svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"เลสเตอร์ ซิตี้" กับซีซั่นที่เต็มไปด้วยขวากหนาม และการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

29 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนรอยความสำเร็จของ "เลสเตอร์ ซิตี้" ที่เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จด้วยเวลาแค่ 1 ฤดูกาล ท่ามกลางอุปสรรคนานัปการทั้งในและนอกสนาม พวกเขาทำได้อย่างไร?

"วันนี้ พวกเราทุกคนเจ็บปวดและผิดหวัง แต่พวกเราจะกลับมา" 

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ส่งสารถึงแฟนบอลหลังจบฤดูกาล 2022/23 หลัง เลสเตอร์ ซิตี้ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกสู่แชมเปี้ยนชิพ

จากวันนั้นถึงวันนี้ ในที่สุด "จิ้งจอกสยาม" ก็ได้กลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เมื่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสองของตาราง บุกไปพ่าย ควีนสพาร์ค เรนเจอร์ส 0-4 ทำให้ ลีดส์ มี 90 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมอีกเพียงหนึ่งนัด ส่งผลให้ เลสเตอร์ การันตีจบสองอันดับแรก ได้สิทธิเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติแน่นอนแล้ว

เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับทีมที่เพิ่งตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกจะเลื่อนกลับสู่จุดเดิมของพวกเขาได้ในระยะเวลาแค่ 1 ปี เพราะการตกชั้นหมายถึงการสูญเสียรายได้มหาศาลจนทำให้สโมสรต้องรัดเข็มขัด จำใจปล่อยผู้เล่นค่าจ้างแพงๆออกไป สวนทางกับนักเตะฝีเท้าดีๆก็ไม่มีใครอยากจะย้ายมาเล่นให้ทีมในลีกรอง

แล้ว เลสเตอร์ ซิตี้ ทำได้อย่างไร?

เอ็นโซ่ มาเรสก้า นายใหญ่คนใหม่ของ เลสเตอร์ ซิตี้

  • ยอมรับและปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง

มีการประเมินกันว่า การตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกสู่แชมเปี้ยนชิพ จะทำให้สโมสรมีรายได้ลดลงมากกว่า 100 ล้านปอนด์ นั่นทำให้ฝ่ายบริหาร เลสเตอร์ ต้องรีบจัดการลดรายจ่ายให้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ทีมมีคุณภาพดีพอที่จะเลื่อนชั้นให้ได้ด้วย

เป็นโจทย์ง่ายๆแต่ทำยาก 

เริ่มจากการหาตัวกุนซือคนใหม่ หลัง ดีน สมิธ ต้องอำลาเก้าอี้ไปเนื่องจากไม่สามารถนำทัพ "จิ้งจอกสยาม" อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้ ซึ่งโดยปกติแล้วทีมที่เพิ่งตกชั้นมักจะเลือกกุนซือประสบการณ์สูงๆที่เคยมีประวัติพาทีมเลื่อนชั้นเข้ามาทำทีม แต่ เลสเตอร์ กลับเลือกแนวทางที่ต่างออกไป

แน่นอนว่าการตกชั้นทำให้เลสเตอร์หาตัวกุนซือที่สนใจมาทำงานด้วยน้อยลง ไม่ว่าจะเป็น เกรแฮม พอตเตอร์ และ โธมัส แฟรงค์ ที่ปฏิเสธงานนี้ แต่บอร์ดบริหารเลสเตอร์กลับต้องการกุนซือหนุ่มไฟแรงที่จะเข้ามาเพิ่มไอเดียใหม่ๆและทำทีมในระยะยาวมากกว่ากุนซือประเภท "มือปืนรับจ้าง" ที่มีประสบการนำทีมเลื่อนชั้นมากมาย 

ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเลือก "เอ็นโซ่ มาเรสก้า" อดีตผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนฯซิตี้ เข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ ซึ่ง มาเรสก้า ก็เริ่มทำงานหนักตั้งแต่วันแรก เริ่มจากการเรียกทีมงานทั้งหมดมาเตรียมงานสำหรับการสู้ศึกฤดูกาลใหม่อย่างเข้มข้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็มชนิดที่ไม่ได้กลับบ้านและต้องนอนโรงแรมใกล้ๆศูนย์ฝึกของสโมสร ทั้งหมดช่วยกันวิเคราะห์อย่างหนักหน่วง คิดโปรแกรมการฝึกซ้อมเพื่อปรับเปลี่ยนให้ เลสเตอร์ หันไปเล่นในสไตล์เน้นการครองบอลและผ่านบอลเหมือนกับ แมนฯซิตี้ ซึ่งเป็นปรัชญาการทำทีมที่ มาเรสก้า ชื่นชอบ

แต่ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เลสเตอร์ จำเป็นต้องลดรายจ่ายของสโมสร ทำให้ มาเรสก้า ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่นักเตะในทีมของเขาค่อยๆถูกปล่อยตัวออกจากทีม ผู้เล่นทีมชุดใหญ่ถึง 10 คนต้องจากไป โดย 7 คนหมดสัญญากลายเป็นฟรีเอเยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ยูริ ติเลอม็องส์, อโยเซ่ เปเรซ, คักลาร์ โซยุนคู, ไรอัน เบอร์ทรานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ดาเนียล อมาร์ตีย์ และนัมปาลิส เมนดี้ 7 คนนี้คือนักเตะที่ถูกดึงเข้ามาด้วยค่าตัวรวมถึง 100 ล้านปอนด์

ส่วนคีย์แมนอีก 3 คนคือ เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ ทิโมธี่ คาสตาญ ถูกขายไปในราคารวมกัน 85 ล้านปอนด์ 

จริงๆแล้ว เลสเตอร์ พยายามขายนักเตะให้มากกว่านี้ รวมถึง แดนนี่ วอร์ด ผู้รักษาประตูทีมชาติเวลส์ แต่ก็ไม่สามารถหาผู้ซื้อได้หรือผู้เล่นปฏิเสธที่จะย้าย เช่นเดียวกับกรณีของ แฮร์รี เซาต์ทาร์ กองหลังชาวออสเตรเลีย และ แพตสัน ดาก้า ที่การเจรจากับ บอร์นมัธ ล้มเหลวในวันสุดท้ายของตลอดซื้อขายนักเตะ

ส่วน ลุค โธมัส (มิดเดิลสโบรห์), วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น (โบโลญญ่า) และบูบาการี่ ซูมาเร (เซบีญ่า) ก็ถูกปล่อยออกจากทีมแบบยืมตัวเพื่อลดค่าจ้าง ขณะที่นักเตะที่ยังอยู่ก็ต้องถูกลดค่าเหนื่อยลงไปด้วยส่วนหนึ่ง

ในทางกลับกัน "จิ้งจอกสยาม" ก็พยายามเสริมทัพเพื่อกลับสู่ลีกสูงสุดให้ได้ แต่งบประมาณที่ใช้ไปถือว่าน้อยมากๆ โดยจ่ายเงินราว 10 ล้านปอนด์กับ แฮร์รี่ วิงส์ และ 7 ล้านปอนด์กับ คอเนอร์ โคดี้, 6 ล้านปอนด์กับ สเตฟีย์ มาวิดิดี้ และผู้รักษาประตู แมดส์ เฮอร์มันเซ่น รวมถึงการจ่ายอีก 7.5 ล้านปอนด์กับ ทอม แคนนอน กองหน้าจากเอฟเวอร์ตัน พร้อมยืมตัว ยูนุส อัคกุน (กาลาตาซาราย) และ อับดุล ฟาตาวู (สปอร์ติ้ง ลิสบอน) เข้ามาช่วยทีม

