สำหรับตอนสุดท้ายที่ "ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์" นำเสนอ เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก ทำเอาร้อนฉ่าทั้งกทม. หลังผู้ว่าฯกทม. "ชัชชาติ" สร้างกระแสฟีเวอร์ ทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง จนสามารถเป็นผู้ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ แบบถล่มทลาย
ปรากฏการณ์ “ชัชชาติ ฟีเวอร์”
โดยผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำให้ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ได้กลายเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ หลังเกิดเป็นปรากฏการณ์ “ชัชชาติ แลนด์สไลด์” ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย คว้าคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ชนะทุกเขตทั้ง 50 เขต ได้คะแนนเลือกตั้งสูงสุด 1,386,215 คะแนน เกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2,673,696 คน คิดเป็นร้อยละ 51.84 ทิ้งห่างอันดับ 2 คือ"นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ 254,723 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 9.5
ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับแต่ที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มา ทำลายสถิติ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำไว้จากการเลือกตั้งปี 2556 ด้วยคะแนนเสียง 1,256,349 คะแนน
ดังนั้นปรากฏการณ์ "ชัชชาติฟีเวอร์" แลนด์สไลด์ จึงสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มคนใน กรุงเทพฯ แทบทุกกลุ่มทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก กลุ่มชนชั้นกลาง ทั้งที่เป็นวัยทำงาน จนถึงสูงวัย ที่เบื่อความจำเจ อยากเห็นแนวทางใหม่ ออกไปจากระบบราชการ หรือระบบเก่าที่เคร่งครัด ซึ่งอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ ตามไลฟ์สไตล์ “ชัชชาติ” ในบทบาทการแสดงความรู้ มุมมองวิสัยทัศน์ การแสดงออก ภาพลักษณ์ที่เข้าถึงง่ายขยันทำงานลงพื้นที่
อดีตหัวหน้าพรรค กับคดีข่มขืน!
ช่วงต้นปีเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" อดีตรองหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง หลังตัวเองต้องคดีข่มขืน-อนาจารหญิงสาวหลายราย เรียกว่าสร้างเสียงฮือฮาและวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จนทำให้ "ราเมศ รัตนะเชวง" โฆษกพรรคปชป. อดีตต้นสังกัดของผู้ต้องคดี ออกมาเรียกร้องให้สังคมแยกแยะว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว พรรคจะไม่ไปก้าวล่วงและจะสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่
เรื่องแดงขึ้นจนเป็นประเด็นทางสังคม เพราะ "ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด" เดินหน้าเอาผิดเข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังมีหญิงผู้เสียหายกล่าวหาว่าโดน"ปริญญ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง ล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจสน.ลุมพินี จึงแจ้งข้อกล่าวหา 3 คดี คือ คดีกระทำการอนาจารแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี 2 คดี และคดีข่มขืนกระทำชำเราอีก 1 คดี
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 คดี ที่ จ.เพชรบุรี และเชียงใหม่ รวม 5 คดี ซึ่งผู้เสียหายที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมีเป็นจำนวนมากทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน คาดว่ามากกว่า 15 ราย ซึ่งรายสุดท้ายที่ออกมาแฉเป็นคนวงการไฮโซ รวมถึงยังมีการขุดคุ้ยไปถึงคดีข่มขืนเด็กที่ประเทศอังกฤษอีก ส่วนเจ้าตัวได้ปฏิเสธพร้อมแถลงยันชัดเจนว่าไม่ได้ทำทุกข้อกล่าวหาทั้งสิ้น โดยบางคดีก็ไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ หรือบางคดีก็มีหมดอายุความไปแล้วด้วย
ส่วนเจ้าตัวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินียื่นคำร้องขอฝากขังคัดค้านการประกันตัว แต่ปริญญ์ ผู้ต้องหาขอยื่นประกันตัว โดยเนื่องจากผู้ต้องหาพักอยู่เมืองนอกเป็นเวลานาน ได้ขอร้องต่อศาลจนเห็นควร โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันตัว "ปริญญ์" อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. คดี อนาจาร-ข่มขืน 3 สำนวน ๆ ละ 200,000-300,000 บาท พร้อมกับมีคำสั่งห้ามเดินออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดข่าวฉาวมากเพียงใด อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ได้ยืนยันว่า ยินดีที่จะให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบทุกข้อเท็จจริง และเจ้าตัวยังยอมรับด้วยว่า รู้สึกช็อกและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย หลังโดนโจมตีจนเละเทะ พร้อมยืดอกยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ก่อนจะย้ำว่า "ไม่ใช่ความจริง หลายคนที่รู้จักผม จะรู้ดีว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้น"