ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ประกาศแต่งตั้ง โธมัส แฟรงค์ อดีตกุนซือเบรนท์ฟอร์ด เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่ด้วยสัญญา 3 ปี ถึงปี 2028 แทนที่ อังเก้ ปอสเตโคกลู ที่เพิ่งถูกปลดออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
แฟรงค์ถือเป็นกุนซือรายที่ 13 ในยุคการบริหารของประธานสโมสร แดเนียล เลวี่ โดยจะได้ร่วมงานกับ โยฮัน แลง ผู้อำนวยการกีฬาคนปัจจุบัน ซึ่งทั้งคู่เคยทำงานร่วมกันมาแล้วในลีกเดนมาร์กกับสโมสร ลิงบี้
สเปอร์ส กำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ โดยมุ่งเน้นการดึงนักเตะอายุน้อยเข้าสู่ทีมภายใต้การนำของ โยฮัน แลง ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปลายปี 2023 ขณะที่ โธมัส แฟรงค์ มีผลงานพัฒนานักเตะดาวรุ่งอย่างโดดเด่นทั้งกับ โอลลี่ วัตกินส์, ไอแวน โทนี่ย์, ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ตลอดจนดึง คริสเตียน เอริคเซ่น กลับมาฟื้นฟอร์มที่เบรนท์ฟอร์ด
นอกจากนี้ แฟรงค์ยังมีความยืดหยุ่นทางแท็คติกสูง สามารถปรับเปลี่ยนระบบการเล่นตามความเหมาะสมของคู่แข่งได้หลากหลายกว่าในยุคปอสเตโคกลู
โธมัส แฟรงค์ เริ่มต้นคุมเบรนท์ฟอร์ดตั้งแต่ปี 2018 หลังเริ่มจากบทบาทผู้ช่วย ก่อนพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2021 และสามารถพาทีมจบอันดับกลางตารางตลอด 3 ฤดูกาลหลัง แม้ต้องเสียนักเตะตัวหลักหลายราย
ในฤดูกาลที่ผ่านมา เบรนท์ฟอร์ดจบอันดับ 10 ของตาราง โดยมีนักเตะถึง 3 รายทำประตูถึงเลขสองหลัก ได้แก่ ไบรอัน เอ็มเบอโม่, โยอัน วิสซ่า และ เควิน ชาเด้
แฟรงค์นิยมใช้ระบบ 4-3-3 เป็นพื้นฐาน แต่สามารถปรับใช้ 3-5-2, 4-2-3-1 หรือแม้แต่การเล่นเกมสวนกลับด้วยการใช้บอลยาวและลูกเซ็ตพีซอย่างมีประสิทธิภาพตามคู่แข่ง
ความสามารถในการวางระบบเพรสสูง, ต่อบอลจากแนวหลัง และการให้เสรีภาพแนวรุกหมุนเวียนตำแหน่งอย่างยืดหยุ่น คือจุดเด่นสำคัญที่น่าจะเข้ากับโครงสร้างทีมดาวรุ่งของสเปอร์สยุคใหม่
งานแรกของโธมัส แฟรงค์ คือการนำสเปอร์สลุยศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ พบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในวันที่ 13 สิงหาคม ที่อูดิเน่ ประเทศอิตาลี
นี่จะเป็นการคุมทีมนัดแรกในเวทียุโรประดับสูง หลังจากแฟรงค์เคยมีประสบการณ์ในยูโรป้าลีกรอบคัดเลือกเพียงช่วงสมัยคุมบรอนด์บี้
...
การเข้ามาของ โธมัส แฟรงค์ ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนระยะยาว ด้วยแนวทางพัฒนาดาวรุ่งและแท็คติกที่ยืดหยุ่น แตกต่างจากสไตล์เดิมที่ผ่านมา ความสำเร็จในการประเดิมงานกับสเปอร์สจะเป็นบททดสอบสำคัญว่ากุนซือชาวเดนมาร์กรายนี้จะสามารถยกระดับทีมกลับมาลุ้นพื้นที่หัวตารางพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่