แม้จะเต็มไปด้วยปัญหาที่เหล่าสตาร์ถูกขายและได้ตัวแข้งที่แทบไม่มีใครรู้จักมาอยู่ในทีม แต่กุนซืออย่าง เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็สู้ไม่ถอย ติดตั้งโปรแกรมซ้อมหนักให้ทีม 2 เซสชั่นในแต่ละวัน ลดโปรแกรมทัวร์ปรีซีซั่นต่างแดนลง เพื่อติดตั้งแท็กติกใหม่สู่ทีมโดยเร็วที่สุด และรวมถึงการพยายามเกลี้ยกล่อมนักเตะบางรายให้อยู่ช่วยทีมต่อไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น วิลเฟรด เอ็นดิดี้ , ยานนิค เวสเตอร์การ์ด และ เวาต์ ฟาสต์

และเหล่านักเตะก็ชื่นชอบกับแท็กติกของกุนซือใหม่เป็นอย่างมาก

“ผู้จัดการทีมคนนี้น่าทึ่งมากกับความรู้ด้านแท็กติก เขาทำให้เกมง่ายขึ้นมาก” แฮร์รี่ วิงส์ กล่าว 

\"เลสเตอร์ ซิตี้\" กับซีซั่นที่เต็มไปด้วยขวากหนาม และการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

  • เริ่มต้นอย่างร้อนแรง

เลสเตอร์ ออกสตาร์ทฤดูกาล 2023/24 ในลีกแชมเปี้ยนชิพได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะถึง 13 เกมจาก 14 เกมแรกในลีก และหลังจากสะดุดแพ้ต่อ ลีดส์ และ มิดเดิลสโบรห์ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พวกเขาก็กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง โดยชนะถึง 7 จาก 9 นัด และไม่แพ้ใครอีกเลยในช่วงที่เหลือของปี 2023

แม้ เลสเตอร์ จะเก็บไปถึง 62 คะแนนจากทั้งหมด 75 แต้ม  แต่ มาเรสก้า ยังปรามความรู้สึกแฟนบอล ด้วยรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมระดับนั้นไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 13 ม.ค. ถึง 14 ก.พ. เลสเตอร์ทำแต้มหลุดมือไปแค่ 5 แต้มจากทั้งหมด 7 เกม ทำให้มีแต้มนำลีดส์ที่ตามมาเป็นที่สองอยู่ถึง 12 คะแนน แฟนๆหลายคนเริ่มมองไปถึงการเลื่อนชั้นแบบไร้ปัญหากันแล้ว

\"เลสเตอร์ ซิตี้\" กับซีซั่นที่เต็มไปด้วยขวากหนาม และการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

  • เผชิญปัญหานอกสนาม

ในช่วงเวลาที่ เลสเตอร์ ทำผลงานในสนามได้อย่างร้อนแรงอยู่นั้น พวกเขาได้รับคำเตือนจากหน่วยงานตรวจสอบด้านการเงินของ EFL ว่า เลสเตอร์ กำลังละเมิดกฎผลกำไรและความยั่งยืนของลีก (PSR) ซึ่งมีแนวโน้มจะถูกบังคับให้ลดงบประมาณเสริมทัพลง รวมถึงขายผู้เล่นในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว ซึ่งแม้ เลสเตอร์ จะประสบความสำเร็จในการโต้แย้ง แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อแผนการเสริมทัพของ มาเรสก้า เมื่อได้รับคำตอบจากบอร์ดบริหารว่า "ต้องขายก่อนถึงจะซื้อได้"

ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เพราะเลสเตอร์ไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะตามกฏแล้วพวกเขาไม่สามารถใช้เงินที่พวกเขามีได้ ด้วยเหตุนี้จึงพลาดได้ตัว สเตฟาโน่ เซนซี่ ของ อินเตอร์ มิลาน แถมยังเกือบต้องเสียเด็กปั้นของทีมอย่าง เคียร์แนน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ ไปอีกด้วย แต่บอร์ดก็กัดฟันปฏิเสธข้อเสนอของไบรท์ตันไป

