svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ถอดความ"ประยุทธ์" ถอดตัวตนนายทหารสู่"นักการเมือง"เต็มขั้น"เลือกตั้ง 66"

23 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พลันที่ "พล.อ.ประยุทธ์"ประกาศลั่น ได้รับการเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" นั่นเป็นการส่งสัญญาณลั่นกลองรบสู่สนาม"การเลือกตั้ง 66" ติดตามได้จากเจาะประเด็นโดย "อสนีบาต"

"สิ้นสงสัย  สิ้นความอึมครึมคลุมเคลือ  สิ้นการคาดคะเนใดๆ"

เมื่อ"พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา"นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินปรี่เข้ามาพบสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ก่อนเป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติของกระทรวงวัฒนธรรม ด้วยการแจกแจงความชัดเจนทางการเมืองเป็นเวลายาวนานกว่าครึ่งชั่วโมง  

 

"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ได้เสนอมาแล้วว่า ยินดีสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค ในการเลือกตั้งสมัยหน้า จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน..." 

หมายเหตุ -พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวเมื่อวันที่  23 ธ.ค.65 

ถอดความ\"ประยุทธ์\" ถอดตัวตนนายทหารสู่\"นักการเมือง\"เต็มขั้น\"เลือกตั้ง 66\"

ไม่เพียงแต่ความชัดเจนในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ สังกัด"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ซึ่งที่ผ่านมาแวดวงการเมืองพอรับรู้กันมานานพอสมควร เพียงแต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันจาก"พล.อ.ประยุทธ์" เหมือนเช่นวันนี้  ( 23 ธ.ค. 65 ) 

อีกความชัดเจน คือการพยายามสื่อสารออกมาให้เห็นว่า"ลุงตู่" และ "บิ๊กป้อม" สองพี่น้องในตระกูล "3 ป." ยังรักกันเหนียวแน่นไม่มีความขัดแย้งภายหลังแตกตัวออกมาสร้างดาวคนละดวงก็ตาม  

 

ถอดความ\"ประยุทธ์\" ถอดตัวตนนายทหารสู่\"นักการเมือง\"เต็มขั้น\"เลือกตั้ง 66\"

"ผมได้กราบเรียน "พล.อ.ประวิตร"ไปนานแล้วหลายครั้ง และครั้งสุดท้าย ตัดสินใจว่าผมมีความจำเป็น ซึ่ง"พล.อ.ประวิตร"ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันทั้งสิ้น การเมืองว่ากันไปตามการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตย" 

หมายเหตุ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

 

แม้แต่การประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ภายหลังการเลือกตั้ง ในปีหน้า หรือ"เลือกตั้ง 66" ประหนึ่งยอมรับกฎกติกาประชาธิปไตยที่ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ ที่ต้องดำเนินไปตามครรลอง พรรคใดได้เสียงข้างมาก พรรคนั้นย่อมมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล

 

หรือแม้แต่ประเมินไปถึงการจับขั้ว จัดสูตรทางการเมืองชนิดที่ว่า การถ่ายทอดความของพล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้ หาใช่มุมมองอดีตนายทหาร แต่เป็นมุมมองที่ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้เข้าสู่ความเป็นตัวตน"นักการเมืองเต็มขั้น" 

 

"ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ประชาชนจะเลือกใครเข้ามาก็ยังไม่รู้เลย ถึงเวลานั้นภาษาการเมือง เรียกว่าการจับขั้วทางการเมือง ใครจะเป็นฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว" 

ถอดความ\"ประยุทธ์\" ถอดตัวตนนายทหารสู่\"นักการเมือง\"เต็มขั้น\"เลือกตั้ง 66\"

หมายเหตุ - "พล.อ.ประยุทธ์" ตอบคำถามสื่อ จะจับมือกับ "พล.อ.ประวิตร" ในทางการเมืองหรือไม่    

รวมไปถึงการทิ้งวาทกรรมแฝงด้วยการหาเสียง ให้พี่น้องประชาชน นำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจลงคะแนน ไม่ว่าเป็นการกล่าวถึง "นโยบายการหาเสียง" ประหนึ่งแพลมนโยบายหาเสียงพรรครวมไทยสร้างชาติทางอ้อม 

 

"ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่าทั้งหมดหากท่านได้รัฐบาล ผมไม่ขออ้างถึงผม ขอให้ได้รัฐบาลที่ดีๆซื่อสัตย์สุจริต แล้วทำในสิ่งที่เป็นไปได้และทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในส่วนที่มีคดีความว่ากันไป ผมเองก็มีนโยบายอยู่แล้วในการสั่งงานทุกครั้ง ทุกอย่างต้องทำในความสุจริตโปร่งใสเป็นธรรม ผมไม่อยากให้หน่วยงานราชการมาเดือดร้อนด้วยจึงต้องระมัดระวังมากที่สุด  การจะให้อะไรก็ตามต้องคำนึงถึงงบประมาณเป็นส่วนสำคัญที่สุด ว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน  ทำไมผมจะไม่อยากให้ แต่ให้แล้วจะพอหรือไม่ หลายๆอย่างจะให้เท่าโน้นเท่านี้คน ผมถามว่าจะใช้เงินเท่าไหร่  ผมไม่ได้ว่าใคร รายหัวเท่าโน้นเท่านี้ เราใช้งบประมาณในส่วนนี้ดูแลประชาชน ในสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นจำนวนมาก การใช้จ่ายเงิน หลายคนบอกว่าทำอย่างไรทำไมจะรวยเท่ากันไม่ได้มันเป็นไปไม่ได้หรอกในโลกใบนี้"

  ถอดความ\"ประยุทธ์\" ถอดตัวตนนายทหารสู่\"นักการเมือง\"เต็มขั้น\"เลือกตั้ง 66\"

หมายเหตุ "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา" กล่าวต่อสื่อมวลชนในช่วงท้าย 

 

เข็มนาฬิกาของสภากำลังขยับไปเรื่อยๆ ใกล้จะครบวาระในวันที่ 23 มี.ค. 2566  เป็นการนับถอยหลัง นับจากนี้เหลือเวลาไม่มากนัก หรือราวประมาณสามเดือน

 

ฉะนั้นแล้ว ห้วงเวลา 3 เดือน จึงเป็นช่วงเวลา อันสมควรแก่เวลาที่ "พล.อ.ประยุทธ์"จำเป็นต้องประกาศความชัดเจนทางการเมืองว่า จะเอาอย่างไรกันแน่ หลังจากตกเป็นที่วิจารณ์มาโดยตลอด ทั้งการไปต่อหรือถอดใจวางมือทางการเมือง , ทั้งการถูกมองว่า ยิ่งไม่ประกาศความชัดเจน ยิ่งสร้างเสียเปรียบให้กับ"พรรคการเมืองที่กำลังสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์  เป็นแคนดิเดตนายกฯ 

 

การกำหนดสคริ๊ปต์การเมือง ด้วยการเดินปรี่มาหาสื่อมวลชน โดยไม่ต้องรอให้สื่อดักสัมภาษณ์เหมือนทุกวัน  จึงเป็นการคิดพิจารณาวางแผนการมาล่วงหน้า ด้วยการวงปฏิทินประกาศความชัดเจนต้องเป็น"วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565" ( ซึ่งถ้านับจากวันนี้ไปถึง 23 มี.ค.2566 ก็คือ สามเดือนพอดีเป๊ะ)  

 

ด้วยเหตุที่"พล.อ.ประยุทธ์" ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองมาแล้ว ได้รับการปลดล็อคไปทีละเปราะ

 

ประการแรก  เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565  "พล.อ.ประยุทธ์" นำร่างพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองและร่างพรป. ว่าด้วยเลือกตั้งส.ส ขึ้นทูลเกล้าฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วัน ตั้งแต่วันที่ทูลเกล้าฯไป ประเมินคร่าวๆอย่างช้าสุด ร่างพรป.สองฉบับ น่าประกาศลงราชกิจจาฯ ในช่วง"เดือนมีนาคม" 

 

ประการที่สอง   มีความพยายามนัดหมายพรรคร่วมรัฐบาลผลักดันของขวัญปีใหม่เอาใจประชาชน ในช่วงของประชุม ครม.แต่ละสัปดาห์ โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ละกระทรวงที่มีรัฐมนตรีพรรคร่วมเปิดแคมเปญของขวัญหลายชิ้นผ่านมาตรการ ลดแลก แจกแถม รับปีใหม่ 2566  

 

