svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่คลองเตย ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก

08 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่คลองเตย ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก ส่วนจะแลนด์สไลด์หรือไม่คำตอบอยู่ที่ประชาชน ไม่หวั่นถูก “ชูวิทย์” ขู่พร้อมแฉ หากไม่รักษามาตรฐาน

8 มีนาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงาน ด้านการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย, นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย

ร่วมลงพื้นที่ชุมชน 70 ไร่ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ นายเศรษฐา ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย หลังรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่  ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย คุณภาพชีวิต เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ความปลอดภัย การศึกษา การรักษาพยาบาล

นายเศรษฐา กล่าวกับชาวบ้านว่า ปัญหา เรื่องที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขทุกมิติ การย้ายที่อยู่อาศัยไม่ใช่การแก้ปัญหา และต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะนำเรื่องนี้ไปให้ทีมนโยบายของพรรคพิจารณา ส่วนเรื่องค่าแรง มั่นใจและให้สัญญาได้ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้ใจให้เป็นรัฐบาล เชื่อว่าค่าแรงขั้นต่ำจะสูงกว่า 600 บาทแน่นอน

จากนั้นนายเศรษฐาพร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ชุมชน 70 ไร่ โดยมีประชาชนมอบดอกไม้ให้กำลังใจตลอดเส้นทาง 

“เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่คลองเตย ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก

ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยบอกว่าวันนี้ (8 มี.ค.) ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรก ซึ่งได้มาเจอปัญหาและความคับแค้นใจของประชาชน โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ยอมรับเป็นปัญหาที่ยาก ซับซ้อน มีหลายมิติ ซึ่งหลังรับฟังปัญหาก็จะไปหารือกับทีมงานเพื่อหาคำตอบ พร้อมบอกกับชาวคลองเตยว่า จะกลับมาพร้อมคำตอบ และไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหาได้ เพราะทุกปัญหาสำคัญหมด ต้องแก้ไปพร้อมกันทุกมิติ แต่อะไรที่ทำได้ก่อนก็จะทำทันที และให้ความมั่นใจว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทำให้ได้ตามที่รับปาก

ส่วนความหวังที่จะได้ ส.ส.พื้นที่คลองเตย มั่นใจว่า นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตคลองเตย ไม่เคยทิ้งพื้นที่มาตลอด 17 ปี ถือเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย ประกอบกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่คิดใหญ่ ทำเป็นและเคยทำมาก่อน จึงหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจให้กลับมาอีก เป็นเรื่องหลัก

หลังจากนี้จะพยายามลงพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยให้ได้มากที่สุด ทุกเวที ทุกจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาและรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การแก้ไข และจะทยอยเปิดนโยบายออกมาอย่างต่อเนื่อง

“เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่คลองเตย ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก

ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่มองว่า เป็นนักธุรกิจจะเข้าถึงชาวบ้านได้อย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องการขายภาพลักษณ์ แต่เป็นเรื่องความเข้าใจ ว่าชาวบ้านต้องการอะไร ส่วนหน้าที่ตนคือ การเอาความเป็นตัวตน ไปขยายนโยบาย แสดงความจริงใจที่อยากแก้ไขปัญหา เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ประชาชน

เมื่อถามว่าระยะเวลาที่เหลือจะเข้าไปอยู่ในใจประชาชนได้อย่างไร นายเศรษฐา ชี้แจงว่า เป็นคำถามที่ตอบลำบาก ขึ้นอยู่กับว่าตนจะทำได้ดีขนาดไหน แต่เชื่อว่าตนและพรรคเพื่อไทยทำเต็มที่ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา เข้าใจปัญหาที่ประสบมาตลอด โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม จึงเป็นหน้าที่ของเพื่อไทยที่พยายามเสนอนโยบายให้โดนใจ

ส่วนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้กำลังใจในการลงพื้นที่ครั้งแรก นายเศรษฐา กล่าวขอบคุณ เพราะถือเป็นกำลังใจ ทีมงานก็สนับสนุนโดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ที่คอยเป็นพี่เลี้ยง ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์กรุงเทพฯได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน หน้าที่ของตนและพรรคเพื่อไทยคือการนำเสนอนโยบาย ที่มั่นใจว่าจะโดนใจประชาชน

นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักอดีตนักการเมือง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แต่ไม่ใช่เพียงคนเดียว เพราะมีเพื่อนฝูงอีกหลายคนที่ให้กำลังใจในการทำหน้าที่ เสนอแนะให้รักษามาตรฐานการทำงาน ซึ่งคนที่รักกันชอบกันก็ให้กำลังใจ และหวังว่าจะเป็นตัวของตัวเอง ทั้งนี้ได้ขอให้ดูกันต่อไป รวมถึงเห็นว่าการออกมาเปิดเผยข้อมูลของนายชูวิทย์ ถือเป็นหน้าที่ของแต่ละคน ซึ่งตนก็มีหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในการให้คำแนะนำนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และเปิดนโยบาย ก่อนเปรียบเหมือนเป็นช่วงเวลาการกวดวิชาที่สั้น แต่ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด จะลงพื้นที่ให้มากขึ้น

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากนายชูวิทย์ ระบุว่า หากทำไม่ดีจะแฉ นายเศรษฐา บอกว่าตนเป็นนักธุรกิจมาก่อน และการเข้ามาสู่มิติใหม่ของช่วงเวลาชีวิต แต่หากจะบอกว่าไม่กลัวเลย ก็เป็นการโกหก “ถึงเวลาแล้วที่ตนจะทำหน้าที่ที่ชายคนหนึ่งสะสมประสบการณ์มา 30 ปี และอยากที่จะนำเสนอตัวเองในพรรคเพื่อไทย พรรคที่มีนโยบายโดนใจประชาชน ก่อนย้ำ จะทำให้ดีที่สุด จึงอยากขอโอกาสจะชี้แจงทุกข้อสงสัยและทุกคำถามที่เกี่ยวกับตนเอง

ทั้งนี้นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ออกมาพูดถึงวามสัมพันธ์ที่ระบุชื่อว่า “ขงเบ้ง” กับนายเศรษฐา อาจเป็นการเปิดแผลพรรคเพื่อไทยว่า “ขงเบ้ง” ไม่เกี่ยวกับแสนสิริ เป็นคู่เขยที่รู้จักกันมา 30 ปี ส่วนตัวก็รู้จักคนในวงการหลากหลายอาชีพ

ส่วนจะกระทบต่อการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายเศรษฐา มองว่าอยู่ที่การวางตัวของตน แต่ขอให้ทุกคนช่วยดูด้วยความเป็นธรรมว่า ตนทำอะไรไม่เหมาะสมหรือไม่ และไม่ได้ต้องการที่จะฟ้องร้องหรือเป็นศัตรูกับใคร “ศัตรูของตนคือความยากจน และความเหลื่อมล้ำ” จึงขอโอกาส และความเห็นใจ ตนจะทำงานให้หนักเพื่อตอบโจทย์ประชาชน

“เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่คลองเตย ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก

logoline