25 ม.ค.2566 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว. เห็นชอบให้เงินประชาชน 500 บาท เพื่อป้องกันการซื้อเสียง ว่า ตนไม่เชื่อว่าการให้เงินประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 500 บาท จะช่วยแก้ปัญหาการซื้อเสียงได้
โดยมองว่าควรนำเงินที่จะแจกคนละ 500 บาท รวมแล้วประมาณ 20,000 ล้านบาท ไปทำการรณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียงอย่างต่อเนื่อง สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นพิษภัยของการซื้อสิทธิขายเสียง ว่าส่งผลร้ายต่อประเทศชาติอย่างไร ซึ่งน่าจะเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนมากกว่า
ทั้งนี้ เพราะผู้ซื้อเสียงเมื่อได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. และมีโอกาสเข้าไปมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ก็ย่อมใช้อำนาจในทางมิชอบ กอบโกยโกงกินแล้วนำเงินจากการทุจริตมาซื้อเสียง เพื่อให้กลับเข้าไปมีอำนาจจะได้ทุจริตแล้วนำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อเสียง วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์อยู่ตลอด ควรช่วยกันรณรงค์ดัดหลังพวกซื้อเสียงให้สอบตก โดยไม่เลือกพวกซื้อเสียงเข้ามามีอำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
ส่วนเหตุผลอื่น ๆ ที่บอกว่าจ่าย 500 บาท ให้ชาวบ้านออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ควรตอบแทนคุณแผ่นดินด้วยวิธีการอื่น ๆ อีกมากมายหลายวิธีจะดีกว่า สำหรับการให้เหตุผลว่าการให้เงิน 500 บาท จะช่วยทำให้คนออกมาใช้สิทธิกันมาก ๆ นั้น ในปัจจุบันการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีคนออกมาใช้สิทธิ ประมาณ 70-80 เปอร์เซนต์กันอยู่แล้ว
"เราไม่ควรคิดเพียงว่าให้คนออกมาใช้สิทธิเยอะ ๆ ในเชิงปริมาณเท่านั้น แต่ควรช่วยกันทำให้คนออกมาใช้สิทธิในเชิงคุณภาพมากกว่า การรณรงค์ให้คนใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยจิตสำนึก เพื่อช่วยกันทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่เลือกพวกซื้อเสียงเข้ามาน่าจะดีกว่าจ่าย 500 บาท ให้คนมาเลือกตั้ง แล้วหวังว่าจะช่วยทำให้ลดการซื้อเสียงได้ น่าจะไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด" นายองอาจ กล่าว