บตั้งแต่นี่ถึงนี่เพราะว่าต้องผ่าและเย็บตั้งแต่ฝ่ามือลงมาถึงข้อมือ จึงทำมือได้แค่นี้และส่งสัญลักษณ์เป็น I love you
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ได้ขอพรให้ทุกอย่างสำเร็จประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ขอให้มีอะไรได้เพิ่มเติมให้กับพวกเรา และให้พวกเราเข้มแข็งขึ้น ไม่เจ็บป่วย ไม่เจ็บไข้ ไม่มีความรักให้กันอย่างไม่มีวันสิ้นสุด อย่าเกลียดกันเท่านั้นเอง รักกันและไม่ชอบคนที่ทำให้คนเกลียดกัน มันเป็นบาปจำไว้
พร้อมขอบคุณกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. เทศบาลอะไรก็แล้วแต่ ท่านนายกอะไรที่แถวนี้ดูแลให้ด้วย วันหน้าต้องทำให้ประเทศไทยเจริญให้ได้ทั้งในชุมชนเศรษฐกิจฐานราก วันหน้าลูกหลานจะได้ไม่ต้องไปไหน ตนรักทุกคน