13 มกราคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ผู้แทนพรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค , นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค , นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค , นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนางนลินี ทวีสิน ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ และวิเทศสัมพันธ์ ได้ให้การต้อนรับการมาเยือนของคณะจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน นำโดย นายเฉิน โจว รัฐมนตรีช่วยกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนและคณะ
โดยนายเฉิน โจว กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการเข้าเยี่ยมคารวะในครั้งนี้ เพื่อนำคณะมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์จีน-ไทย พร้อมชี้แจงแนวทางการนำพาจีนของ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ที่ประกาศไว้ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งชาติ ครั้งที่ 20 ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อ 16 ต.ค. 2565 ซึ่งถือว่า เป็นวาระสาคัญที่ นายสี จิ้น ผิง ได้รับการคัดเลือก เป็นผู้นำสูงสุดของจีน ต่อเนื่องเป็นวาระที่ 3 ซึ่งต้องการเน้นย้ำการสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวก ระหว่างเศรษฐกิจในประเทศ และระหว่างประเทศ
นายเฉิน โจว ระบุว่า ตนเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพาณิชย์มาก่อน และเคยมาเยือนเชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมชมงานโอทอปของไทย ซึ่งจีนต้องการที่จะส่งเสริม เศรษฐกิจจีนไทย ด้วยการส่งเสริมการค้า ระหว่างกันทั้งนำเข้า - ส่งออก ตลอดจนการค้าการลงทุน หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย จีน - ไทย จะใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
ท้้งทางด้านการค้า การลงทุนต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและเทคโนโลยี การนำเข้าสินค้าทางการเกษตรที่ดีของไทย ไปจีนจะเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศจะเพิ่มขึ้น ตลอดจนการแลกเปลี่ยนสินค้าผ่านทางภาคเหนือก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
“
ทั้งนี้ นายแพทย์ ชลน่าน ได้กล่าวต้อนรับว่า พรรคเพื่อไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ต่อการมาเยือนของคณะจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนในครั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนได้เคยมีความสัมพันธ์อันดี กับไทยมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง รัฐบาลไทยรักไทย และ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ได้มีการผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในหลายมิติ จนประสบความสำเร็จสร้างประโยชน์ ให้กับประชาชนทั้งสองประเทศมาแล้วในอีก และในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคฯ มีแนวนโยบายในการสานต่อ พัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีนในทุกด้าน โดยเน้นจะความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจีนถือเป็นบ้านพี่เมืองน้อง กับประเทศไทยมายาวนาน
พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดผลักดัน การตกลงทางการค้า เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน การส่งออกและนำเข้าระหว่างกัน การท่องเที่ยว รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนวัฒนธรรมอันดีงาม เพื่อประโยชน์ของประชาชน ทั้งสองประเทศ