ตลอดฤดูกาล อาร์เน่อ ชล็อต เป็นพลังขับเคลื่อนที่นิ่งสงบและแน่วแน่ พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ได้อย่างเกินความคาดหมาย และเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกของเขา อีกทั้งยังเป็นกุนซือคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกในอังกฤษ
ความสำเร็จนี้ยิ่งพิเศษ เมื่อพิจารณาว่า ชล็อต รับไม้ต่อจากยุคเก้าปีของเจอร์เก้น คล็อปป์ โดยไม่ได้เสริมทัพครั้งใหญ่ แต่เขาพัฒนาศักยภาพนักเตะที่มีอยู่ พร้อมนำทีมไม่แพ้ใครถึง 26 นัดติดต่อกันในลีก ระหว่างกันยายนถึงเมษายน
การเริ่มต้นทำงานเฮดโค้ชในถิ่นแอนฟิลด์ไม่ง่ายนัก หลายคนกลับมารายงานตัวช้าจากภารกิจทีมชาติ แต่ ชล็อตไม่เสียเวลา ค่อยๆปรับทีมเข้าสู่แนวทางใหม่ นั่นคือการครองบอลอย่างมีระเบียบแทนที่จะเร่งรีบตั้งเกมบุก
ที่ศูนย์ฝึกเคิร์กบี้ ชล็อตเน้นการปรับแต่ง มากกว่ารื้อใหม่ทั้งหมด เขาคงกลุ่มผู้นำทีมอย่างเฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และอลิสซง ไว้เหมือนเดิม
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น กำหนดให้นักเตะรับประทานอาหารเช้าที่สนามซ้อมร่วมกันทุกวัน และยกเลิกธรรมเนียมเข้าพักโรงแรมก่อนเกมเหย้า
ไฮไลต์สำคัญคือการติดตั้งคอฟฟี่บาร์ที่ทางเข้าศูนย์ฝึก สร้างบรรยากาศผ่อนคลายและกระชับความสัมพันธ์ในทีมได้ดี โมฮาเหม็ด ซาลาห์กับโดมินิค โซโบซไลกลายเป็นลูกค้าประจำ
อย่างไรก็ตาม นักเตะหลายคนต้องปรับตัวกับจำนวนการประชุมและการวิเคราะห์ผลงานรายบุคคลที่เพิ่มขึ้น เพราะชล็อตต้องการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในทีม
ทีมงานใหม่ของสล็อต เช่น ซิปเค่ ฮุลชอฟฟ์, จอห์น ไฮติงก้า, แอรอน บริกส์, รูเบน พีเตอร์ส และฟาเบียน อ็อตเต้ ก็สร้างความประทับใจได้รวดเร็ว ทั้งยังเสริมบทบาทด้านแท็กติกด้วยการดึงโรเดอริก ฟาน เดอร์ ฮัม จากเฟเยนูร์ดมาช่วยงาน
แม้ชล็อตจะเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น แต่ทุกคนรู้ดีว่าเขาคือผู้นำตัวจริง
แม้เสียงเรียกร้องจากภายนอกอยากเห็นการเสริมทัพ แต่ ชล็อตเชื่อมั่นในศักยภาพนักเตะที่มีอยู่ เขาฟื้นฟอร์มของอิบราฮิม่า โกนาเต้, โดมินิค โซโบซไล และหลุยส์ ดิอาซ ได้สำเร็จ
เป้าหมายตลาดซื้อขายคือมิดฟิลด์ตัวรับและกองหน้าสำรอง แต่ดีลใหญ่กับมาร์ติน ซูบีเมนดี้ล่มลงในนาทีสุดท้าย ส่วนข้อเสนอสำหรับมานูเอล อูการ์เต้ ก็ถูกปฏิเสธเพราะไม่ตรงสไตล์
สุดท้าย ลิเวอร์พูลคว้าเฟเดริโก้ เคียซ่าจากยูเวนตุสด้วยค่าตัวเริ่มต้นเพียง 10 ล้านปอนด์ แม้จะไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งได้ แต่ทีมก็ทำกำไรสุทธิจากตลาดนักเตะ
การที่ทีมยังคงเสถียร ส่งผลให้ชล็อตสามารถวางรากฐานใหม่ได้อย่างมั่นคง
ซาลาห์เองก็กลับมาเล่นด้วยความสุขอีกครั้ง หลังเจ็บกล้ามเนื้อในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ ฤดูกาลก่อน เขาทำผลงานได้โดดเด่น ทั้งยิงประตูและสร้างโอกาสมากมาย กลายเป็นหัวใจสำคัญในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์อีกครั้ง
"ก่อนร่วมงาน ผมไม่คิดว่าอาร์เน่อจะเก่งขนาดนี้ แต่พอได้ทำงานด้วยจริงๆ ก็ไม่แปลกใจเลย" ซาลาห์ยกย่อง
อาร์เน่อ ชล็อต จัดการสถานการณ์วุ่นวายเกี่ยวกับสัญญาของบรรดานักเตะตัวหลักอย่างซาลาห์, ฟาน ไดค์ และอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ได้อย่างสุขุม เขาไม่สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมหรือตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งจากการตอบคำถามสื่อ ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในห้องแต่งตัวและบอร์ดบริหาร
ในสนาม ฟาน ไดค์ยินดีรับบทบาทใหม่ที่ชล็อตมอบหมาย ด้วยการเป็นจุดเริ่มต้นเกมรุกผ่านการจ่ายบอลแนวลึก ขณะที่อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ก็ได้พัฒนาทักษะเกมรับจากการติวตัวต่อตัวอย่างเข้มข้น
