เชลซี เตรียมเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในคืนวันศุกร์นี้ เวลา 02.15 น. โดยเจ้าบ้านต้องการชัยชนะเพื่อรักษาสิทธิ์ลุ้นตั๋วแชมเปียนส์ลีก ขณะที่ทีมเยือนยังคงดิ้นรนหนีจากการจบฤดูกาลด้วยผลงานเลวร้ายที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาลที่แล้ว เชลซีจบอันดับ 6 และได้ไปเล่นยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก สำหรับซีซันนี้ พวกเขาตั้งเป้าจบท็อป 5 เพื่อกลับคืนสู่เวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง หลังจากเคยคว้าแชมป์รายการนี้ในปี 2021 ภายใต้การคุมทีมของโธมัส ทูเคิล
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มแรงของ “สิงห์บลูส์” ต้องสะดุดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังบุกพ่ายนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-2 ทำให้โอกาสจบท็อป 5 ยังไม่แน่นอน โดยตอนนี้ลูกทีมของเอ็นโซ่ มาเรสก้ายังรั้งอันดับ 5 แต่มีแต้มเท่ากับแอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 6
อย่างไรก็ตาม เชลซียังมีความมั่นใจในเกมเหย้า เนื่องจากพวกเขาไม่แพ้ใครในลีกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์นับตั้งแต่วันบ็อกซิ่งเดย์ โดยแพ้คาบ้านเพียง 2 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ เป็นรองแค่ลิเวอร์พูลและแอสตัน วิลล่า (ทีมละ 1 นัด)
ทางฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงฟอร์มย่ำแย่ไม่เลิก โดยล่าสุดแพ้เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 คารังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำให้พวกเขาไม่ชนะใครในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันถึง 7 นัด และหล่นไปอยู่อันดับ 16 มีเพียง 39 แต้มเท่านั้น
แม้ว่ายังมีลุ้นแชมป์ยูโรปาลีกกับสเปอร์สในสัปดาห์หน้า แต่อาการในเกมลีกก็ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเกมเยือนที่แพ้มา 3 จาก 4 นัดหลังสุด และชนะเกมเยือนล่าสุดตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม
แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้วถึง 17 นัด และยังมีโอกาสสูงที่จะจบฤดูกาลโดยมีไม่ถึง 40 คะแนน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มักจะเป็นของทีมหนีตกชั้น
นิโกลัส แจ็คสัน โดนใบแดงในเกมกับนิวคาสเซิล และจะหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกที่เหลือทั้งหมด ส่วน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู , มาร์ก กิอู , เวสลีย์ โฟฟานา และโอมาริ เคลลีย์แมน ยังอยู่ในลิสต์บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ เจดอน ซานโช ไม่สามารถลงสนามนัดนี้ได้เนื่องจากเป็นการเจอทีมต้นสังกัดที่แท้จริง
เจอปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้าเช่นกัน โดย โจชัว เซิร์กซี, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และดิโอโก้ ดาโลต์ ยังไม่ฟิต เช่นเดียวกับรายล่าสุดอย่าง เลนี โยโร่ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่เท้าในเกมพ่ายเวสต์แฮม ก็จะพลาดลงเล่นในเกมนี้เพื่อไปลุ้นช่วยทีมในนัดชิง ยูโรปา ลีก ที่รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์หน้า