ส่องโอกาส "แมนยู" มีลุ้นแค่ไหนกับการเข้ารอบ UCL
โดยสถานการณ์ล่าสุดของศึกฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หลังผ่านไปแล้ว 4 นัด ในกลุ่ม เอ อันดับ 1 บาเยิร์น มิวนิค มี 12 คะแนน (ผ่านเข้ารอบไปแล้ว) อันดับ 2 โคเปนเฮเก้น มี 4 คะแนน อันดับ 3 กาลาตาซาราย มี 4 คะแนน และอันดับสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มี 3 คะแนน
ส่วนโปรแกรม 2 นัดสุดท้าย มีดังนี้
นัดที่ 5
- 29/11/23 กาลาตาซาราย พบ แมนฯยูไนเต็ด
- 29/11/23 บาเยิร์น พบ โคเปนเฮเก้น
นัดที่ 6
- 12/12/23 แมนฯยูไนเต็ด พบ บาเยิร์น
- 12/12/23 โคเปนเฮเก้น พบ กาลาตาซาราย
สำหรับโอกาสเข้ารอบของ แมนฯยูไนเต็ด ที่จะได้เป็น 1 ใน 16 ทีมสุดท้าย มีดังนี้
- ต้องบุกไปชนะ กาลาตาซาราย ให้ได้
- ต้องลุ้นให้ บาเยิร์น ชนะ โคเปนเฮเก้น
- หากข้อ 1-2 ทำได้ จะทำให้อันดับ 1 เป็น บาเยิร์น มี 15 คะแนน, อันดับ 2 แมนฯยูไนเต็ด มี 6 คะแนน อันดับ 3 และ 4 เป็น กาลาตาซาราย กับ โคเปนเฮเก้น ที่มี 4 คะแนนเท่าเดิม
- จากนั้นในนัดสุดท้าย แมนฯยูไนเต็ด จะต้องเอาชนะ บาเยิร์น ให้ได้ เพื่อเก็บเพิ่มเป็น 9 แต้ม คว้ารองแชมป์กลุ่ม ส่วนคู่ระหว่าง โคเปนเฮเก้น กับ กาลาตาซาราย ต่อให้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะได้ก็จะมีแค่ 7 คะแนน จบแค่อันดับ 3
- แต่หาก แมนฯยูไนเต็ด เสมอ บาเยิร์น แล้วคู่ระหว่าง โคเปนเฮเก้น กับ กาลาตาซาราย ต่อให้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ทีมนั้นก็จะมี 7 แต้มเท่ากับ "ปีศาจแดง" ซึ่งก็ต้องมาวัดกันที่เกณฑ์การตัดสินเข้ารอบของยูฟ่า ที่มีเกณฑ์ตามลำดับดังนี้
1) เฮดทูเฮด
2) ผลประตูได้เสียวัดกับทีมที่แต้มเท่ากัน
3) ประตูที่ยิงได้วัดกับทีมที่แต้มเท่ากัน
4) ผลต่างประตูได้เสียรวมทั้งกลุ่ม
5) ประตูที่ยิงได้ รวมทั้งกลุ่ม
6) ประตูทีมเยือน รวมทั้งกลุ่ม
7) จำนวนนัดที่ชนะทั้งหมด
8) จำนวนเกมเยือนที่ชนะทั้งหมด
9) คะแนนแฟร์เพลย์
10) ค่าสัมประสิทธิ์ของแต่ละทีม
- ถ้าแมนฯยูไนเต็ดแพ้บาเยิร์นในเกมสุดท้าย ต้องลุ้นให้คู่ระหว่าง โคเปนเฮเก้น กับ กาลาตาซาราย เสมอกัน ซึ่งจะทำให้ "ปีศาจแดง" มี 6 แต้ม ส่วนอีก 2 ทีมจะมี 5 แต้ม
สรุปแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการแข่งขันนัดที่ 5 ที่จะต้องได้ผลลัพธ์ตามข้อ 1-2 ถึงจะได้ลุ้นเข้ารอบกันต่อไป อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าไม่ใช่งานง่ายเพราะ กาลาตาซาราย มักจะทำผลงานได้ดีอยู่เสมอในยามที่ได้เล่นในบ้าน จากความได้เปรียบด้านเสียงเชียร์ที่สร้างความกดดันให้ผู้มาเยือนได้ทุกราย