
เชลซีประเดิมนำก่อนจากลูกฟรีคิกสุดสวยของรีซ เจมส์ ในนาที 64 หลังจากครองเกมเหนือกว่าเบนฟิก้ามาตลอดครึ่งแรก แต่เกมต้องหยุดลงในนาที 86 เนื่องจากฟ้าผ่าลงใกล้บริเวณสนาม แฟนบอลกว่า 50,000 คนต้องอพยพออกจากสนามทันที
แม้จะไม่มีฝนตก แต่เกมต้องหยุดไปถึง 2 ชั่วโมง เมื่อกลับมาแข่งขันอีกครั้ง เบนฟิก้าได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของมาโล กุสโต และอังเคล ดิ มาเรีย ยิงตีเสมอเป็น 1-1 ส่งเกมเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลานาที 104 จานลูก้า เปรสเตียนนี โดนใบแดงจากจังหวะฟาวล์รุนแรง ทำให้เบนฟิก้าเหลือผู้เล่น 10 คน และนั่นคือจุดเปลี่ยนของเกม
คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู กลายเป็นฮีโร่ของเชลซี ยิงประตูในนาที 108 จากจังหวะตามซ้ำลูกยิงของมอยเซส ไคเซโดที่ถูกปัด ก่อนที่เปโดร เนโต และเคียร์แนน ดิวส์เบอรี-ฮอลล์ จะยิงเพิ่มอีก 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ปิดกล่องพาทีมคว้าชัย 4-1
เอ็นโซ่ มาเรสกา เฮดโค้ชของเชลซี กล่าวหลังเกมอย่างไม่พอใจว่า
“เราเล่นดีมาตลอด 85 นาที แต่เกมต้องเปลี่ยนเพราะถูกระงับนานถึง 2 ชั่วโมง มันไม่ใช่ฟุตบอลแล้ว ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้นได้บ่อยขนาดนี้”
โดยก่อนหน้านี้ ศึกคลับ เวิลด์ คัพ ที่จัดในสหรัฐฯ ต้องหยุดการแข่งขันจากพายุถึง 6-7 นัดแล้วในรอบเดียวกัน สร้างความปั่นป่วนอย่างมาก
แม้จะเป็นเกมใหญ่ในรอบน็อกเอาต์ แต่สนาม Bank of America Stadium ที่จุได้ 75,000 ที่นั่งกลับมีผู้ชมเพียงครึ่งเดียว และเมื่อเกิดเหตุฟ้าผ่า แฟนบอลกลับมาชมเกมต่อเพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น
ในเกมดวลกันระหว่าง 2 สโมสรจากบราซิลที่ลินคอล์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์ เมืองฟิลาเดลเฟีย พัลไมรัสเฉือนโบตาโฟโก 1-0 จากประตูในช่วงต่อเวลานาทีที่ 100 โดยเปาลินโญใช้ความเร็วกระชากบอลจากริมเส้นขวามาเลี้ยงตัดเข้าใน ก่อนยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาด
แม้จะเป็นเกมกลางสหรัฐอเมริกา แต่แฟนบอลกว่า 33,000 คนช่วยกันสร้างบรรยากาศดุดันคล้ายเกมในอเมริกาใต้ด้วยเสียงเชียร์แบบไม่หยุดตลอดทั้งแมตช์
ช่วงท้ายเกม พัลไมรัสต้องเหลือ 10 คนเมื่อกัปตันทีม กุสตาโว โกเมซ โดนใบแดงนาทีที่ 116 แต่แนวรับยังช่วยกันต้านการบุกของโบตาโฟโกจนจบเกมได้สำเร็จ
พัลไมรัสจะได้พบกับเชลซีในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ฟิลาเดลเฟียอีกครั้งในวันศุกร์นี้ ซึ่งถือเป็นรีแมตช์จากรอบชิงคลับเวิลด์คัพเมื่อปี 2021 ที่เชลซีเคยชนะไปได้ 2-1