โดยในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดที่ 4 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา ทัพ “ช้างศึก“ ทีมชาติไทย พ่ายให้กับ “โสมขาว” เกาหลีใต้ 0-3 ขณะที่ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ทีมชาติจีน ถล่ม สิงคโปร์ ขาดลอย 4-1
จากผลการแข่งขันทั้ง 2 เกมดังกล่าว ทำให้สถานการณ์ในกลุ่มซีตอนนี้ เกาหลีใต้ นำเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม มี 10 คะแนนจาก 4 นัด โอกาสเข้ารอบต่อไปค่อนข้างสดใส ส่วนอันดับ 2 เป็น ทีมชาติจีน ที่มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน ประตูได้เสีย +1 และ ทีมชาติไทย ตกมารั้งอันดับ 3 มี 4 คะแนน ประตูได้เสีย -2 ส่วนสิงคโปร์ รั้งอันดับสุดท้าย มี 1 คะแนน
โดยโปรแกรมใน 2 นัดสุดท้ายของทีมชาติไทย จะบุกไปเยือน จีน วันที่ 6 มิ.ย. ต่อด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สิงคโปร์ ในวันที่ 11 มิ.ย.
เงื่อนไขเข้ารอบ 3
สำหรับเงื่อนไขที่ทีมชาติไทยจะผ่านเข้าสู่รอบ 3 ได้นั้น มีความเป็นไปได้อยู่ 3 กรณีด้วยกัน คือ
อย่างไรก็ตาม หากไทยเสมอจีนและชนะสิงคโปร์ แต่นัดสุดท้ายจีนไม่แพ้เกาหลีใต้ จีนก็จะเป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบต่อไป
ดังนั้นเกมชี้ชะตาของทัพ "ช้างศึก" จะอยู่ที่เกมระหว่างทีมชาติไทยกับจีน ที่ไทยจะต้องเก็บชัยชนะให้ได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องไม่แพ้เพื่อจะยื้อโอกาสไปวัดกันในนัดสุดท้าย ขณะเดียวกันในเกมกับสิงคโปร์ก็ต้องพยายามยิงประตูให้ชนะขาดลอยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าจีน หากทำสำเร็จ ทีมชาติไทย ก็จะคว้าตั๋วลุยรอบคัดเลือกรอบ 3 ทันที
"รอบ 3" สำคัญไฉน?
ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 3 ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่งสำหรับทุกชาติของเอเชียที่ต้องการลุ้นไปเล่นใน เวิลด์คัพ 2026 รอบสุดท้ายที่สหรัฐฯ-แคนาดา-เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม เนื่องจากจะมีทีมที่ผ่านเข้ารอบ 3 อยู่ 18 ทีม และจะคัดเอาทีมไปบอลโลกถึง 8.5 ทีม
แน่นอนว่าบรรดาชาติยักษ์ใหญ่ของเอเชียอย่าง เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย หรือแชมป์เอเชียทีมล่าสุดอย่าง กาตาร์ ต่างก็เป็นทีมเต็งอยู่แล้ว แต่ชาติอื่นๆที่ผ่านเข้ารอบนี้ถือว่ามีลุ้นทั้งหมด เพราะหลังจากรอบนี้แต่ละทีมจะมีเกมให้แก้ตัวอีกหลายนัดทีเดียว
สำหรับการแข่งขัน รอบ 3 ทั้ง 18 ทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบนี้ได้ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม รวม 6 ทีม จะได้สิทธิไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ทันที ขณะที่ทีมอันดับ 3 และ 4 ของแต่ละกลุ่มจะต้องไปแข่งในรอบ 4 เพื่อแย่งโควต้าที่เหลือ
จากนั้นใน รอบ 4 ทีมอันดับที่ 3 และ 4 จากแต่ละกลุ่มของรอบ 3 จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม แชมป์ของทั้ง 2 กลุ่ม จะได้ได้สิทธิไปเล่นฟุตบอลโลก 2026
ขณะที่รองแชมป์ของทั้ง 2 กลุ่ม ต้องไปแข่งขันใน รอบ 5 เพื่อหา 1 ทีม ไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมจากทวีปอื่น ๆ อีกครั้ง ในการแย่งตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
..........
กล่าวโดยสรุปคือ หาก "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบ 3 ได้ โอกาสไปเล่นรอบสุดท้ายก็จะเปิดกว้างขึ้นทันที เนื่องจากบรรดาทีมเต็งของเอเชียน่าจะคว้าสิทธิ์ไปตั้งแต่จบรอบ 3 แล้ว แต่ ทีมชาติไทย ยังมีโอกาสแก้ตัวในรอบ 4 ซึ่งน่าจะเจอกับชาติที่มีความแข็งแกร่งน้อยลงมาก ยังมีโอกาสลุ้นถึงการเป็นแชมป์กลุ่มได้อยู่ และแม้จะไม่ได้แชมป์กลุ่มในรอบ 4 ตำแหน่งรองแชมป์กลุ่มก็ยังเพียงพอที่จะได้แก้ตัวในรอบ 5 เพื่อไปเพลย์ออฟกับทวีปอื่น
ดังนั้นเหนือสิ่งอื่นใด แฟนบอลชาวไทยต้องร่วมส่งใจเชียร์ ให้ "ช้างศึก" บุกเอาชนะจีนให้ได้ ในการเจอกันวันที่ 6 มิ.ย.นี้