
หลังทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพเป็นปีที่สามติดต่อกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังเดินหน้าคว้าชัยในพรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของวูล์ฟแฮมป์ตันในคืนวันศุกร์นี้ เวลา 02.00 น.
แม้จะหมดลุ้นแชมป์ลีกอย่างเป็นทางการ แต่ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงมีเป้าหมายชัดเจนกับการคว้าอันดับท็อปไฟว์ เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ขณะที่วูล์ฟส์เองก็กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรงสุดขีด ชนะรวด 6 นัดติดในลีก
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอลเรือใบสีฟ้ามีทั้งความสุขและความเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน ทีมรักของพวกเขาผ่านเข้าชิงเอฟเอ คัพ ด้วยชัยชนะ 2-0 เหนือฟอเรสต์ที่เวมบลีย์ แต่ในเวลาเดียวกัน ลิเวอร์พูลก็การันตีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ทำให้ซิตี้ต้องยุติยุคครองความยิ่งใหญ่ในลีกไว้เพียงเท่านี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีโอกาสจบฤดูกาลด้วยอันดับสาม หากเก็บสามแต้มจากวูล์ฟส์ได้ในเกมนี้ โดยจะเป็นการชนะ 4 นัดติดในลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล
แม้ผลงานจะกระเตื้องขึ้น แต่ความไม่แน่นอนในเรื่องขุมกำลังยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม สถิติในบ้านพบวูล์ฟส์เข้าข้างเจ้าถิ่นเต็มที่ เมื่อพวกเขาชนะ 8 จาก 9 นัดหลังสุดที่เอติฮัด
ในฝั่งทีมเยือน วูล์ฟแฮมป์ตันกำลังลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการคว้าชัยในลีก 7 นัดติดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 80 ปี หลังล่าสุดเปิดบ้านถล่มเลสเตอร์ 3-0 โดยคู่หูแนวรุกอย่างยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน และมาเตอุส คุนญ่า ต่างพากันมีชื่อบนสกอร์บอร์ด
จากที่เคยต้องลุ้นหนีตกชั้น ปัจจุบันวูล์ฟส์กลายเป็นทีมฟอร์มแรงประจำเดือน และหากเก็บชัยในเกมนี้ได้อีก จะขยับเข้าใกล้อันดับ 12 อย่างคริสตัล พาเลซ เหลือเพียง 1 แต้ม
แม้ผลงานในการพบกันกับแมนฯ ซิตี้จะย่ำแย่ โดยแพ้ถึง 8 จาก 9 นัดหลังสุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2019/20 แต่ลูกทีมของวิตอร์ เปเรย์ราก็ไม่เกรงศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น หลังคว้าชัยในเกมเยือนมาแล้ว 4 นัดรวด และตั้งเป้าล้างแค้นจากเกมที่โดน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พาทีมถล่ม 5-1 เมื่อปีก่อน
เป๊ปยังต้องปวดหัวกับปัญหาอาการบาดเจ็บ โดยไม่มีชื่อของเออร์ลิง ฮาลันด์, โรดรี้, จอห์น สโตนส์ และนาธาน อาเก้ ขณะที่ออสการ์ บ็อบบ์ และเอแดร์ซอนก็ยังไม่แน่ว่าจะฟิตทันหรือไม่ ทำให้สเตฟาน ออร์เตก้าอาจได้ลงเฝ้าเสาต่ออีกนัด
ในแนวรุก โอมาร์ มาร์มูช น่าจะรับบทหน้าเป้าแทนฮาลันด์ต่อไป โดยทั้ง 6 ประตูของเขาในพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นที่เอติฮัดทั้งหมด ขณะที่เจมส์ แม็คอาที กลับมามีชื่อหลังพ้นโทษแบน ด้านแจ็ค กรีลิช, ซาวินโญ่ และเฌเรมี่ โดกู ต่างพร้อมแย่งตำแหน่งตัวจริง
เควิน เดอ บรอยน์ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในการเจอกับวูล์ฟส์ โดยมีส่วนร่วมกับ 10 ประตูจาก 9 เกมลีก อาจได้โอกาสลงตัวจริงเช่นกัน
มาเตอุส คุนญ่า ที่ทำไปแล้ว 21 ประตู+แอสซิสต์ในลีกฤดูกาลนี้ ยังคงเป็นกำลังสำคัญ ขณะที่ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน ก็ฟอร์มร้อนแรง ยิง 6 ประตูจาก 6 นัดหลัง และ 4 จากนั้นเป็นประตูชัย
แซม จอห์นสโตน น่าจะยังไม่พร้อมคืนสนาม แต่ฮวาง ฮี-ชาน และฌ็อง-ริคแนร์ เบลเลการ์ด กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองแล้ว ส่วนซาซ่า คาลัดจ์ซิช, เอ็นโซ กอนซาเลซ และ เยร์ซอน มอสเกรา ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย