"รทสช." เปิดตัว 3 สมาชิก VIP “ไตรรงค์-ชุมพล-ชัช เตาปูน” ยันไม่ใช่ ปชป.สาขา 2

27 ธันวาคม 2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค แถลงเปิดตัว 3 VIP สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี , นายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยทั้ง 3 คน ได้ลงนามสมัครเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ พร้อมสวมเสื้อแจ๊กเก็ตพรรค



นายพีระพันธุ์ กล่าวต้อนรับว่า ในนามของคณะกรรมการบริหารพรรค รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผู้อาวุโสทั้งทางการเมือง และที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์มาร่วมงาน เพื่อเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ได้ตัดสินใจมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเรา ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องการรวมคนที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน และมีแนวทางที่ว่าการเมืองต่อไปจะต้องเป็นการเมืองของคนทุกรุ่น ทั้งคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่า ที่ต้องมาช่วยกันนำความรู้ ประสบการณ์ในอดีต



รวมถึงแนวคิดของคนรุ่นใหม่มาร่วมกัน ที่ผ่านมาพวกเราได้รับการติดต่อและได้รับความสนใจจากนักการเมืองในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ ในนามของพรรค ขอขอบคุณทั้ง 3 ท่านที่มาร่วมงานกับพวกเราเพื่อทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า

นายไตรรงค์ ระบุเหตุผลในการเข้าร่วมงานกับ รทสช. ว่า ตนเองก็ตื่นเต้น เพราะเมื่อลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องการมีลมหายใจของตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ก็พยายามคุยกับนักการเมืองที่รู้จัก ก็มี 7-8 พรรค ที่อยากให้ตนไปร่วมงาน เพราะตนมีประสบการณ์ในการทำงาน อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็ยินดีมาก



โดยนายกฯ เชิญไปพบและขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ เพราะมีประสบการณ์เยอะ มีอะไรจะได้ถาม ซึ่งตนก็ตอบตกลงและยินดี เพราะตนยังพอไหว แต่ขอไม่รับเงินเดือน เพราะไม่อยากเป็นขี้ปาก ซึ่งนายกฯก็ตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจ แบบไม่รับเงินเดือน แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตำแหน่งให้ไปเบิกที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะขอใช้เงินส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครมาระแวงว่าตนจะไปเบิกเงินเรื่องส่วนตัว หลังจากเป็นที่ปรึกษานายกฯ ตนก็ได้พูดคุยกับนายกฯเป็นการส่วนตัวหลายครั้ง จนในที่สุดเรามีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ

นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนจะไม่พูดเยอะเพราะเคยเป็นโฆษกรัฐบาลมา 8 ปีแล้ว จึงรู้ว่าเวลาข่าวมีค่า ซึ่งความทุกข์ของตนและนายกฯ จะต้องแก้ไขภายใน 2 ปี และเห็นว่านายกฯ น่าสงสาร ไม่รู้จะระบายกับใคร ตนจึงเข้าใจว่าทำไมนายกฯ จึงตั้งตนเป็นที่ปรึกษา พร้อมย้ำว่านายกฯ ไม่มีเรื่องส่วนตัว มีแต่เรื่องของประชาชนและ และประเทศชาติ ทั้งนี้ ความทุกข์ของนายกฯ รวมกับตนมี 3 เรื่อง ที่จะต้องมีคนจัดการให้กับประเทศนี้โดยเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะยากเกินแก้



โดยปัญหา คือ 1.จะต้องปัดกวาดประเทศนี้ให้มีความสะอาด ประเทศเราเริ่มสกปรกเยอะมาก มีการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกวงการมากกว่าในอดีต ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เมื่อก่อนเลวร้ายเก็บ 10-20 % แต่ตอนนี้เก็บ 40-50 % เราจะต้องแก้ไขกฏหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าว ชนตอ หรือไม่จะจบเรื่องนี้ยังไง ซึ่งปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น นายกฯ เป็นทุกข์มาก

2.จะต้องแก้ปัญหาความยากจน คนพวกนี้อยู่ในที่มืดต้องหาแสงสว่างให้กับเขา เพราะเขามีรายได้ไม่พอที่จะดำรงชีพ รัฐจะต้องช่วยคนกลุ่มนี้ ด้วยนโยบายเศรษฐกิจ

3.ต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ไม่ให้ซุปเปอร์พาวเวอร์ทั้งหลายใช้เงินมาปั่นหัวเด็ก

โดยทั้ง 3 ปัญหานี้ ต้องทำภายใน 2-3 ปี ซึ่งนายกฯ อยู่ได้อีก 2 ปี จะต้องเร่งทำ



นายไตรรงค์ ย้ำอีกว่า การที่มีอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนมาก ไม่ใช่ประชาธิปัตย์สาขา 2 เพราะพรรคการเมืองมีศักดิ์ศรี และจุดยืนของ ตัวเอง แต่อุดมการณ์อาจจะใกล้เคียงกันเพื่อให้เกิดความมั่นคง แต่สำหรับพวกเราคือจะแก้ปัญหาทั้ง 3 ข้อคือ สะอาด สว่าง และสงบ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูขณะนี้ยังไม่มีใครมีบารมี ซื่อสัตย์สุจริต นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว ต้องปราบทุจริตคอร์รัปชั่น



ขณะที่ นายชัชวาลล์ กล่าวเหตุผลที่ย้ายพรรคว่า ต้องการทำนโยบายให้เด็กเรียนหนังสือฟรีจนถึงด็อกเตอร์ รวมถึงนโยบายการทำบ่อนคาสิโนให้ถูกกฎหมาย แก้ปัญหาความยากจน ดังนั้นถ้าต้องการผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ก็ต้องมารวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ



ส่วน นายชุมพล กล่าวว่า ตนเคยเป็นผู้แทนมาหลายสมัยแล้ว การที่มาอยู่จุดนี้ ทำให้ตนมีความสุขที่จะทำให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผลักดันนโยบาย ทั้งนี้ตนติดตามดูนายกฯ คนนี้มาหลายปีแล้ว ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ถ้าผู้นำมือไม่สะอาดแล้วประชาชนจะหวังอะไรได้ ซึ่งงานที่ค้างอยู่หลายอย่างมั่นใจว่านายกฯ จะทำสำเร็จเพื่อนำความสุขไปสู่ประเทศชาติ



เมื่อถามถึง น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จะมาร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยหรือไม่ นายชุมพล ระบุว่า เขาเป็น ส.ส.สมัยแรก มีความคิดอ่านของเขาเอง สามารถที่จะตัดสินใจได้ ตอนนี้เขาขอทำหน้าที่ ส.ส.จนครบวาระ จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา

ส่วนในอดีตที่ตนเคยเป็นคู่แข่ง นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นแกนนำรวมไทยสร้างชาติ ด้วยนั้น นายชุมพล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่พาไปทานข้าวที่บ้านตนแล้ว โดยไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะมีการพูดคุยกันเรื่องบ้านเมืองอย่างเดียว ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วการเลือกตั้งแบ่งเขตคนละครึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี กับพรรคประชาธิป โดยให้เป็นเรื่องของประชาชน