ประการที่สาม  ทันที่ที่พล.อ.ประยุทธ์ นำร่างกม.เกี่ยวกับ กติกาเลือกตั้งทั้งสองฉบับขึ้นทูลเกล้าฯ ปรากฎความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565  ด้วยการเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ล็อตใหญ่  พร้อมไปกับการประกาศชัดถึงการเตรียมประชุมปรับโครงสร้างกก.บห. ในวันที่ 14 มกราคม 2566  และจัดระดมทุนในวันที่ 25 มกราคม 2566 

 

"โดยเฉพาะคีย์แมนสำคัญของพรรคอย่าง "วิรัช รัตนเศรษฐ" ออกมาประกาศแผนเลือกตั้งพรรคสนับสนุน "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ

 

จึงเป็นอะไรที่ถูกกำหนด ให้ลงล็อกตาม วัน ว. เวลา น.  ให้ "พล.อ.ประยุทธ์" ออกมาประกาศจุดยืนการเมืองเข้าร่วม"พรรครวมไทยสร้างชาติ" เพราะในวันเดียวกัน "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" และแกนนำพรรค จัดการตั้งโต๊ะแถลงทันที "พรรครวมไทยสร้างชาติ ยินดีต้อนรับ "พล.อ.ประยุทธ์ " อย่างที่ไม่ต้องเบี่ยงบายปกปิดเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา 

 

อีกทั้งยังเป็นจังหวะเดียวกับที่ "แรมโบ้อีสาน " เสกสกล อัตถาวงศ์   ผู้ริเริ่มตั้ง"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ประกาศลาออกจากพรรคเทิดไท ย้ายกลับมาสังกัด"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ด้วยเช่นกัน  

 

หลังจากนี้ บรรดาขุนพลสู้ศึกเลือกตั้งที่หลบอยู่หลังม่าน จะออกมาปรากฎกายยืนเคียงข้าง"พล.อ.ประยุทธ์" ชนิดไม่ต้องปกปิดซ่อนเร้นกันอีกต่อไป หรือแม้แต่  "เสธหิ" นายหิมาลัย ผิวพรรณ อดีตนายทหารชื่อดัง ที่พร้อมเป็นมือไม้สำคัญในการระดมไพร่พลหาเสียงเลือกตั้งพื้นที่ภาคอีสาน  

 

พรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้การนำของพีระพันธุ์  สาลีรัฐวภาค หัวหน้าพรรค ออมาแถลงสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทันที

 

พร้อมไปกับการขับเคลื่อนของ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" โดยสัปดาห์หน้า พรรคจะประชุมแกนนำพรรค โดยมี "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรค "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" เลขาธิการพรรค รวมถึง "สุชาติ ชมกลิ่น" รมว.แรงงาน "ธนกร วังบุญคงชนะ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อวางแนวทางการเลือกตั้ง โดยเบื้องต้น "พีระพันธุ์ จะดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ "สุชาติ" ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง "ธนกร ดูแลพื้นที่ภาคใต้



ส่วนแนวทาง การหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติจะมี"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ นำหาเสียงด้วยตนเอง โดยใช้ช่วงเวลาวันหยุด และนอกเวลาราชการ

 

ทั้งนี้ การบริหารของพรรค จะมี"ซุปเปอร์บอร์ด" ทำหน้าที่อยู่ด้านบนกรรมการบริหารพรรค โดย "พล.อ.ประยุทธ์" ในฐานะที่ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคจะนั่งประธานพรรค และนั่งตำแหน่ง"ประธานซุปเปอร์บอร์ด"ด้วย 

 

"ซุปเปอร์บอร์ด" จะมีองค์ประกอบ คือ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคบางส่วน โดยจะทำหน้าที่ตัดสินข้อขัดแย้งที่ไม่สามารถจบได้ในชั้นกรรมการบริหารพรรคได้

 

นี่ จึงเป็นการส่งสัญญาณชัด "พล.อ.ประยุทธ์" ได้ลั่นกลองพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ภายใต้กฎกติกาตามระบอบประชาธิปไตย โดยคาดหวังจะต้องไปถึงหอคอยงาช้างในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัย  

 

ส่วนจะไปถึงฝั่งฝัน นำพาชาวคณะ"รวมไทยสร้างชาติ"เข้าสู่สภาฯได้หรือไม่ ทั้งหมดทั้งปวง อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ   

 

logoline