ในเดือน มี.ค. เลสเตอร์ โดน พรีเมียร์ลีก ตั้งข้อหาละเมิดกฏ PSR ที่พวกเขาขาดทุนมากกว่า 200 ล้านปอนด์ในช่วง 3 ฤดูกาลหลังที่เล่นในลีกสูงสุด สอดคล้องกับ EFL ที่สั่งลงโทษ เลสเตอร์ ห้ามขึ้นทะเบียนนักเตะใหม่ แถมยังเตรียมจะตัดแต้มอีกด้วย

เลสเตอร์พยายามต่อสู้ทางกฎหมายกับทั้งพรีเมียร์ลีกและ EFL โดยยอมรับว่าพวกเขาอาจฝ่าฝืนกฏจริงๆ แต่จะยอมรับการลงโทษตามกฎที่มีอยู่เท่านั้น พรีเมียร์ลีกจะมาลงโทษทีมที่อยู่ในแชมเปี้ยนชิพไม่ได้ เช่นเดียวกับ EFL จะลงโทษทีมด้วยความผิดที่เกิดขึ้นในสมัยเล่นในพรีเมียร์ลีกไม่ได้เช่นกัน ในที่สุด EFL ก็ยอมรับหลังจากได้รับคำแนะนำทางกฎหมายแล้วว่าไม่สามารถลงโทษสโมสรได้ในฤดูกาลนี้

สิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะคลี่คลายนอกสนาม แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะและแฟนบอลแบบเต็มๆ ท่ามกลางความกดดันในการเลื่อนชั้นให้ได้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

"จิ้งจอกสยาม" ชนะแค่ 3 จาก 10 นัดในช่วงเวลานั้น ส่งผลให้อันดับหลุดจากโควต้าเลื่อนชั้นอัตโนมัติ แฟน ๆ เริ่มเป็นกังวล มีการระบายความหงุดหงิดใส่ผู้เล่นหลังจากพ่ายแพ้ต่อ มิลล์วอลล์ และ พลีมัธ ถึงขั้นที่ มาเรสก้า ถึงกับขู่ว่าจะลาออกหากมีใครมาตั้งคำถามเกี่ยวกับสไตล์การเล่นในทีมของเขา

“ผมมาที่สโมสรแห่งนี้เพื่อเล่นกับไอเดียนี้ หากใครในทีมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวคิดนี้ วันรุ่งขึ้นผมจะลาออกทันที"

เลสเตอร์ เริ่มรวบรวมสมาธิกลับมาได้อีกครั้ง ด้วยการชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ต่อด้วยการถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน 5-0 ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของฤดูกาล และอีกสามวันถัดมา ความพ่ายแพ้ของลีดส์ที่ลอฟตัส โร้ด ก็ทำให้ เลสเตอร์ การันตีเลื่อนชั้นได้ในที่สุด

“นี่อาจเป็นฤดูกาลที่พิเศษที่สุด” คอเนอร์ โคดี้ กล่าว "หลายๆคนคิดว่าเราจะเลื่อนชั้นได้ง่ายๆหากดูจากอันดับของเราในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ผมรู้ดีเพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน (เคยเล่นลีกรองกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฤดูกาล 2017-18) มันยากจริงๆ คุณจะต้องผ่านช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทั้งฤดูกาล"

“กุญแจสำคัญคือการรวมตัวกัน ต่อสู้เพื่อกันและกัน และค้นหาวิธีที่แตกต่างเพื่อชัยชนะ" 

สำหรับ เลสเตอร์ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ยังมีอุปสรรคที่รอคอยอยู่อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมโดนลงโทษตัดแต้มจากคามผิดเดิม รวมถึงการสร้างทีมเพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางงบประมาณที่ถูกบีบรัด และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนนักเตะใหม่หรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวบอก

แต่ที่แน่ๆ ฤดูกาล 2023/24 จะเป็นซีซั่นที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม

\"เลสเตอร์ ซิตี้\" กับซีซั่นที่เต็มไปด้วยขวากหนาม และการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

logoline