svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ทำความรู้จัก"สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พลิกฟื้นศก.ไทย

10 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เลือกตั้ง 66 ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ย้ำเข้าได้กับทุกพรรคในรัฐบาลหน้า ไม่เป็นศัตรูกับใคร ทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ยึดประโยชน์ประเทศชาติ

"ปัจจัยที่จะชี้ขาดชัยชนะในการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับใครจะประสบความสําเร็จที่ทําให้ประชาชนมั่นใจว่า จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งส่วนนี้เราให้ความสําคัญมาก เราทําเพื่อคนโคราช คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน แล้วเราก็มั่นใจว่า เลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องเป็นแชมป์เปี้ยน โคราช" 

 

"สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวไว้เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566  

 

"สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ถือเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าที่อยู่บนเส้นทางการเมืองมาหลายรัฐบาลโดยเฉพาะยุครัฐบาล"พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ"  ซอยราชครู ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางเพราะเป็นฐานที่มั่น บ้านพัก และเซฟเฮาส์ของพรรคชาติพัฒนาในอดีต 

นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ  ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า

พลิกปูมประวัติ "นายสุวัจน์"  เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 อายุ 68 ปี

๐ มัธยมเซนต์คาเบรียล

๐ ป.ตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

๐ ป.โทวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

เส้นทางการเมือง 

"นายสุวัจน์" เริ่มเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2531 ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน  พ.ศ. 2534 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน

 

สุวัจน์  ลิปตพัลลภ  ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า

ภายหลังการยุบสภาในปี พ.ศ. 2535 "นายสุวัจน์" ได้เข้าร่วมกับพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกร ทัพพะรังสี และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง จัดตั้งพรรคชาติพัฒนาขึ้น

ในรัฐบาลของพลเอก สุจินดา คราประยูร ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และในปี พ.ศ. 2538 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย พ.ศ. 2540 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของชวลิต ยงใจยุทธ  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย

ในปี พ.ศ. 2545 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย รัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร และ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 เป็นรองนายกรัฐมนตรี ต่อจากนั้นไม่นานก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

ต่อมา "สุวัจน์" เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ต่อจาก"นายกร ทัพพะรังสี" ซึ่งลาออกไปร่วมกับพรรคไทยรักไทย และต่อมาในปี พ.ศ. 2548 นายสุวัจน์ จึงประกาศยุบพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549  จึงได้นำสมาชิกในกลุ่มย้ายไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา สุวัจน์ เป็นหนึ่งในแกนนำพรรครวมชาติพัฒนา (ปัจจุบันคือ พรรคชาติพัฒนา) แต่ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีครั้งที่ 1/2565 ของพรรคชาติพัฒนาวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 ที่ประชุมมีฉันทามติให้ "นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคให้ดำรงตำแหน่งประธานพรรค ขณะเดียวกัน "พลเอกฐิติวัจน์ กำลังเอก" ก็ได้ขอลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค เนื่องจากปัญหาสุขภาพ


สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า

ต่อมาในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีครั้งที่ 2/2565 วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค และชื่อพรรคเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมกันนี้ยังได้มีมติเลือก"นายกรณ์ จาติกวณิช" อดีตหัวหน้าพรรคกล้าให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค

กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมของปีเดียวกัน ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนากล้า ที่โรงแรมแคนทารี่ จังหวัดนครราชสีมา โดย"นายเทวัญ ลิปตพัลลภ" หัวหน้าพรรคได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งกลางที่ประชุมทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ

โดยที่ประชุมได้มีมติเลือก "นายกรณ์ จาติกวณิช" เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า "นายเทวัญ ลิปตพัลลภ" เป็นเลขาธิการพรรค "นายวัชรพล โตมรศักดิ์"  เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 และ"นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 2  ทั้งนี้มี"นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ"  เป็นประธานพรรคชาติพัฒนากล้า

ที่ผ่านมา "นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ" อดีต รมว.แรงงาน ดำรงตำแหน่ง 3 ต.ค. 45 – 2 พ.ย. 46 แจ้งมีทรัพย์สิน 172,004,038 บาท มีหนี้สิน 98,813,826 บาท มีทรัพย์สินมากกว่า 73,190,211 บาท

พล.ต.หญิงพูนภิรมย์ ภรรยา มีทรัพย์สิน 485,415,041 บาท มีหนี้สิน 47,643,701 บาท มีทรัพย์สินมากกว่า 437,771,339 บาท บุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน มีทรัพย์สิน 16,249,241 บาท ไม่มีหนี้สิน

ต่อมา คณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของคณะรัฐมนตรีชุด “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี กรณีพ้นจากตำแหน่งจากเหตุ “รัฐประหาร” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 “นาย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ยื่นบัญชีทรัพย์สินสมัยพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มีทรัพย์สิน 11,484,325 บาท พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ ภริยา มีทรัพย์สิน 523,252,023 บาท นายพสุ และ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ บุตร มีทรัพย์สิน 26,637,286 บาท

 

logoline