16 กุมภาพันธ์ 2566 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายโดยระบุว่า ความล้มเหลวนโยบายความมั่นคง ของรัฐบาลที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้ารัฐบาล ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่ลมปากที่เลื่อนลอย และล้มเหลวสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ พร้อมมองว่า การตั้ง กอ.รมน. เป็นการจัดตั้งมวลชนฝ่ายขวา
สิ่งที่ทำให้ประเทศเราแตกต่างจากประเทศอื่นที่เป็นประชาธิไตยด้วยกัน คือ เรามีทหารเป็นผู้เล่นหลักในทุกสนาม มีหน้าที่ดูแลเบ็ดเสร็จภายนอกและภายใน ทำทุกเรื่องตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ แต่พอเรือรบของเราพบคลื่นลมก็ล่มลงอย่างน่าอับอาย นับวันกองทัพเข้ามาแทรกแซงการเมือง โดยใช้ กอ.รมน. ขับเคลื่อน จนทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นรัฐซ้อนรัฐแบบเต็มรูปแบบ และหลังจบสงครามกับคอมมิวนิสต์ กอ.รมน. แทบไม่เหลือภารกิจที่จำเป็น แต่ กอ.รมน. ยังอยู่ได้ เพราะกองทัพใช้ กอ.รมน. เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนและสังคม
นางอมรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้มีการเพิ่มบทบาทและอำนาจให้กับ ครม. หลังการรัฐประหารครั้งใหญ่ในปี 2549 โครงสร้างเกิดการผิดปกติ โดยให้นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นผู้อำนวยการกอ.รมน และให้ผบ. ทบเป็นเลขาฯ และแม่ทัพเป็น ผอ.กอ.รมน.ภาค มีสำนักงานกอ.รมน.ประจำอยู่ที่จังหวัดทุกจังหวัด
ทั้งนี้ มองว่า นายกรัฐมนตรี การตีความความมั่นคงถูกตีความครอบคลุมทุกเรื่อง ที่ไม่ใช่กิจของทหาร ทั้งท่องเที่ยว กีฬา รวมไปทั้งความเห็นต่างทางการเมือง เข้าไปส่อทุกเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของตน โดย กอ.รมน. มีหน้าที่เทียบเท่าเพียงกรมเท่านั้น
นางอมรัตน์ ยังระบุอีกว่า งบประมาณของ กอ.รมน. ปีหนึ่งนับหมื่นล้าน ซึ่งหมดไปกับการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจจะมีข้าราชการของตนจริงเพียง 1,2000 คน แต่มีอำนาจสั่งการข้าราชการทหารข้าราชการตำรวจ เข้ามาช่วยงานได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 50,000 คน ซึ่งสามารถพูดได้ว่า กอ.รมน. ถือว่า เป็นอันตรายที่สุดในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
โดยในช่วงหนึ่ง นางอมรัตน์ อภิปรายถึงข่าวที่ พลเอกประยุทธ์ จะขอปิดประตูตายกฎหมายนิรโทษกรรม ตนขอถามว่า 1 คำถาม คือ ท่านพูดหมาๆ อย่างนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ นางอมรัตน์ ยังไม่ไม่ได้พูดคำถามที่ 2 นายศุภชัย โพธิ์สุ ประธานในที่ประชุมฯ ได้ปิดไมค์นางอมรัตน์
จากนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วง โดยขอให้มีการถอนคำพูดดังกล่าว ซึ่งนายศุภชัย วินิจฉัยถอนคำพูด พร้อมระบุว่า สภาแห่งนี้เป็นที่ทรงเกียรติ แม้จะไม่พอใจกันเป็นส่วนตัว ควรให้เกียรติกัน ไม่ควรนำคำพูดที่ไม่ค่อยเหมาะสมมาใช้ ด้านนางอมรัตน์ ก็ได้ถอนคำพูดดังกล่าว
จากนั้น นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การอภิปรายในลักษณะนี้ เป็นการใช้คำพูดที่หยาบ และพูดเพื่อตอกย้ำ ซึ่งคำพูดเหล่านี้ ล้วนเป็นพิษต่อร่างกายของเขา ขออย่าให้ท่านประธานฯ อย่าตอกย้ำ เขาอย่างนี้ เป็นสุภาพสตรีไม่น่ารัก ปากอย่างกับหมา
ต่อมา นางอมรัตน์ ได้อภิปรายต่อ โดยระบุว่า อีกคำถามที่อยากฝากไปถึงพลเอกประยุทธ์ ทุกครั้งที่เขาพูดคำว่า กฏหมาย หรือให้ใครทำตามกฏหมาย ตนรู้ว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่อายคน แต่อายฟ้าดินบ้างหรือไม่ ในฐานะคนยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญและทำนิรโทษกรรมให้ตัวเองก่อนเพื่อน แล้วทำไมประชาชนที่โดนคดีความมั่นคงเล็กๆน้อยๆ จะได้รับการนิรโทษกรรมไม่ได้