ถ่ายทอดสด "ลิเวอร์พูล vs เรอัล มาดริด" ยูซีแอล 03.00 น. เช็กสถิติ-ความพร้อม-ช่องชมสด

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ประจำคืนวันอังคารที่ 21 ก.พ. "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่า จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของแชมป์เก่า "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ในเวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN Sports 1

สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

• 29/05/22 ลิเวอร์พูล แพ้ เรอัล มาดริด 0-1
• 15/04/21 ลิเวอร์พูล เสมอ เรอัล มาดริด 0-0
• 07/04/21 เรอัล มาดริด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
• 27/05/18 เรอัล มาดริด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
• 05/11/14 เรอัล มาดริด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล

• 19/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
• 14/02/23 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
• 04/02/23 แพ้ วูล์ฟส์ 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
• 29/01/23 แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (เยือน) เอฟเอ คัพ
• 21/01/23 เสมอ เชลซี 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

เรอัล มาดริด

• 19/02/23 ชนะ โอซาซูน่า 2-0 (เยือน) ลา ลีกา
• 16/02/23 ชนะ เอลเช่ 4-0 (เหย้า) ลา ลีกา
• 12/02/23 ชนะ อัล ฮิลาล 5-3 (กลาง) ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
• 09/02/23 ชนะ อัล อาห์ลี 4-1 (กลาง) ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
• 05/02/23 แพ้ มายอร์ก้า 0-1 (เยือน) ลา ลีกา

สภาพความพร้อมล่าสุด
ลิเวอร์พูล
"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน พาทีมผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ด้วยการคว้ารองแชมป์กลุ่มเอ. ด้วยสถิติชนะ 5 แพ้ 1 ส่วนผลงานล่าสุดบุกทุบ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ในเกมลีก

สำหรับความพร้อมเกมนี้ ยังต้องขาด อิบราฮิม่า โกนาเต้, อาร์ตูร์ เมโล่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ หลุยส์ ดิอาซ เหมือนเดิมเนื่องจากยังไม่หายเจ็บ นอกจากนี้ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ดาร์วิน นูนเญซ ดาวยิงตัวเก่งอีกรายด้วย หลังจากมีอาการเจ็บไหล่จากเกมล่าสุด ซึ่งหากลงไม่ไหวก็จะเป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หรือ ดิโอโก้ โชต้า คนใดคนหนึ่งที่จะได้ลงเป็นตัวจริงแทน

เรอัล มาดริด
"ราชันชุดขาว" ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ เข้ารอบมาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอฟด้วยสถิติชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ส่วนผลงานล่าสุดเอาชนะ โอซาซูน่า มาได้ 2-0 ทำให้ชนะมา 2 เกมรวดนับตั้งแต่คว้าแชมป์สโมสรโลกมาได้

ส่วนความพร้อมเกมนี้ พวกเขาจะยังไม่มี แฟร์กล็อง เมนดี้, มาเรียโน่ ดิอาซ และ เอแด็น อาซาร์ ที่ยังบาดเจ็บ และล่าสุดยังต้องขาด ออเรเลียง ชูอาเมนี กับ โทนี่ โครส ไปอีกเนื่องจากป่วย รวมถึงต้องรอทดสอบความฟิตของ คาริม เบนเซม่า อีกด้วย อย่างไรก็ตามบรรดาดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ พร้อมลงสนามทั้งหมด

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

• ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป

• เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา - ดานี่ เซบายอส, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, ลูก้า โมดริช - เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, โรดรีโก้ โกเอส (คาริม เบนเซม่า), วินิซิอุส จูเนียร์