ชล็อตแสดงความเด็ดขาดทันทีตั้งแต่นัดแรก เมื่อเปลี่ยนตัวจาเรลล์ ควานซาห์ออกกลางคันเพราะไม่พอใจที่ทีมแพ้ดวลปะทะมากเกินไป แต่เขาก็เรียกควานซาห์มาคุยที่ศูนย์ฝึกเคิร์กบี้ในวันรุ่งขึ้น เพื่ออธิบายเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาและป้องกันไม่ให้ความไม่พอใจฝังใจ
ด้วยความซื่อสัตย์และการสื่อสารที่ชัดเจน ชล็อตได้รับความเคารพแม้จากนักเตะที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม เพราะทุกคนรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนในสายตาเขา
เขาปรับแผน 4-2-3-1 ให้กลายเป็น 4-2-4 ยามบีบเกมสูง ทำให้แผงหลังมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ปลุกศักยภาพของโคดี้ กัคโปได้เต็มที่ ด้วยการขยับเขาไปเล่นริมเส้นซ้าย
ผลลัพธ์ในสนามตอบแทนแนวทางของเขาอย่างรวดเร็ว ชล็อตกลายเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนแรกในรอบ 88 ปีที่พาทีมบุกชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนัดแรก และยังเป็นคนแรกที่พาทีมชนะ 3 เกมลีกแรกแบบไม่เสียประตูเลย
ชัยชนะเหนือแชมป์เยอรมัน (เลเวอร์คูเซ่น), สเปน (เรอัล มาดริด) และอังกฤษ (แมนฯ ซิตี้) รวมสกอร์ 8-0 ทำให้สถิติการพบทีม “บิ๊กซิกซ์” ดีขึ้นอย่างมาก จากที่ฤดูกาลก่อนเก็บได้แค่ 12 แต้ม จาก 30 แต้มเต็ม มาเป็น 20 แต้มจาก 24 แต้มในปีนี้
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือวันที่ 2 พฤศจิกายน เมื่ออาร์เซน่อลแพ้ที่นิวคาสเซิล และซิตี้พ่ายที่บอร์นมัธ ในขณะที่ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะไบรท์ตัน 2-1 จากประตูของกัคโปและซาลาห์ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงตั้งแต่นั้นมา
ความเชื่อมั่นภายในทีมพุ่งสูงช่วงคริสต์มาส โดยเฉพาะหลังถล่มสเปอร์ส 6-3 และเวสต์แฮม 5-0 พร้อมกับความร่วมมือที่ดีขึ้นระหว่างทีมฟุตบอลและทีมแพทย์ ส่งผลให้สถิติอาการบาดเจ็บลดลงอย่างชัดเจน
อีกหนึ่งตัวอย่างของการดูแลเชิงลึก คือการตรวจเช็กสุขภาพที่ละเอียดมากขึ้น เช่น การนอน อาหาร ไปจนถึงการขับถ่าย พร้อมเพิ่มกิจกรรมอย่างโยคะและการฝึกหายใจเพื่อการฟื้นตัว
ขณะที่กระแสข่าวการย้ายทีมก็ถูกจัดการอย่างเด็ดขาด ลิเวอร์พูลปฏิเสธข้อเสนอจากเรอัล มาดริดที่ยื่นซื้ออเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 20 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม รวมถึงข้อเสนอจากลีกซาอุฯที่ยื่นขอซื้อดาร์วิน นูนเญซ
แม้จะมีช่วงสะดุด เช่นการแพ้ในคาราบาวคัพที่ลอนดอนท่ามกลางสภาพอากาศสุดโหด หรือเหตุการณ์ที่ ชล็อตปะทะคารมกับผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์ในเกมพบเอฟเวอร์ตัน แต่ทีมก็ยังคงมุ่งมั่นไม่เปลี่ยน
ชล็อตไม่อภัยให้กับความเฉื่อยชา ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาวิจารณ์นูนเญซอย่างตรงไปตรงมา หลังพลาดโอกาสสำคัญในเกมเสมอวิลลา 2-2 ว่า "คุณพลาดโอกาสยิงได้ แต่คุณห้ามพลาดเรื่องความขยัน"
ในขณะที่นักเตะแบบวาตารุ เอ็นโด กลับได้รับคำชมว่าเป็นตัวอย่างของจิตใจนักสู้ที่ชล็อตต้องการ
ชัยชนะเหนือซิตี้ที่เอติฮัด สเตเดียม 2-0 กลายเป็นจุดยืนยันถึงอัจฉริยภาพทางแท็กติกของเขา ลิเวอร์พูลครองบอลแค่ 34% แต่เล่นด้วยความนิ่งและแม่นยำไร้ที่ติ
แม้เจอความยากลำบากในเดือนมีนาคม ทั้งการตกรอบแชมเปียนส์ลีกและพลาดถ้วยคาราบาวคัพ แต่ชล็อตเลือกตอบสนองด้วยการให้ทีมได้พักและรีเซ็ตจิตใจ
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูลกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ปิดฉากด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะการถล่มสเปอร์ส 5-1 ต่อหน้าแฟน ๆ ที่แอนฟิลด์
นี่คือความสำเร็จที่ไม่อาจมองข้ามได้
...
จากทีมที่หลายคนคาดหวังแค่ "ติดท็อปโฟร์" กลับกลายเป็นแชมป์ด้วยฟอร์มที่สวยหรู และผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดก็คือชายที่ชื่อ อาร์เน่อ ชล็อต โค้ชที่มาพร้อมความหลงใหลในฟุตบอล และเปิดฉากยุคใหม่ของลิเวอร์พูลได้อย่างสมบูรณ์แบบในทันที