svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ณัฐวุฒิ” ชี้ “บิ๊กตู่” เข้า รทสช. เปรียบเหมือนเหล้าเก่าในขวดแตก

12 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ณัฐวุฒิ” ชี้ “ประยุทธ์” เข้า รทสช. ไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก ดักทางแผน แก้รัฐธรรมนูญอยู่ยาวเกิน 8 ปี

12 มกราคม 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ตนนึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงแสนยานุภาพทางการเมืองอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ    

“ณัฐวุฒิ” ชี้ “บิ๊กตู่” เข้า รทสช. เปรียบเหมือนเหล้าเก่าในขวดแตก

หลังจากยึดครองอำนาจต่อเนื่องมา 8 ปี แต่พบว่า “ไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก”  คือการรวมเอาคนที่แตกออกจากพรรคต่างๆ ทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเล็ก มาอยู่ด้วยกัน และไม่พบว่ามีบุคคลที่เป็นที่รู้จัก หรือเป็นที่ยอมรับกันในสังคม  เป็นคนใหม่ทางการเมือง ปรากฎตัวร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์แต่อย่างใด  จึงมองไม่เห็นอนาคตเห็นแต่อดีต  เพราะเต็มไปด้วยอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี ตนจึงเชื่อว่าจะส่งผลให้พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีในไม่ช้า   

 

“ณัฐวุฒิ” ชี้ “บิ๊กตู่” เข้า รทสช. เปรียบเหมือนเหล้าเก่าในขวดแตก

ดังนั้นการตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของ พล.อ.ประยุทธ์  แท้จริงไม่ใช่เป้าหมายแค่การเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ  แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหว สับไพ่รอหรือไม่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2560  โดยระบุว่ามีปัญหาที่น่าสนใจในบทบัญญัติในมาตรา 158 ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี 

โดย ส.ว.กลุ่มนี้ชี้ว่ามีบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ควรจะพิจารณาแก้ไข  ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดบทบัญญัตินี้ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ผ่านมา  ส.ว. ไม่เคยมีปฏิกิริยา ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เคยมีท่าทีที่แสดงออกว่า ไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด  ส.ว. 250 คน  ยกมือตามสั่งมาตลอด  แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ครบ 8 ปีจริง กลับมีมติเห็นตรงกันว่ามาตรานี้มีปัญหา หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอาศัยเสียง ส.ว. 250 คนเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ต้องใช้เสียงในสภาและเสียง ส.ว. แก้ไขมาตรานี้แน่นอน  

“ถ้าไม่ได้เตรียมกันไว้  ก็ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์  พูดให้ชัดว่า หลังเลือกตั้งแล้วจะอยู่แค่เวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  ผมไม่ได้ก้าวก่ายงานการเมืองของท่าน แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ  ผูกพันทุกองค์กร  ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดให้ชัด ว่าไม่ใช่เตรียมกันไว้  ไม่ใช่การสับไพ่รอ  กะว่าเลือกตั้งให้เสร็จแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ มาจั่วน็อกชนะ ผมขอส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้เท่าทัน วันนี้หากเส้นทางที่จะยุติ พล.อ.ประยุทธ์  มีทางเดียวคือการได้มาซึ่งรัฐบาลประชาธิปไตย

ซึ่งจะเกิดได้คือ จำเป็นต้องมีพรรคใดพรรคหนึ่งใน ฟากฝั่งประชาธิปไตยชนะเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร ยืนหนึ่งเอาไว้ก่อนไม่เช่นนั้น  ไม่ใช่แค่ 2 ปี  แต่จะเป็น 4 ปี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ต่อ ผมขอเรียกร้องโดยตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์  ผมหวังใจว่าคนที่ประกาศตัวไม่เคยกลัวอะไร เป็นลูกผู้ชาย สง่าผ่าเผยมาตลอด คงไม่อ้ำอึ้ง พูดให้ชัด เพราะคนทั้งประเทศรู้อยู่แล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างไร

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า สภาพการเมืองไทยในขณะนี้ คือความล่มสลายทั้งระบบของการเมืองไทย  ภายใต้เป้าหมายปฏิรูปหลังรัฐประหาร คือใบเสร็จที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศเอาไว้ในเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557  เป็นคำลวงโลก ไม่มีการปฏิรูปใดๆ การเมืองย้อนหลังออกไปหลายสิบปี มีการแจกกล้วย  ซื้อตัวย้ายพรรคโจ่งแจ้งที่สุดเป็นประวัติการณ์

ซึ่งบทบาทของฝ่ายการเมืองในสภา กลายเป็นพื้นที่พบปะเพื่อต่อรองผลประโยชน์ในการย้ายข้างเท่านั้น  ทั้งที่งานหลักของสภา คือการนำเสนอกฎหมาย  นำเสนอทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ขณะนี้ไร้ความหมายไปแล้วภายใต้รัฐบาลชุดนี้   สภาไม่เรียกว่าล่ม แต่เรียกว่าเละ  พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยใส่ใจ  ไม่เคยแสดงความรู้สึกรู้สา  เพราะ พล.อ.ประยุทธ์  ไม่ได้ถือกำเนิดในสภา จึงไม่ได้เคารพในแนวทางนี้   คิดอยู่อย่างเดียวคือหาคนเข้าพรรคให้มากๆ  สัปปายะสภาสถาน กลายเป็นสถานที่สับประยุทธ์ ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มกล้วยดึงตัว ส.ส. เข้าสภาเท่านั้น ตนถือว่าเป็นความอัปยศ  และไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป  สิ่งเหล่านี้ต้องหยุดลง ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ได้ 

logoline