21 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้ชี้แจง Timeline หรือ ตารางเวลาการเลือกตั้ง ในช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการ จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยในเบื้องต้น สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน จะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ตามรัฐธรรมนูญ
หากสภาผู้แทนราษฎรครบวาระ จะต้องมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่หากมีการยุบสภาเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่า จะต้องมีการกำหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการยุบสภาหรือครบวาระ จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของวันเลือกตั้ง อยู่ในกรอบระยะเวลาของแต่ละกรณี โดยคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2566 และจะประกาศรับรองในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
ส่วนขั้นตอนต่อไปจะมีการเสด็จพระราชดำเนิน เปิดสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งประธานสภา ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้น จะเป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่า จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และจะเป็นขั้นตอนการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมเช่นกันและเมื่อมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว จะมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
นายอนุชา กล่าวต่อ ไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ รัฐบาลชุดปัจจุบัน จะต้องรักษาการอีกประมาณ 4 เดือนครึ่งโดยคร่าวๆ ถึงช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2566 ส่วนวุฒิสภายังคงมีอยู่ แต่ไม่สามารถประชุมได้ เว้นแต่จะเป็นการพิจารณาในการตั้งองค์กรอิสระ ที่จะสามารถดำเนินการได้
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติต่างๆ ที่ค้างอยู่ในทั้ง 2 สภา ประมาณ 29 ฉบับ จะถูกตกไปในทันที และหากหลังเลือกตั้ง รัฐบาลจะนำมาพิจารณาต่อก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและพระราชบัญญัติที่มีการกราบบังคมทูลไปแล้วจำนวน 11 ฉบับ ต้องดำเนินการต่อไปตามปกติ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนรัฐบาลสามารถออกพระราชกำหนดได้ ส่วนการออกพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับกฎกระทรวงต่างๆ ยังสามารถที่จะดำเนินการได้ตามปกติเช่นเดิม
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อครม.พ้นตำแหน่งแต่ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป คือ ครม.รักษาการจนกว่าครม.ชุดใหม่ จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ส่วนจำนวนเอกสารราชการ หรือการรายงานข่าว ไม่จำเป็นต้องรักษาการสามารถดำเนินการได้ตามปกติ และข้าราชการการเมืองทุกตำแหน่ง ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จะะพ้นจากตำแหน่งในวันเดียวกันกับวันที่คณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง
หากคณะรัฐมนตรีรักษาการ มีรัฐมนตรีลาออก ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อการทำงาน ครม.ยังสามารถประชุมได้ นายกรัฐมนตรีเองมียังคงมีอำนาจในการปรับครม.ได้ หากมีความจำเป็น