svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

เบนฟิก้าเฉือนบาเยิร์น | เชลซี-ฟลาเมงโก ลิ่วรอบน็อกเอาต์

เบนฟิก้าซิวแชมป์กลุ่ม C เหนือบาเยิร์นกลางอุณหภูมิสุดโหด 36°C | เชลซีอัดเอสเปรานซ์ 3-0 ส่วนฟลาเมงโกตีเสมอท้ายเกม ลิ่วเป็นที่ 1 ของกลุ่ม D

เบนฟิก้าเฉือนบาเยิร์นกลางอุณหภูมิ 36°C ซิวแชมป์กลุ่ม

ค่ำคืนที่อากาศร้อนระอุในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา กลายเป็นเวทีของหนึ่งในเกมสุดเข้มข้นของฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เมื่อ เบนฟิก้า เฉือนเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 1-0 ในเกมสุดท้ายของกลุ่ม C คว้าแชมป์กลุ่มไปครองพร้อมตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

เกมนี้เริ่มต้นภายใต้อุณหภูมิสูงถึง 36 องศาเซลเซียส ก่อนที่ อันเดรียส เชลเดอรูป จะเป็นคนยิงประตูชัยในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ เฟรดริก ออร์สเนส เปิดบอลเข้ากลางมาให้ยิงด้วยขวาแบบไม่จับ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด

เบนฟิก้าเล่นได้อย่างมีวินัย โดยเฉพาะในเกมรับซึ่งต้องรับมือกับการบุกหนักในครึ่งหลังของบาเยิร์น ที่แม้ "เสือใต้" จะส่งบอลเข้าประตูได้ในนาที 61 จากลูกยิงของคิมมิช แต่ถูก VAR ปฏิเสธ ขณะที่ผู้รักษาประตู อนาโตลี ทรูบิน ของเบนฟิก้า โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เซฟหลายจังหวะสำคัญจนได้รับคำชื่นชมล้นหลาม

โอ๊คแลนด์ฮึดเจ๊าโบคา สร้างแต้มประวัติศาสตร์

ขณะที่เกมอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันที่สนาม Geodis Park เมืองแนชวิลล์ กลายเป็นฉากของการสร้างประวัติศาสตร์เล็ก ๆ เมื่อทีมสมัครเล่นจากนิวซีแลนด์ โอ๊คแลนด์ ซิตี้ ฮึดไล่ตีเสมอ โบคา จูเนียร์ส 1-1 คว้าแต้มแรกในรายการได้สำเร็จ

เกมเริ่มต้นด้วยการที่โบคาได้ประตูนำในนาที 26 จากจังหวะลูกเตะมุมที่ ลูตาโร ดิ โลลโล โหม่งไปชนเสาแล้วเด้งโดนผู้รักษาประตู นาธาน แกร์โรว์ เข้าประตูตัวเอง แต่ในนาที 52 คริสเตียน เกรย์ ก็มาทำประตูตีเสมอให้โอ๊คแลนด์จากลูกโหม่งเตะมุมของ เจอร์สัน ลาโกส

เกมต้องหยุดแข่งขันในนาที 54 จากพายุฟ้าคะนองนานถึง 50 นาที ก่อนกลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ซึ่งแม้โบคาจะยิงเข้าอีกครั้งจาก มิเกล เมเรนเทียล แต่ก็โดน VAR ยกเลิกเพราะจังหวะแฮนด์บอลของ เควิน เซนอน

จบเกม โอ๊คแลนด์คว้าแต้มแรก ขณะที่โบคาจบด้วยเพียง 2 แต้มจาก 3 นัด ตกรอบแบบพลิกความคาดหมาย

นักเตะเชลซีพาบอลหนีผู้เล่นเอสเปรานซ์ ในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025

เชลซีคืนฟอร์มถล่มเอสเปรานซ์ 3-0 เข้ารอบน็อกเอาต์

ในกลุ่ม D “สิงห์บลูส์” เชลซี กลับมาคืนฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง เมื่อไล่ถล่ม เอสเปรานซ์ จากตูนิเซีย 3-0 ที่สนามลินคอล์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์ เมืองฟิลาเดลเฟีย ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิสูงถึง 32°C

เกมนี้เชลซีได้ประตูขึ้นนำในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 จากลูกโหม่งของ โทซิน อดาราบิโอโย ที่ขึ้นโขกจากฟรีคิกของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก่อนที่เพียง 2 นาทีต่อมา เลียม ดีแล็ป จะบวกเพิ่มอีกหนึ่งลูก ซึ่งถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อเชลซี

ดีแล็ปรับบอลโดยหันหลังให้ประตูก่อนแตะหลบกองหลังและยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างเฉียบขาด ขณะที่ในช่วงทดเจ็บครึ่งหลังนาที 90+7 ไทรีค จอร์จ มาปิดกล่องด้วยลูกยิงไกลที่พุ่งเสียบตาข่ายแม้ผู้รักษาประตู เบชิร เบน เซอิด จะพยายามปัดก็ตาม

เชลซีเก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม จบอันดับ 2 ของกลุ่ม D เตรียมพบเบนฟิก้าในรอบ 16 ทีมสุดท้ายวันเสาร์นี้

ฟลาเมงโกเจ๊า LAFC ลิ่วชนบาเยิร์น

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกันที่สนามแคมป์ปิง เวิลด์ สเตเดียม เมืองออร์ลันโด กลายเป็นเกมที่มีผู้ชมมากที่สุดของสนามนี้ที่ 32,933 คน และยังเป็นเกมแรกในทัวร์นาเมนต์ที่ไม่มีการหยุดแข่งเพราะพายุ

ฟลาเมงโก ได้ประตูตีเสมอนาที 87 จาก โจร์จินโญ่ หลังจากโดน เดนิส บูอังก้า ยิงให้ ลอสแอนเจลิส เอฟซี ขึ้นนำในนาที 84 ซึ่งถือเป็นประตูเดียวของทีม MLS ในรายการนี้

ก่อนหน้านั้น มาร์ลอน เคยยิงให้ LA เข้าในนาที 38 แต่ถูกจับล้ำหน้า

ฟลาเมงโกจบด้วย 7 แต้มจาก 3 นัด เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม D และจะพบกับบาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ไมอามี การ์เดนส์ ในคืนวันอาทิตย์

ตารางคะแนนกลุ่ม C ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เบนฟิก้าแซงบาเยิร์นเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตารางคะแนนกลุ่ม D ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ฟลาเมงโกและเชลซีเข้ารอบ แผนผังสายการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025